สังคม

ครอบครัว 'น้องจีฮุน' ใจสลาย อยากให้เป็นแค่ฝันร้าย แม่ร่ำไห้กอดกระเป๋าลูก คาใจครูไม่เห็น ไม่รีบแจ้งเด็กเสียชีวิต

โดย nattachat_c

1 ก.ย. 2565

59 views

จากกรณีน้องจีฮุน อายุ 7 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.2/2 โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่  อ.พานทอง จ.ชลบุรี นอนเสียชีวิตภายในรถตู้รับ-ส่งนักเรียนด้านหลังเบาะคนขับ สภาพคว่ำหน้า มีเลือดออกปาก ตัวซีด ส่วนสาเหตุเบื้องต้นทราบว่า ครูลืมไว้ในรถตู้เพิ่งเจอตอนเย็น พ่อแม่คาใจขอความเป็นธรรมเอาเรื่องถึงที่สุด


แม่ของน้องจีฮุน กล่าวว่า แม่สงสัยว่าลูกสาวอยู่ ป.2 อายุ 7 ขวบ ตัวสูง 130 ซม. รู้วิธีการเปิดประตูรถ ถ้าครูบอกว่าไม่ได้ล็อกรถจริงๆ ทำไมน้องถึงเปิดออกมาไม่ได้ แม่มั่นใจว่าน้องทำได้เป็นเด็กฉลาด


ประตูด้านหลังน้องอาจเปิดลำบาก แต่ประตูหน้าข้างคนขับ หากน้องปีนไปด้านหน้าซึ่งไม่มีอะไรกั้น ก็น่าจะเปิดประตูเองได้ แม่เคยสอนให้น้องเปิดประตูรถ รู้วิธีเอาตัวรอด หากติดอยู่ในรถจะต้องทำอย่างไร


ส่วนรถตู้จอดอยู่บริเวณลานจอดมีหลังคา หัวรถอยู่ในร่ม ท้ายรถโผล่ออกมากลางแดด /บางครั้งแม่ไปส่งลูกสาวที่โรงเรียน มักจะเห็นรถตู้คันนี้จอดอยู่กลางแดดตลอด ส่วนกระจกใสมองเห็นชัดเจน


ปกติลูกสาวจะนั่งเบาะข้างหน้าต่างแถวแรก วันเกิดเหตุน้องก็นั่งตรงนี้ ตนส่งลูกขึ้นรถได้โบกมือให้แม่ ผ่านกระจกรถตู้ ครูบอกว่าหลังจากขับออกจากบ้าน ระหว่างทางมีเด็กอนุบาลขึ้นมา ครูพี่เลี้ยงจึงย้ายน้องจีฮุน ไปนั่งเบาะแถวสามเกือบท้ายรถ


ครูจะไม่รู้เลยเหรอว่าเด็กนั่งจุดไหนบ้าง ครูบอกว่าวันเกิดเหตุเด็กขึ้นรถรับส่งนักเรียนน้อย แม่ยิ่งสงสัยว่าในเมื่อเด็กน้อย ทำไมถึงลืมลูกสาวของตนไว้บนรถ “มันเกิดจากความสะเพร่าแท้ ๆ อยากให้ทางโรงเรียนและคนที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบกับเหตุที่เกิดขึ้น”


จากการสอบถามเด็กชายเอก (นามสมมุติ) เป็นเด็กนักเรียนที่อยู่บนรถคันที่ 3 ในวันเกิดเหตุได้เปิดเผยว่าตนนั่งอยู่หน้ารถข้างคนขับและไม่รู้ว่าน้องจีฮุน นั่งตรงไหนเพราะตนก็ไม่ได้มอง แต่ปกติน้องจะชอบนั่งข้างหน้าข้างคนขับและด้านหลังเบาะตรงกลาง


ตอนตนขึ้นรถน้องจีฮุน ขึ้นรถก่อนตนอยู่แล้วเพราะตนขึ้นทีหลังพอลงรถก็เดินลงจากรถแล้วก็เดินไปอาคารเลยไม่ได้ดูหรือเช็คชื่ออะไรเพราะต่างคนต่างเดิน แต่ปกติน้องจะชอบนอนหลับอยู่บนรถอยู่แล้ว แต่ทุกครั้งถึงโรงเรียนจะตื่นทุกครั้ง แต่สงสัยครั้งนี้หลับไม่รู้ตัว เลยลงจากรถไม่ทัน3


