สังคม

ลูกทุกข์ใจ แม่เชื่อลัทธิอุบาทว์ กินขี้ไคล ไม่ยอมกลับบ้าน 'พระบิดา' อ้างเก็บศพเพื่อรอวันฟื้น

โดย thichaphat_d

10 พ.ค. 2565

1.1K views

ลูกเผยช่วยแม่วัย 80 ออกจากลัทธิประหลาด ไม่กลับบ้านจะอยู่กับ ‘พระบิดา’ ถ้าตายจะไม่ได้ขึ้นสวรรค์ ถึงขั้นเอารูปมาแขวนคอ ด้าน ‘กัน จอมพลัง’ แฉแหลกสาวกใช้น้ำเหลืองศพทาหน้า-ทาตัวรักษาโรค ใครหอมกลิ่นมะลิเป็นคนดี ใครเหม็นเป็นคนเลวคนชั่ว ศพที่เรียงรายในสำนัก พระบิดาบอก “รอฟื้นตัวกลับมาใหม่”


จากกรณีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสำนักลัทธิประหลาดใน อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ มีชายอ้างตัวเป็นพระบิดาของทุกศาสดา และมีการให้ลูกศิษย์กินปัสสาวะ เสมหะ และขี้ไคล อ้างว่าเพื่อรักษาโรค และพบร่างผู้เสียชีวิตถึง 11 ศพ โดยมีการกล่าวอ้างว่า รอขึ้นสวรรค์ กระทั่งนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าฯ ชัยภูมิ มีคำสั่งให้จับกุมเจ้าลัทธิดังกล่าว

โดย น.ส.แหม่ม (นามสมมุติ) เป็นคนเปิดเรื่องร้องเรียนหมอปลา ให้สัมภาษณ์เปิดเผยว่า ยายน้อย อายุ 80 ปี เป็นแม่ของตน เดิมนับถือศาสนาคริสต์ แต่ตอนหลังมาเจอลัทธินี้ถึงกับทิ้งพระคัมภีร์ไบเบิ้ล ไปอยู่อาศัยในสำนักโดยไม่ยอมกลับบ้าน แม่ของตนบอกว่ามาปฏิบัติธรรม และบอกว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ปฏิธรรมอยู่แล้วมีความสุข มีแต่ตคนแก่รักใคร่กลมเลี่ยวกัน จากนั้นแม่ก็เดินทางจาก จ.ขอนแก่น ไปอยู่ที่สำนักดังกล่าวด้วยตนเอง

หลังจาก 2 เดือน ตนคิดถึงแม่จึงโทรหา แม่บอกว่าถ้าคิดถึงก็มาหาสิ ตนจึงเดินทางจากขอนแก่น ไปเยี่ยมแม่เพราะเป็นห่วงจะอยู่อย่างไร เห็นสภาพช็อก รับไม่ได้สกปรกเหม็นอับมาก เหมือนกลิ่นศพ ครั้งแรกที่ไปจะต้องถอดรองเท้าเดินเข้าไปกว่า 500 เมตร จากนั้นต้องคลานเข้าไปกราบแบบที่เขากำหนด ต้องประสานมือแล้วก้มกราบ 6 ครั้ง ถ้าเป็นผู้ชายหัวจะต้องแตะพื้นทุกครั้ง พบกลุ่มลูกศิษย์และสาวกจำนวน 30 กว่าคน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัยอายุ 70-80 ปี

น.ส.แหม่ม เล่าอีกว่า สงสารที่เห็นแม่ต้องคลานไปบ่อเสลดบ่อน้ำลาย เอามือควักล้วงน้ำในบ่อมาล้างหน้าและตักกิน โดยฝ่ายพระบิดาอ้างว่า ทุกส่วนในร่างกายของเขาเป็นยาทั้งหมด ทั้งยังอ้างอีกว่าเป็น “พระมโหสถ” สำหรับ “พระบิดา” จะอ้างตนว่าเป็น พ่อพระเยซู แต่กลับแต่งการเป็นฤๅษี ไม่อาบน้ำทำความสะอาดร่างกายแต่อย่างใด สาวกต้องกินน้ำของพระบิดาเพื่อรักษาโรค และป้องกันโควิดได้

“ตนพยายามเอาแม่ออกมาจากสำนักแต่แม่ยืนกรานไม่ยอมกลับ จะอยู่ที่จะตายที่นี่ไม่ต้องและต่อไปให้เรียกยายอย่าเรียกแม่ ตนจึงทำใจกลับบ้าน แต่เศร้าในใจเพราะตนเองเป็นลูกที่ช่วยแม่ไม่ได้ ได้แต่คิดหาวิธีช่วยแม่ออกมา ปรึกษาใครไม่ลได้เพราะอับอาย ได้แต่คุยกับญาติพี่น้อง ใครถามว่าแม่ไปอยู่ที่ไหน ตนอ้างว่าไปอยู่กับหลานชาย เราอธิบายใวห้ใครฟังไม่ได้ว่าแม่ไปอย่างไร”  

ต่อมาตนกลับไปเยี่ยมอีกครั้งบอกแม่ว่า “ยายกลับมาอยู่บ้านเรามั้ย” แม่ขึงตาตะคอกเสียงด่าว่า “ก็บอกว่าไม่กลับ เซ้าซี้พูดไม่รู้เรื่อง มาอยู่นี่กินดีอยู่ดี ปฏิบัติบธรรมไม่ชอบรึไง” แม่บอกว่าอยากกินอะไรก็ได้กิน เขาหาให้กินหมด ตนเห็นสภาพแม่ผอมโทรม เป็นลมบ่อยเพราะเป็นความดัน ไม่ได้กินยา บางครั้งเป็นผื่น ตนเห็นกับตาแม่เอาโคลนมาทาตัว บอกให้ไปหาหมอก็ไม่ยอมไป จะให้พระบิดา รักษาให้

ตนเห็นแม่เป็นแบบนั้นก็ทุกข์ใจ ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงปรึกษากับลูกสาว ลูกสาวบอกให้แจ้งหมอปลา แต่ตนไม่กล้าแจ้ง ก็พยายามโน้มน้าวหลอกล่อให้แม่กลับบ้าน แต่ก็ไม่ยอมกลับ โดยเมื่อ 3 อาทิตย์ที่ผ่านมา ตนเดินทางไปที่สำนักฯ อีกครั้ง เพื่อรับแม่กลับบ้าน ตนบอกว่า “ยายคิดถึงจังเลย ไปอยู่กับหลานสัก 3 อาทิตย์หน่อย” แม่บอกว่า “ไปนานไม่ได้นะ พระบิดาไม่อนุญาต”

จากนั้นตนก็รับแม่คือยายน้อย กลับบ้านที่ขอนแก่น พออยู่ครบ 1 อาทิตย์ แม่บอกว่า “ครบแล้วเด้อ สัจจะวาจา” แล้วให้ตนส่งกลับสำนัก รอบนี้แม่สัญญาว่าจะไม่ไปอยู่ที่สำนักประจำ จะไปเฉพาะ 5 ค่ำ และ 9 ค่ำ เพราะเป็นวันมงคล ทางสำนักเขาจะจัดงาน ตนฟังแล้วดีใจแม่จะไม่ไปอยู่ประจำที่นั้น

เวลาผ่านไปตนโทรไปหาแม่ว่าจะไปรับกลับบ้าน แม่ตะคอกเสียงใส่บอกว่า “ไม่ต้องมารับจะอยู่นี่พระบิดาบอกเป็น 2 จิต 2 ใจไม่ได้ จะไม่ได้ขึ้นสวรรค์” แม่ยืนกรานจะอยู่กับพระบิดาบอกว่า “เดี๋ยวแม่ตายจะไม่ได้ขึ้นสวรรค์ ถ้าแม่ตายจะอยู่กับพระบิดาอย่าห่วงแม่เด้อ” ตนถามว่าสุขภาพร่างกายแย่ ๆ ไม่ไปหาหมอเหรอ แกตอบว่า “ไม่ไม่ ตายวันไหนก็ตายวันนั้นแหล่ะ ปลงแล้วอยู่กับพระบิดา ศพก็อยู่นี่”

ลูกสาวของยายน้อย เล่าต่อว่า ตนได้ฟังรู้สึกช็อก ไปกันใหญ่แล้ว จึงปรึกษาลูกสาวร้องเรียนไปยังหมอปลา เมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 8 โมง หมอปลาตอบรับถามที่อยู่และพุดว่า “มันมีเรื่องแบบนี้ในโลกเหรอ” วันเสาร์ ที่ 7 พ.ค. ทีมงานหมอปลามาคุยที่บ้าน ก่อนจะบุกไปที่สำนักพระบิดา ช่วยแม่ออกมา

