สังคม

เจ้าหน้าที่บขส.หญิงโร่แจ้งความเอาผิด ถูกมาเฟียสายใต้เก่าตบ-ข่มขู่

โดย taweelap_b

23 ส.ค. 2565

56 views

เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 65 น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 48 ปี พนักงานของ บริษัท ขนส่ง จำกัด พร้อมด้วยทนายความ เดินทางเข้าให้ปากคำเพื่มเติม กับพนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน หลังจากถูกมาเฟียสายใต้เก่าทำร้ายร่างกาย ที่ท่ารถตู้สถานีขนส่งสายใต้เก่า ปิ่นเกล้า เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 65 ที่ผ่านมา


น.ส.เอ ระบุว่า ตนเป็นพนักงานของ บขส. ซึ่งมีหน้าที่ดูแลสถานที่บริเวณสายใต้เก่า ก่อนหน้านี้ขณะที่ตนปฎิบัติหน้าที่อยู่นั้น มีรถจักรยานยนต์ขี่เข้ามาในเลนของรถตู้ประจำทางที่คอยรับผู้โดยสาร ตนจึงเดินเข้าไปตักเตือนและทำหนังสือรายงานไปยังผู้บังคับบัญชา เพราะเป็นการทำผิดระเบียบ และอาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ กระทั่งช่วงบ่าย 3 โมงเย็น ของวันที่ 18 ส.ค. 65 ที่ผ่านมา ในวันเกิดเหตุผู้ชายที่ก่อเหตุวัย 60 ปี ซึ่งเป็นผู้เช่าช่วงพื้นที่บริเวณดังกล่าว พร้อมลูกน้องที่เป็นชายฉกรรจ์ จำนวน 4 คน เดินเข้ามาด่าทอตนด้วยคำหยาบคาย เพราะไม่พอใจที่ตนทำหนังสือรายงานผู้บังคับบัญชาและตักเตือนเรื่องที่ขี่รถจักรยานยนเข้าในพื้นที่ ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะทำร้ายตนด้วยการตบด้วยมือและรองเท้านับสิบครั้ง ต่อหน้าประชาชนที่ใช้บริการเป็นจำนวนมาก พร้อมพูดจาข่มขู่ว่าไม่ให้ใครเข้ามาช่วยเหลือระหว่างที่ตนถูกทำร้าย จึงไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วยเหลือ เพราะเกรงกลัวว่าจะได้รับอันตรายไปด้วย เนื่องจากชายที่ทำร้ายตนเป็นมาเฟีย และมีอิทธิพลภายในพื้นที่


ทั้งนี้ แม้แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ก็หวาดกลัวกับชายคนดังกล่าวเช่นกัน โหลังเกิดเหตุตนไม่กล้าเข้าไปทำงาน เพราะเกรงว่าจะถูกทำร้าย เนื่องจากผู้ก่อเหตุอ้างว่ารู้จักผู้ใหญ่หลายคน แม้แต่คนในบริษัทขนส่ง และยังมีพฤติกรรมที่น่ากลัว ซึ่งตนได้หยุดงานไปแล้ว 10 วัน และอยู่ในสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ ยังไม่ได้รับการดูแลจากต้นสังกัดแต่อย่างใด จึงรู้สึกเสียใจเพราะตนตั้งใจทำงานปฎิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาอย่างตรงไปตรงมาและเต็มที่ จึงอยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวเองที่โดนกระทำ


"วันนี้พนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน ได้นัดมาเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม และจะมีการไกล่เกลี่ยเรียกร้องค่าเสียหายกับคู่กรณี และทราบว่าขณะนี้คู่กรณีก็ได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้ว แต่ส่วนตัวจะเดินหน้าดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ส่วนการเจรจาไกล่เกลี่ยขอให้เป็นหน้าที่ของทนายความ เป็นคนจัดการ ส่วนตัวรู้สึกอึดอัดที่จนถึงขนาดนี้ ต้นสังกัดไม่มีการติดต่อมาเพื่อดำเนินการช่วยเหลือใด ๆ แม้กระทั่งการจัดหาทนายความ ก็ดำเนินการหามาด้วยตัวเอง ทั้ง ๆ ที่ปฎิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชามาตลอด ไม่เคยทำผิดข้อบังคับ" น.ส.เอ กล่าว


นายอุเชน หรือ ลุงหลอ ผู้ก่อเหตุ เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 3 ว่า สาเหตุที่ตนต้องลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ เป็นเพราะบันดาลโทสะที่ถูกผู้เสียหายขัดขวางในการประกอบอาชีพ เพราะตนเป็นผู้เช่าพื้นที่ในสถานีขนส่งในการค้าขายอาหารและเครื่องดื่ม ในบางครั้งต้องนำเครื่องดื่มหลายลังเข้าไปสต็อกไว้ที่ร้าน แต่กลับถูกกีดกันไม่ให้นำรถเข้าไปจอด เพื่อขนถ่ายสินค้า ทั้ง ๆ ที่ตนพยายามทำหนังสือขอกำหนดช่วงเวลาหรือกำหนดป้ายทะเบียนรถที่ใช้เข้าออก เพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอน แต่ก็ถูกปฏิเสธเรื่อยมา ซึ่งตนประกอบธุรกิจเป็นผู้เช่ากับทางบริษัทขนส่งมาตั้งแต่สามแยกไฟฉายนานหลาย 10 ปี ก็ไม่เคยมีปัญหา ทุกคนในพื้นที่รู้จักตนเองดี รวมถึงผู้เสียหายเองก็รู้จักกับตนและไม่เคยมีปัญหากันก่อนหน้านี้


"วันเกิดเหตุมีการพยายามกีดกันไม่ให้ผมเข้าไป จึงไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร ผมขอยืนยันว่าไม่ใช่ผู้มีอิทธิพลหรือมาเฟียในพื้นที่ แต่เป็นคนที่ทำงานค้าขายในพื้นที่ของขนส่งมานานหลาย 10 ปี ทำให้มีหลายคนรู้จัก และเกรงใจ ผมก็ไม่เคยเบียดเบียนใครมาก่อน สุดท้ายนี้ จึงอยากขอให้ทางขนส่ง ออกมาช่วยจัดการแก้ปัญหาด้วย เนื่องจากผมก็เป็นผู้ที่เช่าช่วงอยู่ในขนส่ง แต่ไม่รับความอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับการขนสินค้าเข้าไป เพื่อเตรียมค้าขาย ทำให้ลำบากอย่างมากในการเดินทางขนสินค้าเข้าไปค้าขาย" นายอุเชน ผู้ก่อเหตุ กล่าว 

คุณอาจสนใจ