สังคม

“อนุทิน” ยอมรับเปิดสถานบันเทิง อาจมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น

โดย paranee_s

2 มิ.ย. 2565

57 views

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจสถานบันเทิง หลังศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 หรือศบค. ผ่อนคลายให้เปิดบริการตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่า ปลัดกระทรวงสาธารณสุขรายงานสถานการณ์แล้ว ยอมรับว่าเป็นห่วง เนื่องจากแต่ละสถานที่มีความเสี่ยงเยอะ เพราะใช้เสียงเต็มที่ ยอมรับว่าอาจมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่ทุกร้านมีมาตรการป้องกันเต็มที่


โดยกรุงเทพมหานครมีสถานบันเทิง กว่า 300 แห่ง ที่มาขออนุญาตเปิดให้บริการ และได้แจ้งเรื่องการดำเนินการป้องกันแล้ว สิ่งสำคัญคือขอให้ฉีดวัคซีน 3-4 เข็มยิ่งดี ก่อนที่จะไปเที่ยว เพราะต่อให้ติดเชื้อจะไม่มีอาการหนักหรือเสียชีวิต ถ้าไม่ได้ฉีดวัคซีน เข้าไปเที่ยวไม่ได้ หากเจ้าหน้าที่จับได้ถือว่าผิดกฎหมาย


ดังนั้น แต่ละร้านต้องคัดกรองและประเมินให้ดี ใช้ความระมัดระวัง การจะไปหยุดหรือล็อกคงไม่ใช่เรื่อง หากทำความเข้าใจได้กับคนไปเที่ยวให้ฉีดวัคซีน ผู้ติดเชื้อก็จะไม่ต้องกินยา ก็สามารถหาย หากเข้าใจก็เดินหน้าต่อไป


ส่วนหลังจากนี้หากพบติดเชื้อ จะกลับมาใช้มาตรการเข้มขึ้นหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าถ้าทุกคนฉีดวัคซีนหมดแล้วติดเชื้อ จะไม่เป็นอะไร กินยาฟาวิพิราเวียร์ หรือฟ้าทะลายโจร ได้ บางคนคนติดเชื้อ 3-4 วันก็หาย ไม่ต่างจากโรคอื่นที่เคยเป็น จะกลายเป็นโรคประจำถิ่นที่เราคุ้นเคย เช่น ไข้เลือดออก หรือเป็นไข้หวัดอีกชนิด และขณะนี้ที่เห็นชัดคือ คนที่ฉีดวัคซีนพบติดเชื้อและเสียชีวิตน้อยลง อาจมีติดเชื้อมาบ้างแต่เตียงโรงพยาบาลมีพร้อม และผู้ป่วยที่ต้องใช้เตียงก็น้อยลง


ส่วนใช้เวลากี่วันประเมินตัวเลข หลังให้เปิดสถานบันเทิง จึงจะมีมาตรการออกมารับมือ นายอนุทิน กล่าวว่า วงรอบการติดเชื้อประมาณ 3-5 วัน ถ้ามีการติดเชื้อเพิ่มมาเป็นหมื่นคน แสดงว่าเป็นไปตามที่ประเมินว่าจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม แต่ต้องดูคนที่ป่วยหนัก ถ้าจำนวนไม่เพิ่ม และคนที่เสียชีวิตอยู่ในข่าย 608 เท่ากับว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เดินหน้าต่อไปได้


ขณะนี้ฉีดวัคซีนให้เยอะ เวลานี้ฉีดไปได้ถึง 140 ล้านโดส อย่ากลัว ไม่มีอันตรายแน่นอน หากจะใช้ชีวิตให้เป็นปกติมากที่สุดต้องฉีดวัคซีน คนที่ฉีดเข็ม 3 เกินเวลา 3 เดือนให้ไปฉีดเข็ม 4 ส่วนคนที่ฉีดเข็ม 4 แล้วให้ไปฉีดเข็ม 5 และต่อไปอาจต้องฉีดกระตุ้นทุกปีจนกว่าจะนิ่ง

คุณอาจสนใจ

Related News