สกัดเพลิงไหม้โรงงาน เจออุปสรรคซอสพริกระเหยเข้าตา ชาวพระประแดงอพยพวุ่น

วานนี้ (16 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บริษัท แพนสยามฟู้ด โปรดักส์ จำกัดซึ่งเป็นโรงงานผลิตน้ำผลไม้ ริมถนนรถรางสายเก่า ใกล้เคียงปากทางเข้าวัดโยธินประดิษฐ์  ต.สำโรง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยรถดับเพลิงเทศบาลเมืองปู่เจ้าสมิงพรายและเทศบาลใกล้เคียงเดินทางเข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นอาคาร 2 ชั้น ต้นเพลิงเกิดขึ้นภายในโรงงานและลุกลามอย่างรวดเร็ว แสงเพลิงเต็มพื้นที่และกำลังลุกลามเข้าโรงงานข้างเคียง ขณะที่ดับเพลิงไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงได้เนื่องจากมีรายงานตัวอาคารเริ่มทรุดตัว พื้นที่มีความเสี่ยงสูง

เบื้องต้นได้มีการอพยพคนงานบางส่วนที่มาทำงาน ออกมาได้ปลอดภัย ซึ่งปกติโรงงานแห่งนี้มีพนักงานกว่า 200 คน แต่วันนี้เป็นวันหยุด จึงทำให้ช่วงเกิดเหตุคนงานสามารถนี้ออกมาด้านนอกได้ทัน

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาล และหน่วยงานต่างๆ ระดมกำลัง และรถดับเพลิงกว่า 40 คัน และระดมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง เจ้าหน้าที่อาสาสมัครเข้ามาฉีดน้ำควบคุมเพลิง โดยเริ่มจากการเข้าทางด้านหลังโรงงาน ซึ่งคาดว่าเป็นจุดต้นเพลิง เพื่อฉีดน้ำควบคุมเพลิงในวงจำกัด

แต่ด้วยกระแสลมที่แรง ทำให้ควันโหมหนักมากยิ่งขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงพยามฉีดน้ำควบคุมรอบๆ เพื่อลดอุณหภูมิภายในอาคาร ซึ่งอุปสรรคในการปฎิบัติภารกิจในวันนี้ พบว่าด้านในโรงงานนอกจากผลิตน้ำผลไม้แล้ว ยังมีการผลิตซอสพริกด้วย ทำให้ขณะฉีดน้ำควบคุมเพลิง ซอสพริกระเหยเข้าตาและปะปนมากับน้ำที่ใช้ดับเพลิง

ซึ่งระหว่างปฏิบัติหน้าที่ เจ้าหน้าที่มาแจ้งกับชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ให้อพยพออกจากบริเวณใกล้เคียง เพราะเกรงว่าภายในโรงงานจะมีถังสารเคมีชนิดไฮโดรเจน

เบื้องต้นนายอำเภอพระประแดง ผู้กำกับการ สภ.สำโรงใต้ ที่เดินทางมาติดตามสถานการณ์ที่เกิดเหตุ และได้สอบถามกับทางผู้จัดการโรงงานเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ผู้จัดการ ยืนยันว่า ไม่มีถังสารเคมีไฮโดรเจนตามที่มีกระแสข่าวลือ แต่เป็นเพียงถังลมเท่านั้น ซึ่งไม่ได้มีสารที่เป็นอันตรายแต่อย่างใด

โดยเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันฉีดน้ำสกัดเปลวเพลิงอยู่นานกว่า 3 ชั่วโมง จึงสามารถสกัดเปลวเพลิงเอาไว้ได้เหลือเพียงกลุ่มควันจำนวนมากที่ยังปกคลุมโรงงานที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ยังคงต้องฉีดน้ำสกัดเพลิงในที่เกิดเหตุตลอดเวลาโดยจะสแตนบายไว้อีก 5 ชั่วโมง เพื่อสังเกตการณ์ และให้มั่นใจว่าไฟจะไม่ปะทุขึ้นมาอีก

จากนั้นในเวลาประมาณ 14.30 น. ทางนายธรรมนูญ แจ่มใส นายอำเภอพระประแดง พร้อมด้วยผู้เกี่ยวข้องได้แถลงข่าว ระบุว่า สามารถควบคุมเพลิงได้สำเร็จแล้ว จากเหตุการณ์นี้มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยจากการเป็นลม 1 คน ซึ่งเป็นช่าง จึงได้ส่งโรงพยาบาล และล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว

ขณะที่ พันตำรวจเอก จักรพงศ์ นุชผดุง ผู้กำกับการ สภ.สำโรงใต้ ระบุว่า จากการสอบสวนทราบว่า จุดต้นเพลิงเป็นโกดังเก็บของที่อยู่ด้านหลัง ขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ในที่เกิดเหตุ มีเพียงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้านหน้า หลังจากนี้จะมีการสอบสวนต่อไปว่าเกิดจากสาเหตุใด เบื้องต้นไม่ได้พบมูลเหตุจะเป็นการวางเพลิงเผาทรัพย์ แต่ทางตำรวจไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง จะมีการสืบสวนสอบสวนต่อไป

ทั้งนี้ ภายในโรงงาน มีลังกระดาษซึ่งเป็นเชื้อเพลิง และสารเคมีที่มีแอลกอฮอล์เล็กน้อย เบื้องต้นที่เพลิงไหม้ และมีเสียงระเบิด คาดว่าเกิดจากสารเคมีที่มีแอลกอฮอล์

ซึ่งขณะเกิดเหตุ ชาวบ้านที่อยู่ติดกับโรงงาน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่อพยพออกไปข้างนอก แต่ก็กังวลใจ และออกมาเฝ้าดูสถานการณ์เพลิงไหม้ที่หน้าบ้าน กระทั่งช่วงที่มีลมพัดมาอย่างรุนแรง ทำให้ชาวบ้านบางคน ที่บ้านเป็นบ้านไม้ ต้องเอาสายยางมาต่อ และเปิดน้ำฉีดพ่นไปที่หลังคาบ้านตัวเอง เพื่อลดอุณหภูมิความร้อนของบ้าน และป้องกันหากมีสะเก็ดไฟมาถูกบ้าน ไฟจะได้ไม่ไหม้

ขณะที่นายอำเภอได้ประสานนายกเทศมนตรีปู่เจ้าสมิงพราย แจ้งให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบไปแจ้งที่เทศบาลในเรื่องควันกลิ่น และสิ่งที่ได้รับผลกระทบ และอีกส่วนหนึ่งให้ลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจภูธรสำโรงใต้

ขณะเดียวกัน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางอำเภอเพิ่งเข้ามาตรวจภายในโรงงาน หลังจากที่ก่อนหน้านี่ชาวบ้าน เคยร้องไปที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ให้ตรวจสอบเรื่องปัญหากลิ่น และฝุ่นควันจากโรงงาน ซึ่งจากการตรวจสอบก็พบว่า ทางโรงงานก็ยอมรับ และจะปรับปรุงแก้ไข ซึ่งก็ได้สั่งแก้ไขไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า สาเหตุการเพลิงไหม้ในครั้งนี้น่าจะเกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจร แต่อย่างไรจะได้ประสานเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานมาทำการตรวจหาหารายละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนค่าเสียหายเบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท