เฮี้ยนจัดสาววัย15โดนสิงร่างกลางวัน บอกอยากไปอยู่ด้วยเชื่ออาศัยต้นไทรในพื้นที่

หญิงสาวอายุ15ปี โดนสิ่งลี้ลับที่ชาวบ้านเชื่อว่าผีเข้าสิงร่างกลางวันแสกๆ ชาวบ้านเพื่อนร่วมงานพากันแตกตื่น

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิขึ้นที่บริเวณที่พักคนงานที่มารับจ้างคัดแยกแมงกะพรุน ติดกับคลองน้ำเค็มบ้านบ่อเจ็ดลูก ห่างจากโบราณสถานบ่อเจ็ดลูกเพียง50เมตรในพื้นที่หมู่ที่1 ต.ปากน้ำ อ.ละงู เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณเที่ยงตรง ของวันที่30 เม.ย.65 โดยช่วงเกิดเหตุนั้นชาวบ้านหลายคนกำลังช่วยเหลือผู้หญิงคนหนึ่งที่นอนอยู่ในเต้นท์คนงาน มีอาการดิ้นทุรนทุราย พูดจาไม่รู้เรื่อง และ ส่งเสียงกรีดร้องอยู่เป็นระยะเหมือนคนที่มีอาการผีเข้าสิงร่าง โดยชาวบ้านและเพื่อนร่วมงานต่างพากันตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเมื่อพยายามพูดคุยกับผู้หญิงคนดังกล่าว โดยที่มีเพื่อนเป็นคนสอบถามว่า ต้องการอะไร ก็มีการตอบกลับมาอย่างชัดเจนว่าอยากไปอยู่กับมัน และเมื่อถามว่ามาจากไหน ก็ตอบกลับมาว่า มาจากต้นไทร แต่พอชาวบ้านพูดว่าไปอยู่ด้วยไม่ได้ ผู้หญิงที่โดนสิงร่างก็ส่งเสียงกรีดร้องขึ้นมาทันที่ ทาทีเหมือนไม่พอใจ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอยู่ประมาณ20นาที แต่เมื่อได้ยินเสียงอาซานจากมัสยิดที่อยู่ใกล้เคียงก็ค่อยๆเงียบสงบลงอย่างไม่น่าเชื่อ (เสียงอาซาน คือคำสรรเสริญพระเจ้าของศาสนาอิสลาม ที่เป็นสัญลักษณ์ มีความมายเชิญชวนให้พี่น้องชาวมุสลิมมาร่วมกันประกอบพิธีกรรมทางศาสนา) ซึ่งที่มัสยิดจะมีการอาซานวันละ 5 เวลา เมื่อชาวบ้านมั่นใจว่าสัมภเวสีหรือผีที่สิงร่างน้องผู้หญิงดังกล่าวได้ออกจากร่างไปแล้วก็ได้ประสานรถฉุกเฉินของ อบต.ปากน้ำมารับตัวเพื่อไปส่งโรงพยาบาล เพราะสังเกตว่าน้องผู้หญิงคนดังกล่าวมีอาการอ่อนเพลียจนหมดสติไป

นางสาว สุรอยยา อายุ19ปี เพื่อนของน้องคนดังกล่าวเล่าให้ฟังว่า ตนและเพื่อนสาวคือน้องปานวาด (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 15 ปี กำลังทำงานกันอยู่ โดยตั้งแต่เช้าก็ไม่เห็นว่าเพื่อนจะมีอาการอะไร ยังหัวเราะไปพลางพูดคุยกันไปพลางระหว่างทำงาน แต่เมื่อเวลาประมาณเที่ยงวันก่อนจะไปพัก อยู่ดีๆเพื่อนสาวของตนก็วูบล้มลงโดยไม่รู้ตัว ตนเองและเพื่อนร่วมงานก็ได้ช่วยกันพยุงร่างน้องให้ไปนอนบนแคร่ในเต้นท์ที่เป็นที่พักคนงาน แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเพื่อนสาวกลับกรีดร้องเสียงดังและพูดจาไม่รู้เรื่องคล้ายๆว่าที่พูดอยู่นั้นไม่ใช่เพื่อน จึงคิดว่าเพื่อนน่าจะโดนผีเข้าสิงจึงไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านให้มาช่วย

นางสาว สุรอยยา เล่าให้ฟังว่า ตนเองกับเพื่อนทั้งหมดกว่า20คนมาทำงานรับจ้างคัดแยกแมงกะพรุนที่นี่ได้1เดือนแล้ว ก็ไม่เคยเห็นอะไรแปลกๆ แต่ในความรู้สึกก็สัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างที่อยู่ใกล้ตัว และยิ่งได้ฟังจากชาวบ้านว่าที่ตรงนี้มีสิ่งลี้ลับเหมือนมีสัมภเวสีอาศัยอยู่ก็เชื่อ และไม่เคยลบหลู่แต่อย่างใด

ด้านน.ส.เจ๊ะหยัน ทุมมาลี เจ้าของที่เล่าว่า เมื่อคืนเวลาประมาณ21 .00น.น้องผู้หญิงคนดังกล่าวมาเล่าให้ตนเองฟังว่า ในขณะทำงานอยู่สังเกตเห็นว่า มีเงาดำๆอะไรสักอย่างคอยตามเขาอยู่ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนมาถึงวันนี้เวลาดังกล่าวก็เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมา ตนเองเชื่อว่าเป็นสัมภเวสีที่อาศัยอยู่ในต้นไทรข้างบ้านร้างริมคลองเข้าสิงร่างน้อง เพราะก่อนหน้านี้ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวหลายคนได้ยินเสียงเหมือนผู้หญิงกำลังนั่งไกวเปลกล่อมลูก และได้ยินเสียงเด็กร้องออกมาจากต้นไทรดังกล่าวเป็นประจำ อีกอย่างน้องผู้หญิงที่โดนสิงร่างอาจจะเหนื่อล้าจากการทำงาน จึงทำให้จิตอ่อนสัมภเวสีจึงเข้าสิงร่างได้ง่าย หลังจากนี้ตนเองใช้รถแบ็คโฮมาขุดต้นไทรทิ้ง แต่ก็ต้องทำพิธิขอขมาเสียก่อนเพื่อไม่ให้สัมภเวสีไปสร้างความเดือดร้อนให้ใครอีก

ด้านน.ส วรรณนิภา หลงหา อายุ35 ปี คนงานที่ร่วมงานด้วยกัน เล่าให้ฟังอีกคนว่า ตนเองก็เคยมีอาการที่สังเกตุคล้ายๆเหมือนกับเหตุการณ์ในวันนี้แล้วถึง2ครั้ง โดยเริ่มมีอาการอ่อนแรง อาเจียน เหมือนคล้ายๆจะวูบทั้งๆที่ร่างกายยังแข็งแรง แต่ตนรู้ตัวว่าเป็นพลังงานลี้ลับบางอย่างจึงกล่าวขอขมาลาโทษไปว่า ลูกหลานมาทำมาหากิน อย่าทัก อย่าทำร้ายลูกหลานเลย แค่อธิษฐานแค่นี่ก็รู้สึกตัวและมีอาการดีขึ้นมาทันที เรียกได้ว่าหายจากอาการที่เป็นอยู่ทันที่ จึงเชื่อว่าที่นี่มีสัมภเวสีอาศัยอยู่จริง