แท็กซี่ไทย โกงค่ารถนักท่องเที่ยวสิงคโปร์ พร้อมชักมีดขู่ อ้าง เข้าใจผิดเรื่องทอนเงิน

นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ โพสต์คลิปแท็กซี่ไทย ทอนเงินให้ไม่ครบตามจำนวนที่ตกลงกันไว้ จนมีปากเสียงกัน ซึ่งแท็กซี่อ้างว่ามีการเรียกเก็บค่าทางด่วนเพิ่ม โดยบางจังหวะแท็กซี่ เหมือนจะไปหยิบบางอย่างจากข้างประตูรถ ซึ่งมีลักษณะคล้ายมีด ทำให้นักท่องเที่ยวตะโกนเรียกเจ้าหน้าที่ ซึ่งเรื่องราวนี้ถูกแชร์ไปในสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งในไทยและสิงคโปร์ เกี่ยวกับพฤติกรรมของคนขับรถแท็กซี่รายนี้ ทำให้เสียชื่อเสียง ทั้งนี้หลังเกิดเหตุ นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ ได้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรย่อยสนามบินสุวรรณภูมิ แล้ว


ทีมข่าวได้ติดต่อหญิงผู้เสียหายชาวสิงคโปร์ วัย 30 ปี เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา ขณะกำลังจะเดินทางจากโรงแรมย่านสุขุมวิท 15 ไปที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทางโรงแรมเรียกรถแท็กซี่ให้ และแจ้งว่าไม่กดมิเตอร์ โดยคิดค่าโดยสาร 500 บาท แต่เมื่อลองกดดูในแอป ค่าโดยสารอยู่ที่ 250 บาท จึงได้ต่อรองเหลือ 400 บาท แท็กซี่ก็ตอบตกลง โดยไม่ขึ้นทางด่วน แต่ปรากฏว่าแท็กซี่กลับใช้ทางด่วน ก่อนที่จะจอดไหล่ทาง ตอนนั้นเริ่มรู้สึกกลัว จึงบอกให้รีบขับไปสนามบิน ถ้าไม่ไปจะไม่จ่ายเงิน


กระทั่งมาถึงสนามบิน ได้จ่ายแบงก์ 1000 แต่คนขับรถกลับทอนเงินให้เพียง 400 บาท จึงถามไปว่าแล้วอีก 200 บาทที่เหลือล่ะ ก่อนที่คนขับจะเริ่มมีอารมณ์ แล้วขึ้นเสียงไม่ยอมทอนเงิน 200 บาทที่เหลือ อ้างว่ามีค่าทางด่วนด้วย ซึ่งตนก็ยืนยันไปแล้วว่า 400 บาท ไม่ขึ้นทางด่วน เมื่อเริ่มมีปากเสียงกันมากขึ้น คนขับจึงยอมถอนเงินที่เหลือ และเดินไปที่รถ หยิบเอามีดออกมา ตอนนั้นรู้สึกช็อก ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามบินมาช่วยดูแล


ที่น่าตกใจคือ มีผู้เสียหายชาวต่างชาติหลายราย เข้ามาคอมเมนต์ว่าเคยเจอเหตุการณ์คล้ายกันนี้ ซึ่งก็มองว่า การกระทำแบบนี้ทำให้เกิดความเสียหายกับคนขับรถแท็กซี่รายอื่น


ล่าสุดได้รับอีเมลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าได้ติดตามตัวคนขับรถแท็กซี่ดังกล่าวมา และได้สอบปากคำคนขับรถเรียบร้อยแล้ว


ขณะที่ทีมข่าว ได้ติดต่อไปที่คนขับรถแท็กซี่คู่กรณี ระบุว่า เป็นความเข้าใจผิดของตน ที่เข้าใจว่าทอนเงินให้กับผู้โดยสารครบแล้ว แต่ที่จริงยังขาดอีก 100 บาท จึงทำให้ผู้โดยสารทวงเงินตน ทั้งนี้ยอมรับว่าเข้าใจผิด จึงทอนเงินให้กับลูกค้าผิด


ส่วนจังหวะที่ตนเองพยายามจะหยิบมีดบริเวณประตูฝั่งคนขับออกมานั้น ตนพกมีดไว้เพื่อป้องกันตัว และเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ เป็นเพราะผู้โดยสารไม่ยอมสักที ทำให้ตนหยิบมีดออกมาข่มขู่


ทั้งนี้ยอมรับว่า รู้สึกผิดและอยากขอโทษกับนักท่องเที่ยว เพราะในวันนั้นก็ไม่ได้ขอโทษกับนักท่องเที่ยวเลย ตนเองได้คืนเงินให้กับนักท่องเที่ยวเป็นเงินทอนทั้งหมด 600 บาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นตำรวจยึดอาวุธมีดของกลางไปแล้ว พร้อมกับโดนตักเตือนและปรับเป็นเงิน 1000 บาท


ด้านทางกองตรวจการ กรมการขนส่งทางบก ได้เรียกคนขับแท็กซี่คันดังกล่าวมาสอบข้อเท็จจริงในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ เวลา 09.00 น. ซึ่งหากพบว่าแท็กซี่กระทำผิดจริง ก็จะดำเนินการเอาผิดและลงโทษตามกฎหมาย