แม่เด็ก ป.2 คาใจ ทำไมมองไม่เห็นเด็ก-ไม่รีบแจ้ง ถอดบทเรียนแล้วหลายครั้งแต่ยังเกิด ป้าเด็กแฉ กู้ภัยมาช่วยแต่มาขอให้ปิดข่าว

สลด! ด.ญ.7 ขวบดับคารถรับส่ง ครูลืมเพิ่งเจอตอนเย็น แม่คาใจทำไมถึงไม่รีบแจ้ง ลั่นเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ค่าเทอมก็แพง ถอดบทเรียนมาแล้วหลายครั้ง ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ ป้าเด็ก สงสัยถามทำไมกู้ภัยมาช่วยต้องบอกให้ปิดข่าว ครอบครัวยันเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเพื่อความเป็นธรรมกับลูก



เช้าวันนี้(31 ส.ค.) ทีมข่าวได้พบ น.ส.เมทิกา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี นายไทยอนันต์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี แม่และพ่อของ ด.ญ.เอ(นามสมมติ) วัย 7 ขวบ และ น.ส.นาถชิดา อายุ 34 ปี คุณป้าของ ด.ญ.เอโดยวันนี้คุณแม่สภาพร่างกายอิฐโรย พร้อมกอดกระเป๋านักเรียนของลูกสาวไว้ตลอดเวลา พ่อเวลาพูดถึงลูกน้ำตาคลอตลอดเวลา ส่วนคุณป้าพยามตอบขวัญน้องสาวตลอดเวลา



คุณสิทธิกร ปรักกัมนนท์ ทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.เมทิกา เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 30 ส.ค. 2565 เวลา 17.00น. ที่ผ่านมา ครูประจำชั้น ครูพี่เลี้ยง และครูคนขับรถได้มาหาที่บ้าน ตนเองรู้สึกแปลกใจ จึงถามว่าน้อง เอ ลูกสาวของตนกลับมาด้วยหรือไม่ แต่ท่าทีของคุณครูกลับ อ้ำๆ อึ้งๆ ไม่ยอมบอกเรื่องราว

คำถามแรกที่คุณครูถามตนว่าน้องมีโรคประจำตัวอะไรหรือไม่ ตอนนั้นตนเองรู้สึกแปลกใจและเป็นห่วงลูกสาวว่าเป็นอะไร ตนจึงบอกไปว่าไม่มี คุณครูตอบกลับว่ามันมีเหตุที่ไม่อยากให้เกิด ตนก็รีบถามว่ามีเหตุอะไร ตนกลัวเกิดเรื่องไม่ดีกับลูก กลัวว่าลูกจะโดนทำไม่ดีหรือถูกข่มขืน แต่ต้องตกใจกับคำตอบว่าน้องไม่หายใจแล้ว ตอนนั้นตนเองช็อกมาก ทำอะไรไม่ถูก แต่ครูก็ยังไม่ยอมบอก ตนจึงเค้นถามอยู่นาน จนรู้ความจริงว่าลูกสาวของตนเองติดอยู่ภายในรถนักเรียน

ตนจึงถามไปว่าทำไมมองไม่เห็นเด็กเลย ตอนนั้นตนเองควบคุมสติไม่ได้ ได้แต่ร้องไห้เสียใจและรีบไปดูศพลูกสาวภายในรถตู้

เรื่องที่เกิดขึ้นตนเองไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง สังคมไทยถอดบทเรียนเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้ว แต่สุดท้ายกลับมาเกิดกับครอบครัวตนเอง ตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพื่อให้ลูกสาวของตนได้รับความยุติธรรมและเป็นบทเรียนของ รถรับส่งนักเรียนต่อไป ควรคิดมารตราการ หรือ เป็นกฎว่าควรเช็กเด็กลงจากรถให้ครบ



ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.นาถชิดา หรือ คุณอ้อม อายุ 34 ปี คุณป้าของ ด.ญ.เอ โดยคุณป้าเปิดเผยว่า หลังจากที่ทุกคนตั้งสติได้ จึงมานั่งคุยกันเนื่องจากทุกคนมีสิ่งที่ติดอยู่ในใจ โดยติดใจการเสียชีวิตของหลานสาว ทำไมคุณครูถึงเพิ่งมาบอกตอน 16.50 น. ทั้งๆ ที่รถนักเรียนต้องเตรียมรถรับเด็กส่งกลับบ้านก่อน หากไปรับเด็กที่ไม่เรียนพิเศษรอบแรก ก็ต้องเช็กรถตอน 15.00 น. ส่วนหลานสาวตนเรียนพิเศษ ต้องเลิก 16.15 แต่ทำไมถึงเพิ่งมาบอก กลัวว่าไม่ใช่เหตุการณ์เสียชีวิตแบบขาดอากาศหายใจ แต่กลัวเป็นการถูกทำร้าย และทำอะไรไม่ดี แล้วอำพรางศพหรือเปล่า เนื่องจากน้องเป็นเด็กฉลาด ตัวก็ไม่ได้เล็กๆ ควรที่จะมีร่องรอยของคนที่พยายามจะออกจากรถบ้าง หรือถ้าน้องติดอยู่ในรถควรที่จะมีปัสสาวะ แต่น้องกลับนอนนิ่งและตัวแข็ง

อีกทั้งเรื่องของกู้ภัยที่มาช่วยแล้วบอกว่าอยากให้เรื่องเงียบไม่อยากให้เป็นข่าวดัง ตนเองไม่อยากให้หลานต้องมาตายฟรี ตนจะเดินหน้าสู้เพื่อหลานและช่วยเหลืองน้องสาวเต็มที่ เนื่องจากหลานสาวของตนเปรียบเสมือนลูกของตนเอง น้องสาวทีลูกเพียงคนเดียว ทั้งที่ยอมจ่ายค่าเทอมแพงๆ จ่ายค่ารับส่งลูก เพื่ออยากให้ลูกมาเรียนสบายๆ และได้เรียนที่ดีๆ แต่กลับมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ตนและครอบครัวยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเท่าที่ป้าคนหนึ่งจะทำและหาความยุติธรรมให้หลานตนได้