สังคม

ยายและเจ้าสีเงินเตรียมเก็บของย้ายกลับบ้านเกิด

โดย onjira_n

4 ก.ค. 2565

9.7K views

กรณีโลกออนไลน์ เพจเฟซบุ๊กชื่อ มะลิ กะปิ โพสต์เรื่องราวของแมวน้อย เจ้าสีเงิน ถูกแจ้งจับข้อหาอึใส่แปลงผักเพื่อนบ้าน โดยเรื่องราวที่เกิดขึ้น บ้านของทั่งคู่อยู่ติดกัน (ทาวน์เฮาส์) แต่ไม่ถูกกัน เมื่อบ้านของเจ้าของแมว เจ้าสีเงิน มาแจ้งความบ้านปลูกต้นไม้และแปลงผัก เรื่องปลูกผักล้ำมาบริเวณบ้านเจ้าของแมว เช้าวันต่อมาบ้านแปลงผักก็เลยมาแจ้งบ้าง แจ้งเรื่องรถขวางทางเข้าออก แต่เป็นทางส่วนบุคคล ตำรวจไม่มีอำนาจ บ้านแปลงผักจึงเปลี่ยนเป็นแจ้งความกรณีแมวไปขี้ใส่แปลงผักที่ปลูกไว้ โดยมีภาพถ่ายเป็นหลักฐาน



จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เชิญบ้านเจ้าของแมวมาโรงพัก โดยเจ้าของแมงชื่อคุณยายสมบัติ ยอมรับว่า เป็นแมวของตนจริงๆ โดยคุณยายอุ้มกอดแมวไว้ตลอด ซึ่งบ้านแปลงผักเรียกค่าเสียหาย 500 บาท คุณยายบอกไม่มี ยอมให้ติดคุก สารวัตรจึงบอกขำๆ ว่า "จะติดคุกได้ไง ป้าไม่ใช่ผู้ต้องหา แมวต่างหากที่เป็นผู้ต้องหา" ยายจึงบอกต่ออีกว่า "งั้นเอาแมวเข้าคุกเลย จะมาอยู่กับแมวด้วย ล่ามฉันไว้กับแมวได้เลย" ในที่สุดก็ไกล่เกลี่ยจบ คุณยายรับปากจะไม่ปล่อยแมวไปขี้ใส่ผักอีก โดยลงบันทึกประจำวันไว้ทั้งสองบ้าน



