พ่อเลี้ยงขี้เมาตีลูกวัย 9 ขวบ จนทนไม่ไหวเตลิดหายจากบ้าน ซ้ำไม่พอใจชาวบ้านออกตามหา คว้ามีดไล่ฟัน

เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 22 ก.ค.65 พ.ต.ท.สมภพ เชื้อทอง รอง ผกก.ป.สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุพ่อเลี้ยงขี้เมาทุบตีลูกเลี้ยงวัย 9 ขวบทนเจ็บไม่ไหว วิ่งหนีหายไปในความมืด แม่เด็กแจ้งกู้ภัยและชาวบ้านร่วมค้นหา กลับทำให้พ่อเลี้ยงรายนี้ไม่พอใจค้ามีดฟันทั้งชาวบ้านและหน่วยกู้ภัยวิ่งหนีกระเจิง เหตุเกิดภายในถนนท่ากระดานซอย 2 หมู่ 1 ตำบลบางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร จึงพร้อมด้วย ร.ต.อ.นพดล มลการนา รอง สวป. สภ.เมืองชุมพร กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอเมืองชุมพร รุดตรวจสอบเพื่อระงับเหตุ


ที่เกิดเหตุพบนายเอกรัตน์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านหมู่ 1 ตำบลบางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร ยืนอยู่บนถนนคอนกรีตใกล้หน้าบ้านตนเอง โดยมีชาวบ้านและหน่วยกู้ภัยกู้ชีพมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ (กู้ภัยสายชล) เกือบ 100 คน อยู่ในซอยที่เกิดเหตุ โดยช่วยกันจับตัวนายเอกรัตน์ ผู้ก่อเหตุไว้ เพื่อรอมอบตัวให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ


จากการสอบถามทราบว่า เมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา หน่วยกู้ภัยสายชลชุมพร ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านว่ามีเด็กชายวัย 9 ขวบ ได้วิ่งหนีออกจากบ้านภายในซอยท่ากระดานซอย 2 หายไปในความมืดไม่รู้ชะตากรรม กู้ภัยจึงพร้อมด้วยกำลังพลกว่า 50 นายนำอุปกรณ์แสงสว่างจัดกำลังแบ่งออกเป็น 3 ชุด โดยร่วมกับชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเร่งกระจายกันค้นหา ตามสวนเกษตรของชาวบ้านและป่าริมคลองชุมพร ในรัศมี 200-300 เมตรจากบ้านพัก


ขณะเดียวกันนายเอกรัตน์ พ่อเลี้ยงวัย 40 ปี เห็นเจ้าหน้าที่อยู่ในที่เกิดเหตุกันเยอะจึงเกิดความไม่พอใจส่งเสียงเอะอะโวยวายบอก “ไม่ต้องออกค้นหาเดี๋ยวมันกลับมาเอง” แต่กู้ภัยไม่สนใจเพราะห่วงความปลอดภัยของเด็กจึงออกค้นหากันต่อ


การค้นหาผ่านไปประมาณกว่า 1 ชั่วโมงปรากฏว่ามีชาวบ้านเห็นเด็กชายคนดังกล่าวอยู่ในชุดนอนแขนยาวตามรูปพรรณสัณฐานตามที่ได้รับแจ้งเบื้องต้น วิ่งออกมาจากใต้แคร่ไม้ และกำลังจะวิ่งกลับไปหลบซ่อนตัวที่เดิม แต่ชาวบ้านและกู้ภัยคว้าตัวออกมาได้อย่างปลอดภัย ทราบภายหลังว่าเป็นบ้านของญาติฝ่ายพ่อเลี้ยงที่เด็กชายวัย 9 ขวบ เคยมากินข้าวบ่อยๆ และตอนที่เข้าไปหลบซ่อนนั้นไม่มีใครเห็น


ซึ่งเด็กยังอยู่ในอาการเงียบไม่พูดไม่จา คาดว่ายังมีอาการหวาดกลัว เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทางกู้ภัยถอดเสื้อพบว่า บริเวณด้านหลังและสะโพกมีรอยถูกตีเป็นทางยาวช้ำเลือดหลายแผล โดยมีน.ส.จันทร์เพ็ญ อายุ 37 ปี ผู้เป็นแม่นั่งอุ้มลูกชายวัย 2 ขวบ 5 เดือน อยู่ใกล้เห็นบาดแผลลูกชายคนโตถึงกับน้ำตาคลอ


ขณะนั้นนายเอกรัตน์ ยังมีอาการเมาสุราเอะอะโวยวายอีกครั้งและเริ่มบานปลาย เมื่อนายเอกรัตน์ มีปากเสียงลงมือยื้อยุดฉุดกระชากกับชาวบ้าน ฉวยโอกาสคว้ามีดงอวิ่งไล่ฟันชาวบ้านและกู้ภัยหนีกระเจิง แต่สุดท้ายสิ้นฤทธิ์ถูกรวบตัวไว้ได้ส่งตำรวจดำเนินคดี


ด้านน.ส.จันทร์เพ็ญ แม่เด็กชายวัย 9 ขวบ เล่าว่า อยู่กินกับนายเอกรัตน์ มานานประมาณ 4 ปี จนมีลูกด้วยกันอายุ 2 ขวบ 5 เดือน ยิ่งมีลูกความประพฤติก็แย่ลงไม่เคยพัฒนาตัวเองเลย ส่วนลูกชายที่หนีออกจากบ้านเป็นลูกติดของตนที่รับมาอยู่ด้วย และสามีชอบความรุนแรง เวลากินเหล้าเมาไม่พอใจก็ตีบ่อย ตนเองเห็นว่าตีลูก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะสามีคนนี้จะทำร้ายตบตีจนตนเคยเกือบแท้งลูกคนเล็กด้วย


