สังคม

ชายตกงาน เพราะภรรยาป่วยมะเร็ง ต้องไปรักษาข้ามจังหวัด ทั้งมีลูกวัย 6 เดือนต้องดูแล

โดย paranee_s

10 มิ.ย. 2565

5.5K views

วันที่ 10 มิ.ย. 2565 ความคืบหน้ากรณีชายแชร์เรื่องราวสะเทือนใจชาวโซเชียล ถูกเจ้านายไล่ออกจากงาน เพราะลางานมาดูแลเมียที่ป่วยเป็นมะเร็ง และลูกน้อยวัย 6 เดือนบ่อยเกินไป


โดยผู้ใช้ติ๊กต็อก@golf_army162 รายนี้ได้แชร์เรื่องราวชีวิตสุดสะเทือนใจ เมื่อต้องถูกให้ออกจากงานเพราะขาดงานบ่อยเกินไป เนื่องจากต้องกลับบ้านมาดูแลแฟนสาวที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านม และลูกน้อยวัย6เดือน ตัดพ้อชีวิตย่ำแย่ เหมือนโดนซ้ำเติมคนรักของชายหนุ่มคนนี้ที่ป่วย และเข้ารับการรักษาตั้งแต่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา ทำการรักษามาอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะตรวจพบมะเร็งที่เต้านม ตอนนี้จึงต้องทำคีโม


ชายรายดังกล่าว ระบุว่า ตนทำงานอยู่ร้านส่งข้าวสารที่ต่างจังหวัด ในวันที่หมอนัดให้คีโมเข็ม 5 ตนรายนี้ได้ลางาน เพื่อพาแฟนไปรักษาที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ด ด้วยจักรยานยนต์ ตีรถเกิดเสีย จึงต้องหยุดงานนานนับอาทิตย์ สุดท้ายนายจ้างที่จ.ร้อยเอ็ดจึงไล่ออกจากงาน


ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านหมู่ที่ 10 ต.ชนแดน อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ พบกับ นางเยาวลักษณ์ เทียมทอง อายุ 35 ปี ซึ่งป่วยเป็นมะเร็งเต้านม อาศัยอยู่บ้านหลังนี้กับลูกน้อยวัย 6 เดือน และ นายสุระชัย ไชยบาล 35 ปี สามี ซึ่งขณะนี้ผู้เป็นสามีนั้นตกงาน เพราะต้องคอยมาดูแลภรรยาและลูกน้อยอย่างใกล้ชิด ส่งผลให้ แทบไม่มีเงินเหลือจุนเจือครอบครัว ซ้ำยังท้อแท้หนัก ถึงขึ้นผู้เป็นภรรยา ตัดพ้อไม่อยากไปทำคีโมต่อแล้ว เนื่องจากการเดินทางของทั้งคู่ มีเพียงรถจักรยายนต์คู่ใจเท่านั้น ที่ใช้เดินทางไป-กลับจังหวัดร้อยเอ็ดหลายร้อยกิโล ซึ่งการเดินทางก็เต็มไปด้วยอุปสรรค ทั้งตากฝน รถเสีย ยางรั่ว ทั้งแพ้คีโม และแพ้ฝนด้วย


ทั้งนี้ สำหรับผู้ใจบุญท่านใด อยากให้การช่วยเหลือ ก็สามารถโอนเงินเข้าหมายเลขบัญชี 020358315966 ธนาคารออมสิน ชื่อผู้ฝาก นายสุระชัย ไชยบาล หรือโทรสอบถาม 061-0606208


จากการสอบถาม นางเยาวลักษณ์ เทียมทอง 40 ปี เล่าว่า ก่อนหน้านี้ เริ่มมีอาการแปลกๆ เมื่อเดือนม.ค. ปี 64 ตนได้คลำดูแล้วเจอก้อนเล็ก ๆ จึงได้เดินทางมาพบหมอที่โรงพยาบาล ให้เจาะตรวจดู ซึ่งหมอวินิจฉัยว่า เป็นก้อนต่อมไขมันปกติ จนมาตั้งครรภ์ได้ 7 เดือน ก้อนนี้ได้โตขึ้นเยอะมาก จึงได้ไปพบหมอที่โรงพยาบาลชนแดน และได้ส่งตัวไป โรงพยาบาลเพชรบูรณ์


