จับยาต้านไวรัสโควิดเถื่อน จากอินเดีย ยึดของกลาง 10 ล้านบาท ‘อนุทิน’ ย้ำอย่าซื้อ ‘โมลนูพิราเวียร์’ กินเอง

กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับตำรวจสอบสวนกลางและบก.ปคบ.ปฏิบัติการจับกุมเครือข่ายขายยารักษาโควิด-19 เถื่อนผ่านออนไลน์ ลักลอบนำเข้าจากประเทศอินเดีย /ยึดของกลางกว่า 80,000 เม็ด มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยพลตำรวจตรีอนันต์ นานาสมบัติ ผู้บังคับการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือบก.ปคบ.ร่วมกัน แถลงผลปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องหา 3 คน ในความผิด "ร่วมกันนำเข้าและจัดจำหน่าย ยารักษา โควิด-19 เถื่อน"

นายอนุทิน กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากตำรวจ บก.ปคบ.ได้รับเรื่องร้องเรียนและแจ้งเบาะแสจากอย.ว่า มีการลักลอบขายยาให้กับกลุ่มผู้ป่วยโควิด ผ่านสื่อออนไลน์ผิดกฎหมายจำนวนมาก และพบว่า มีการลักลอบนำเข้ายารักษา โควิด-19 ทั้งฟาวิพิราเวียร์ โมลนูพิราเวียร์ เรมเดซิเวียร์ จากประเทศอินเดียเข้ามาจำหน่าย โดยไม่มีการขึ้นทะเบียน ขออนุญาตนำเข้ากับทางอย. โดยตรวจสอบยึดของกลาง กว่า 2,300 กล่อง/ 80,000 เม็ด คิดเป็นมูลค่า กว่า 10 ล้านบาท

โดยผู้ต้องหารู้จักกับคนอินเดีย จึงขอให้ช่วยซื้อและส่งมาลักลอบนำเข้ามาในไทย ส่วนใหญ่ลักลอบนำเข้าผ่านทางด่านศุลกากรไปรษณีย์แจ้งวัฒนะ แต่มียาบางส่วนที่ผู้ต้องหาทยอยนำเข้ามาด้วยตนเองด้วย โดยทำมาแล้ว 2 เดือน

นายอนุทินกล่าวย้ำอีกว่า ประชาชนไม่ควรซื้อยารักษาโควิดทางออนไลน์มากินเองโดยเฉพาะยาโมลนูพิราเวียร์ เพราะเป็นยาควบคุมพิเศษ ขึ้นทะเบียนใช้ในภาวะฉุกเฉิน จึงต้องตรวจวินิจฉัยและสั่งจ่ายยาโดยแพทย์ถึงปลอดภัย ยังไม่มีการขายทั่วไปในร้านขายยาหรือสถานพยาบาล เพราะอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลพิเศษ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ( สปสช.) รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการแจกจ่ายผู้ป่วยโควิดตามการวินิจฉัยของแพทย์

ซึ่งเรื่องโควิดต้องให้แพทย์รักษา กินยาตามแพทย์สั่ง หากซื้อยากินเองอาจได้ยาปลอม ไม่มีตัวยาสำคัญหรือไม่มีคุณภาพ

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/CPTtE3Ome8A