วานนี้ (31 ส.ค. 65) แม่ของน้องจีฮุน อยู่ในอาการเสียใจนั่งร้องไห้กอดผ้าเช็ดตัวที่ลูกสาวใช้ประจำ และกระเป๋านักเรียนของลูกสาวไว้แน่นตลอดเวลา โดยในกระเป๋ามีกระติกน้ำ ขนมที่น้องชอบกิน อุปกรณ์และชีสเอกสารประกอบการเรียนของลูกสาว เพราะตนเองคิดถึงลูก อยากกอดแต่กอดไม่ได้ ทำได้เพียงกอดกระเป๋านักเรียน เหมือนเป็นตัวแทนของลูกสาว ตัวจริงกอดไม่ได้แล้ว ไม่มีโอกาสนั้นแล้ว เหมือนเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของแม่ เสียลูกไปไม่มีวันกลับมาแล้ว


แม่ของน้องจีฮุน เปิดเผยว่า คาใจที่ลูกเสียชีวิตแต่ไม่มาบอกผู้ปกครองก่อน โดยครูที่เห็นร่างน้องคนแรกไปบอกครูที่รับส่งลูกสาวทุกวันแล้วนำเรื่องไปปรึกษา ผอ.โรงเรียน มันควรเป็นผู้ปกครองที่ต้องรู้ก่อน และหลังจากลูกสาวเสียชีวิต ครูขับรถจากโรงเรียนมาที่บ้านเพื่อเล่าเหตุที่เกิดขึ้นให้ฟัง ทีแรกครูไม่ยังไม่บอกว่าลูกสาวตาย แม่ต้องเค้นถาม ครูจึงพูดว่า ”เป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้น” และถามว่าน้องมีโรคประจำตัวอะไรหรือไม่


แม่ตอบไปว่า “ลูกแข็งแรงดี ไม่มีโรคประจำตัวอะไร” ครูจึงพูดว่า “เป็นเรื่องที่พูดยากและไม่มีใครอยากให้เกิด” แม่จึงพยายามถามว่าน้องมีปัญหาอะไร และเริ่มใจไม่ดี หวั่นลูกสาวถูกล่วงละเมิดหรือประสบอุบัติเหตุ ไม่ได้คิดว่าจะเสียชีวิตจากพ่อแม่ไป “มองว่ามันเป็นความสะเพร่าของโรงเรียนและคุณครูที่ทำให้ลูกต้องเสียชีวิต” 


จากนี้จะเดินหน้าขอความยุติธรรมให้ถึงที่สุด ปวดใจมาก ไม่รู้จะทำใจได้หรือเปล่า ฝากเป็นอุทาหรณ์ให้กับครอบครัวอื่น ถ้าเป็นไปได้ให้ไปรับส่งลูกเราเอง เลือกโรงเรียน และครูที่มีความรับผิดชอบ


ยังไม่ได้คุยกับ ผอ.โรงเรียน และคุณครู ได้เจอกันแค่ที่โรงเรียนในวันเกิดเหตุ 


พ่อของน้องจีฮุน เผยว่า วันเกิดเหตุครูพี่เลี้ยงได้ยกมือขอโทษ ตนบอกไปว่า “ขอโทษแล้วได้ลูกผมคืนมั้ย” จากนั้นครูพี่เลี้ยงก็เดินออกไป นี่เป็นโรงเรียนเอกชน ค่าเทรม 2 หมื่น ไม่มีการดูแลใส่ใจเด็กนักเรียนเลยเหรอ พ่อแม่เลี้ยงดูอย่างทะนุถนอม ไม่เคยตี จ้างโรงเรียนแพง ๆ มาสอนลูก เพื่อให้ลูกอยู่ในห้องปรับอากาศ สบาย มีครูชั้นนำมาสอน