โดยหมอที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ได้ทำการเจาะ แล้วสรุปผลว่าเป็นเนื้อร้าย คือ มะเร็งเต้านม แต่ยังเอาออกไม่ได้ เพราะว่าตนนั้นตั้งท้องอยู่ เกรงว่าจะกระทบลูกในท้อง จนเข้าเดือน พ.ย. 2564 จึงถึงกำหนดการคลอดลูก หมอก็ยังคงยืดเวลาผ่าตัดออกไป เพราะด้วยเหตุผลว่า ต้องรอคิว จึงปรึกษากับแฟนว่าและได้ย้ายไปโรงพยาบาลร้อยเอ็ด


จนได้ผ่าตัด 18 ม.ค. 2565 ซึ่งตอนนั้นไม่ได้มีผลข้างเคียงแต่อย่างใด 7 วันต่อมาจึงออกจากโรงพยาบาล ซึ่งผลที่หมอโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ระบุคือ เป็นมะเร็ง และต้องทำคีโม ทั้งหมด 8 เข็ม พร้อมทั้งต้องฉายแสงและกินยาต้านด้วย ซึ่งตอนนี้ได้ให้คีโมไปทั้งหมด 5 เข็มแล้ว


โดยในช่วงการให้คีโมในช่วง 2-3 เข็มแรก ยังอยู่ที่ร้อยเอ็ด ก็ใช้จักรยานยนต์เดินทางไปรักษา แต่เนื่องจากแฟนต้องมาดูแลบ่อย จึงถูกให้ออกจากงาน สมัครที่ไหนก็ไม่มีใครรับ เลยตัดสินใจย้ายมาอยู่เพชรบูรณ์ โดยในตอนนี้ก็ต้องเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ไปฉายแสงที่ร้อยเอ็ด ระยะทางไป-กลับหลายร้อยกิโล ซึ่งบางทั้งเดินทางตากฝน รถเสีย ยางรั่ว ซ้ำยังแพ้คีโม และแพ้ฝนด้วย จากการขี่รถจักรยายนต์ไปรักษา


นายสุระชัย ไชยบาล 35 ปี เล่าว่า ตอนที่แฟนตั้งท้องอยู่ก่อนหน้านี้ ตนนั้นทำงานอยู่ที่ อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ อยู่ร้านข้าวสาร ซึ่งตนก็ได้ดูแลพาแฟนไปหาหมอเป็นประจำ ช่วงแรกก็ลาหยุดอาทิตย์ละครั้ง แต่หลังๆ มา พอลาหยุดบ่อย งานที่ร้านข้าวสารไม่คล่องตัว สุดท้ายเจ้าของร้านจึงสั่งให้หยุดงาน ตนจึงเกิดความท้อแท้ ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาซื้อนมลูก


ล่าสุด ตนนั้นได้ออกจากงานเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา เพราะว่าต้องมาดูแลแฟน เพราะว่าพ่อ แม่ ก็ไม่อยู่ ตนไม่กล้าปล่อยให้แฟนอยู่กับลูกสองคน จนตอนนี้ก็เหลือเงินติดตัวอยู่ 25 บาท ถ้าอยากกินน้ำ ก็จะนึกถึงแฟนก่อน


ซึ่งปัจจุบันรายได้ที่ได้ก็มาจากเงินที่รัฐบาลสนับสนุนทารก เดือนละ 600 บาท และเงินสนับสนุนประกันสังคม 800 บาท รวมทั้ง เงินพิการของพ่ออีก 800 เอามารวมกันซื้อนมให้ลูก ซึ่งยอมรับว่าเงินนั้นไม่พอ จึงอยากจะหยุดฉายแสงคีโม เพราะเงินไม่มีไปหาหมอ แล้วตนนั้นก็ถูกเลิกจ้าง จนตอนนี้ก็มีการหยิบยืมจากเพื่อนฝูงบ้าง ซึ่งไม่รู้จะหาเงินจากไหน อาจจะต้องหยุดคีโม


ตอนนี้ถ้าหากวิงวอนให้สังคมช่วยเหลือ ตนนั้นก็กลัวว่า จะเอาเรื่องป่วยมาเป็นข้ออ้าง ถ้าหากมีผู้ใจบุญตนนั้นก็จะขอบพระคุณมากที่จะให้การช่วยเหลือ ในเรื่องของผ้าอ้อมน้อง ค่านมน้อง


คุณอาจสนใจ

Related News