ล่าสุด วันที่ 4 กรกฎาคม 2565 เวลา 10.00น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.คลองจิก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา บ้านของทั้งคู่ออยู่หลังติดกันและบริเวณท้ายซอยเป็นทางตัน พบกับคุณยายสมบัติ คุ้มผล อายุ 83 ปี เจ้าของน้องแมวเจ้าสีเงิน เพศผู้วัย 8 ปี โดยมีเชือกสีแดงล่ามขาผูกไว้กับโต๊ะ เพื่อไม่ให้เจ้าสีเงินออกไปวิ่งเล่นเพ่นพ่าน คุณยายเปิดเผยว่ายายพักอาศัยอยู่กับลูกสาวที่บ้านมา 7-8 ปี ยายทีโรคประจำตัวเป็นภูมิแพ้ ช่วงเวลากลางวันจึงอาศัยออกมาอยู่บริเวณเพิงพัก นอกบ้าน ซึ่งเพิงพักอยู่บนที่ดินของผู้ใจบุญรายหนึ่งที่อนุญาติให้ ยายสมบัติ อาศัยอยู่ตรงนี้ได้ แต่เมื่อ 5 เดือนที่ผ่านมา เพื่อนบ้านคนใหม่ได้ซื้อบ้านและย้ายเข้ามาอยู่ เพื่อนบ้านให้ยายรื้อเพิงพักออก ไม่ให้ยายมาอยู่ตรงนี้ แต่ยายก็บอกไปว่า เจ้าของที่ดินให้ยายอยู่ได้ (ที่ดินไม่ใช่ของเพื่อนบ้าน) โดยตนได้เลี้ยงแมวไว้หนึ่งตัวชื่อเจ้าสีเงิน เปรียบเสมือนลูก สาเหตุที่เป็นเรื่องกันเพราะแมวของตนไปปีนป่ายหลังคารถยนต์เพื่อนบ้าน เพื่อนบ้านจึงมาแนะนำให้ยายสมบัติทำการเลี้ยงแมวแบบระบบปิด เพื่อไม่ให้แมวออกมาก่อกวนด้านนอก ยายเองก็ลามแมวไว้ตลอด แต่บางครั้งมันก็หลุดออกไป ทำให้เพื่อนบ้านมาต่อว่าด่าทอ ยายจึงไปแจ้งความไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ วันรุ่งขึ้นบ้านคู่กรณีจึงได้เดินทางไปแจ้งความกลับกับตนบ้าง และไม่คิดว่าเจ้าสีเงินจะทำเรื่องให้ตนถึงต้องขึ้นโรงพัก ขนาดลูกแท้ๆ ยังไม่เคยทำ คุณยายยอมรับว่าเจ้าสีเงินหลุดออกไปขุดต้นไม้และขี้ในแปลงผักของเพื่อนบ้านจริง ตนเองก็รู้สึกตกใจเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญไปโรงพัก โดยตนเองก็อุ้มเจ้าสีเงินไปโรงพักในฐานะผู้ต้องหา พร้อมยอมรับว่าเจ้าสีเงินเข้าไปขุดคุ้ยและฉี่ อึ ใส่ต้นไม้ของเพื่อนบ้านจริง เจ้าหน้าที่ทำตรวจจะเอายังไงก็เอา แต่ตนเองไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ 500 ทุกวันนี้ใช้เงินเบี้ยเลี้ยงคนชราเดือนละ 700 บาทประทังชีวิต ถ้าอยากจับก็ให้จับเจ้าสีเงินติดคุกได้เลย เพราะมันเป็นตัวก่อเหตุ และตนเองยอมติดคุกกับมันด้วย เพราะตนเองรักมันเหมือนลูก เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามไกล่เกลี่ย เจ้าของสวนผักก็ไม่ได้เอาความอะไร โดยหากมีเรื่องแบบนี้ตนเองก็ไม่อยากอยู่ตรงนี้แล้ว ตนเองได้เก็บข้าวของเตรียมตัวย้ายกลับไปอยู่บ้านนอก (ยโสธร) และพาเจ้าสีเงินย้ายกลับไปอยู่ด้วย แต่ตนเองต้องย้ายกลับไปอยู่คนเดียว พร้อมโรคประจำตัว ลิ้นหัวใจรั่ว สาเหตุที่ตัดสินใจย้ายเนื่องจากเพื่อนบ้านพยายามกดดัน ด่าทอ และไล่ตน ตลอดเวลา





ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางไปสอบถามบ้านคู่กรณี(บ้านที่แจ้งความแมว) แต่บ้านถูกปิดเงียบไม่คนอยู่ ทีมข่าวรออยู่ครึ่งชั่วโมงแต่ก็ยังไม่มีใครออกมา





ทีมข่าวได้พูดคุยกับเพื่อนบ้าน ชื่อนางเอ (สงวนชื่อจริง) เปิดเผยให้ทีมข่าวฟังว่า ตนเองเพิ่งทราบว่าเพื่อนบ้านมีปัญหากัน มีการแจ้งความกรณีที่แมวไปขุดคุ้ยแปลงผักของเพื่อนบ้าน ถึงขั้นขึ้นโรงพัก ซึ่งคุณยายเองก็ยอมรับ ในฐานนะเพื่อนบ้านตนเองเห็นว่าคุยยายสมบัติอยู่ตรงนี้มานานแล้ว เรื่องหมาเรื่องแมวก็เป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องของสัตว์เลี้ยง หากมีปัญหากันกับเพื่อนบ้าน ไม่ควรที่จะมีเรื่องมีราว อะลุ่มอล่วยกัน อะไรที่ให้อภัยได้ก็ควรให้อภัยกัน



คุณอาจสนใจ