พ่อยังระบุอีกว่า ถ้าเกิดเป็นลูกหลานของครูเองจะรู้สึกอย่างไร สิ่งที่พ่อคาใจคือมีทั้งครูคนขับ ครูพี่เลี้ยง จะไม่เห็นเด็กเลยเหรอ เด็กทั้งคนตัวก็ใหญ่จะไม่เห็นลูกพ่อเลยเหรอ และครูพี่เลี้ยงเป็นคนย้ายน้องจากเบาะหน้าไปเบาะหลังจะไม่รู้เลยเหรอ จากเวลา 7 โมงเช้า ถึง 4 โมงเย็น ครูไม่สนใจหรือใส่ใจอะไรเลยเหรอ

------------

วานนี้ (31 ส.ค. 65) เวลา 16.00 น. ครอบครัวของน้องจีฮุน อายุ 7 ขวบ เดินทางไปยังสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ โดยตอนแรกตั้งใจจะรับร่างของลูกสาวกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดบ้านเก่า อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี


แต่เมื่อมาถึง ญาติได้ยื่นเอกสารเพื่อขอฝากร่างของน้องจีฮุน ไว้กับสถาบันนิติเวชวิทยา ฯ 3-5 วัน โดยครอบครัวให้เหตุผลว่ายังไม่สะดวกที่จะนำร่างกลับไปบำเพ็ญกุศล จึงทำเอกสารยื่นความจำนงค์ว่าจะฝากร่างไว้ก่อน แต่ตามระเบียบของสถาบันนิติเวชวิทยา หลังจากผ่าชันสูตรแล้วจะเก็บร่างไว้ได้เพียง 4 วัน เท่านั้น ถึงวันที่ 3 ก.ย.


ซึ่งทางครอบครัวยินดีที่จะทำตามระเบียบ แต่ยังไม่กำหนดว่าจะเดินทางมารับร่างวันใด จากนั้นพ่อแม่และป้าของน้องจีฮุน ได้เดินเข้าไปเพื่อแต่งตัวให้กับลูกสาวเป็นครั้งสุดท้าย และรับผลชันสูตรเบื้องต้น


จากนั้นพ่อและแม่น้องจีฮุน สวมกอดกันหลังจากเข้าไปดูร่างของน้อง และทำเรื่องขอฝากร่างไว้กับสถาบันนิติเวชวิทยา จากนั้นคุณแม่ก็ทรุดลงไปนั่งลงบนเก้าอี้ ก่อนจะเดินออกจากสถาบันนิติเวชฯ โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใด ๆ แต่ระบุเพียงว่า ยังไม่ทราบว่าจะมารับร่างในวันใด ขอกลับไปปรึกษากันก่อน ส่วนผลชันสูตรนั้น ระบุว่า อยู่ระหว่างการรอผลการตรวจอย่างละเอียด


ขณะที่ป้าของน้องจีฮุน ได้เปิดคลิปเสียงที่ได้โทรถามครูผู้ชายซึ่งเป็นคนขับรถ เปิดเผยว่า วันดังกล่าวหลังจากรับน้องแล้ว ได้ขับรถไปรับเด็กอนุบาลต่อ ซึ่งครูพี่เลี้ยงที่นั่งมาในรถ ได้ย้ายที่นั่งน้อง จากนั่งแถวหน้าสุดให้ไปนั่งด้านหลังรถแถวที่ 3 เมื่อถึงโรงเรียนให้เด็กลงจากรถแล้ว


ครูพี่เลี้ยงได้ชะโงกดู บอกว่าเด็กนักเรียนลงหมดแล้ว จึงได้ขับรถไปจอดที่โรงรถซึ่งมีหลังคาครึ่งหนึ่ง โดยจอดรถในลักษณะเอาด้านหน้ารถเข้าโรงรถ และบริเวณโดยรอบมีรถบัสจอดอยู่ และมีคนดูแล 3 คน อีกทั้งรถตู้ไม่ได้ล็อกประตู เนื่องจาก ผอ.สั่งไม่ให้ล็อก จากนั้นเวลา 16.00 น. จะพาเด็กกลับบ้าน จึงพบน้องนอนเสียชีวิตในรถแล้ว

คุณอาจสนใจ

Related News