ทั้งนี้ ตนเองเคยถามแม่ว่า ทำไมต้องกินสิ่งปฏิกูลของพระบิดา แม่บอกว่า “พระบิดาเป็นผู้สร้างโลก เป็นพ่อของพรเยซูใหญ่ที่สุด” พระบิดาให้กินอะไรก็เชื่อล้านเปอร์เซ็น ตนไม่รู้ว่าแม่กินฉี่ อุจจาระ เสลดด้วยหรือไม่ แต่รู้ว่ากินขี้ไคลและเอาเสลดของพระบิดามาล้างหน้า เพราะเป็นยาอายุวัฒนะ หน้าจะได้ตึงใส แม่รักพระบิดามากไม่รู้เกิดจากอะไร ถึงขั้นเอารูปของชายที่อ้างตัวเป็นพระบิดา มาแขวนคอ ทุกวันนี้ก็ยังแขวนอยู่ที่คอ และนำรูปพระบิดา ไปตั้งไว้บนหัวเตียงด้วย

ลูกสาวของยายน้อย เผยว่า “ขนาดเคยนับถือพระเยซู มานานกว่า 30 ปี ยังเป็นได้ถึงขนาดนี้ รู้จักพระบิดา แค่ปีเดียวถ้าตายได้ตายแทนแล้ว ถ้าพระบิดาบอกให้นอนตายแกก็จะตาย ตายได้ทุกเวลาถ้าพระบิดาสั่ง ไม่ห่วงชีวิตเพราะตายแล้วจะได้ขึ้นสวรรค์ จะได้อยู่กับพระบิดา” แม่พูดให้ฟังว่าศพที่ตายเรียงรายอยู่ในสำนัก พระบิดาบอก “รอฟื้นตัวกลับมาใหม่” คุณแม่ก็เชื่อแบบนั้น ตนฟังแล้วก็ช็อกอีก ปวดหัวกับแม่มากเชื่อเรื่องงมงาย “ดีใจที่ช่วยแม่ได้ แต่ใจของแม่ยังอยู่กับพระบิดา แกพยายามจะขึ้นรถหนีออกจากบ้านที่ขอนแก่น กลับไปหาพระบิดาที่สำนักฯ น้องสะใภ้ต้องช่วยกันดู ไม่ให้แม่กลับไปอีก

ด้าน ‘กัน จอมพลัง’  เผย หลังเยือนถิ่น "พระบิดาแห่งจักรวาล" ลูกศิษย์โชว์กินฉี่พร้อมบอกกับตนว่า กลิ่นศพเป็นของดี เป็นกลิ่นหอมของมะลิ คนที่ได้กลิ่นเหม็นแสดงว่าเป็นคนบาป คนชั่ว  แต่สิ่งที่ตนตกใจที่สุดคือ มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมานั่งคุยกับ ‘พระบิดา’ อย่างจริงจัง ไม่ใช่มาจับ ตักเตือน หรือดำเนินคดี แต่มาถวายของให้เสียเอง พร้อมฝากบอกว่า ที่ ‘พระบิดา’ อ้างว่าเป็นผู้สร้างโลก แต่ตนแนะนำ ควรสร้างห้องน้ำอาบน้ำก่อน เพราะ ‘พระบิดา’ ไม่อาบน้ำมา 9 เดือนแล้ว

ตนลงสำรวจพื้นที่พร้อมหน่วยงานเกี่ยวข้องและหมอปลา พบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่สาธารณะ มีการระดมคนนอกเข้ามาอยู่อาศัย หลอกว่ามี “พระมโหสถ รักษาโรคป้องกันโควิดได้ บางคนเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ก็นำพระมโหสถของพระบิดาไปกิน จนสุดท้ายตายอยู่ในนั้น และศพก็ไม่ได้เอาออกไปแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังมี ศพเด็กอายุ 1 ขวบ 7 เดือนด้วย โดยฝ่ายพระบิดา อ้างว่าน้องที่ตายอยากอยู่กับตน ทำให้แม่ที่นำลูกมารักษามอบศพไว้กับสำนัก”

“สิ่งที่น่าแปลกใจก็คือ พระบิดา อ้างว่าร่างกายตัวเองเป็นยาแต่กลับไม่กินเอง เน้นแต่ผลิตเท่านั้น นอกจากนี้ในสำนักจะพบว่ามีการนำเอาโลงศพมาต่อท่อใส่ถุงเพื่อให้น้ำเหลืองไหล จากนั้นก็เอาไปแจกจ่ายให้สาวกทาหน้า หากเหม็นก็จะบอกเป็นคนเลวคนชั่ว ใครได้กลิ่นดอกมะลิกลิ่นดอกไม้เป็นคนดี”


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/aC0uAOL3wDA

คุณอาจสนใจ

Related News