ในวันเกิดเหตุลูกคนโตคงทนไม่ไหววิ่งหนีออกจากบ้าน ขณะนั้นตนนั่งดูแลลูกคนเล็กอยู่บนที่นอน ไม่คิดว่าลูกจะหนีด้วย หลังจากนั้นให้ชาวบ้านช่วยหาแต่ไม่เจอจึงแจ้งกู้ภัย และยอมรับว่าเวลา สามีกินเหล้าเมามาจากนอกบ้าน ก่อนทำร้ายลูก ทุกวันนี้อดทนเพราะลูก ถ้ามีเงินไปแล้วไม่ทนอยู่หรอก พร้อมเล่าอีกว่า สามีเคยขู่ฆ่าด้วยถ้าเอาลูกหนีไป ซึ่งน.ส.จันทร์เพ็ญ แม่ของเด็กบอกว่าครั้งนี้เอาเรื่องให้ถึงที่สุด และหลังจากนี้ไปอาจจะติดต่อญาติที่อยู่กรุงเทพฯให้มารับตนและลูกกลับ


ส่วนด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยร่วม 10 รายได้เดินทางไปยัง สภ.เมืองชุมพรเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายเอกรัตน์ ผู้ก่อเหตุต่อไป หลังจากที่โดนไล่ฟันเกือบเอาชีวิตไม่รอด


และเมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 23 ก.ค.นายอรรถชัย ภักดีอักษร นักสังคมสงเคราะห์ปฏิบัติการ ร่วมกับ นายปรีชา สมบัตินา นายกเทศมนตรีตำบลบางลึก นายพิชัยยุทธ์ จันทสิงห์ เดินทางลงพื้นที่เกิดเหตุพบแม่เด็ก น.ส.จันทร์เพ็ญ อายุ 37 ปี ขณะขออาศัยอยู่กับเพื่อนบ้านในซอยดังกล่าว ห่างจากบ้านตนเองเพียงเล็กน้อย ระหว่างที่มีการพูดคุยทำความเข้าใจในการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เข้าช่วยเหลือ แม่เด็กร่ำไห้น้ำตาไหลนองบอกว่า “ไม่อยากอยู่แล้ว”


ขณะเดียวกันนายเอกรัตน์ อายุ 40 ปี ภายหลังจากสร่างเมาเดินปรี่มาจากบ้านพักเข้าดึงตัวลูกชายวัย 2 ขวบ 5 เดือนที่มีด้วยกันกับน.ส.จันทร์เพ็ญผู้เป็นแม่ โดยนายเอกรัตน์ บอกว่าเรื่องกินเหล้าเป็นเรื่องปกติ วันเกิดเหตุรับว่าเมาทำกับข้าว เมียบอกว่าวันนี้เอาลูกไม่อยู่ให้จัดการลูกให้หน่อย ตนจึงตีไป สอนไป ว่าทำไมทำให้แม่ร้อง ซึ่งเด็กก็ไม่ร้อง แต่ลูกเลี้ยงตนจะเตลิดทุกครั้ง แม้แม่ตีก็จะหนีออกจากบ้าน ตนบอกว่าไม่ต้องออกตามหา ยังไงก็อยู่แถวนี้และจะกลับเองตลอด


เมื่อถามว่าตีบ่อยไหม นายเอกรัตน์ เผยว่า ไม่ได้ตีให้ถามผู้เป็นแม่ดูเองเลย แต่จะเล่นในลักษณะชกมวยกันนั้นมีบ่อย ยอมรับว่าเมื่อคืนเกิดเหตุนั้นตีด้วยไม้แขวนเสื้อ ส่วนผู้เป็นแม่ไม่อยากอยู่ด้วยกันแล้วนั้น นายเอกรัตน์ยินยอมให้ไป แต่จะไปอยู่ที่ไหน ส่วนลูกชายวัย 2 ขวบ 5 เดือนที่มีด้วยกันไม่ยอมให้เอาไป และเมื่อถามอีกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่อย่างไร นายบอกบอกว่า แจ้งว่าเมา พกอาวุธ เสียค่าปรับแค่นั้น


หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ นายอรรถชัย ภักดีอักษร นักสังคมสงเคราะห์ปฏิบัติการ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ชุมพร ทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่ต้องนำตัวเด็กที่ถูกทำร้ายแยกออกมา พร้อมเสื้อผ้าสัมภาระส่งบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชุมพรเป็นการชั่วคราว โดยมีแม่เด็กติดตามมาด้วย


ด้านน.ส.รัชนีย์ ใจห้าว หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชุมพร กล่าวว่า จากกรณีเด็กคนดังกล่าวทางบ้านพักเด็กฯ รับเข้าเพื่อคุ้มครอง หลังจากนี้ดำเนินการตามสังคมสงเคราะห์ และทราบว่าเด็กคนดังกล่าวสถานสงเคราะห์บ้านแก่นทอง จ.ขอนแก่น ได้ส่งคืนครอบครัวเนื่องจากผู้เป็นแม่แจ้งความประสงค์รับลูกมาอุปการะที่บ้านหลังเกิดเหตุ ซึ่งอยู่ในระหว่างทดลองเลี้ยง แต่เกิดเหตุความรุนแรงภายในครอบครัวเนื่องจากพ่อเลี้ยง หลังจากนี้ดำเนินการตามกระบวนการ ทั้งนี้ถ้าไม่มีญาติอุปการะได้ต่อไปทางบ้านพักจะประสาน บ้านแก่นทองเพื่อส่งน้องให้การดูแลในระยะยาวต่อไป