เจ้าท่าตรังเข้าแจ้งความ เหตุลักลอบดูดทรายแม่น้ำ มีเอี่ยวนักการเมืองท้องถิ่นและตำรวจ

ตำรวจ สภ.ห้วยยอด รับแจ้งความจากเจ้าท่าตรัง เหตุลักลอบดูดทรายเถื่อนในแม่น้ำตรัง ในขณะที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้แจ้งความเอาผิดแล้วเช่นกัน ด้านผู้กำกับฯ สภ. ห้วยยอด ระบุ ยังไม่ทราบตัวผู้กระทำผิด แต่มีหลักฐานภาพกล้องวงจรปิด และอยู่ในระหว่างการดำเนินการ

ในวันนี้ (20 เมษายน) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง นายศรีอนันต์ พุ่มเกื้อ นักวิชาการขนส่งชำนาญการ สนง.เจ้าท่าภูมิภาค สาขาตรัง ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการ สนง.เจ้าท่าภูมิภาค สาขาตรัง เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ยศวริศ ทองสงโสม สว. (สอบสวน) สภ.ห้วยยอด กรณีมีผู้ลักลอบดูดทรายในแม่น้ำตรัง จนทรัพย์สินแผ่นดินได้รับความเสียหาย และทางป.ป.ช.ตรัง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบไปก่อนหน้านี้ด้วย

จากกรณีเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ป.ป.ช.ตรัง ป่าไม้ตรัง เจ้าท่าภูมิภาค สาขาตรัง และตำรวจ สภ.ห้วยยอด ได้เข้าตรวจค้นบ่อทรายเถื่อน พบว่ามีผู้ลักลอบเข้าดูดทรายโดยนำเครื่องจักรกล และเครื่องดูดทรายมาติดตั้งบริเวณแม่น้ำตรัง ในพื้นที่หมู่ที่ 8 ต.ลำภูรา อ. ห้วยยอด จ.ตรัง สามารถจับกุมคนขับรถแบคโฮ จำนวน 1 คน ขณะลักลอบดูดทราย

ส่วนข้อมูลเชิงลึกพบว่าบ่อทรายดังกล่าวเป็นของตำรวจนายหนึ่งอยู่ในพื้นที่อ.ห้วยยอด และนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่ง ผู้เป็นเจ้าของรถแบคโฮ โดยแหล่งข่าวแจ้งว่าในจังหวัดตรังมีบ่อดูดทรายประมาณ 50 แห่ง เกือบทั้งหมดเป็นบ่อทรายผิดกฎหมาย และเกือบทุกแห่งต้องจ่ายส่วยให้กับเจ้าหน้าที่รัฐบางกลุ่ม โดยการเรียกเก็บส่วยมีทั้งรายครั้ง และรายเดือน ขั้นต่ำเปิดบ่อครั้งแรกต้องจ่าย 10,000 บาท จากนั้นจะมีการเรียกเก็บรายเดือน เดือนละ 5,000 บาท แต่ละเดือนจะมีเงินส่วยหลายแสนบาท

เหตุที่ผู้ประกอบธุรกิจเลือกทำบ่อทรายเถื่อนนั้น เพราะขั้นตอนการขออนุญาตยุ่งยากและใช้เวลานาน ใบอนุญาตแต่ละใบใช้เวลาเดินเรื่องกว่า 1 เดือน ทำให้เกิดช่องว่างการเก็บส่วย ทั้งที่ผู้ประกอบการหลายรายต้องการเข้าระบบการทำธุรกิจที่ถูกต้อง จนทำให้ตลิ่งแม่น้ำตรังพังทลาย ทรัพย์สินของชาวบ้านเสียหายจากกระแสน้ำที่เปลี่ยนทิศทาง และการเรียกเก็บส่วยมีนานเป็น 10 ปี เมื่อเกิดปัญหาก็แก้ปัญหาเฉพาะหน้า พอเรื่องเงียบ การดูดทรายและเก็บส่วยก็จะวนกลับมาอีก

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่า เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2565 เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ โดยเอาผิดตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ไว้แล้ว และวันนี้ทางเจ้าท่าภูมิภาคได้เดินทางมาแจ้งความเพิ่มเติม โดยเอาผิดตาม พ.ร.บ.เจ้าท่า และพ.ร.บ.เดินเรือน่านน้ำไทย ม. 120 กฎหมายอาญา 172/2565 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่องและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

นายศรีอนันต์ นักวิชาการขนส่งชำนาญการ กล่าวว่า ได้รับการประสานจาก ป.ป.ช.ตรัง ร่วมกับป่าไม้ดำเนินการจับกุมการลักลอบดูดทราย ในหมู่8 ต.ลำภูรา อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา การดูดทรายในแม่น้ำตรังผิดตาม พ.ร.บ.เดินเรือน่านน้ำไทย ม. 120 ซึ่งดูดทรายในแม่น้ำตรังโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากกรมเจ้าท่า จึงเดินทางเข้ามาแจ้งความเพิ่มเติม ตามที่ได้แจ้งความกับกรมป่าไม้ในเรื่องการดูดทรายในแม่น้ำตรัง

ในเบื้องต้นตอนนี้ยังไม่ทราบผู้กระทำผิด ทางเจ้าหน้าที่สอบสวนจะดำเนินการหาผู้กระทำผิดต่อไป โดยทางเจ้าท่าเองมีแผนออกตรวจเป็นระยะ ๆ หากพบการกระทำผิดจะดำเนินการตามกฎหมายทุกกรณี

ทางด้าน พ.ต.อ. สานิตย์ พลเพชร ผกก.สภ.ห้วยยอด ไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว แต่ให้ข้อมูลว่า หลังจากที่ได้รับการประสานก็นำกำลังลงพื้นที่ สามารถตรวจยึดของกลาง 5 รายการ ได้แก่ รถแบคโฮ 1 คัน ตะแกรงดูดทราย ท่อดูดทราย ทุ่น ท่อลำเลียง ซึ่งของกลางทั้งหมดยังอยู่ที่เกิดเหตุยังไม่ได้เคลื่อนย้าย โดยอ้างว่าไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ทั้งนี้ของกลางทั้งหมดป่าไม้เป็นคนตรวจยึดจึงอยู่ในความดูแลของป่าไม้ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนความคืบหน้าในการติดตามผู้กระทำความผิด ขณะนี้ยังไม่ทราบผู้กระทำความผิด แต่มีหลักฐานภาพกล้องวงจรปิด และอยู่ในระหว่างการดำเนินการ เชื่อว่าจะสามารถเอาคนผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้อย่างแน่นอน