สังคม

'หมอโอภาส' เตือนจับตา 'ผู้ป่วยติดเตียง' เสียชีวิตจากโควิดเพิ่มขึ้น ขอผู้สูงอายุ เร่งฉีดเข็มกระตุ้น

โดย thichaphat_d

13 เม.ย. 2565

58 views

เมื่อวานนี้ (12 เม.ย. 65) นายแพทย์ โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุถึง สถานการณ์การติดเชื้อในประเทศไทย ส่วนผู้เสียชีวิตจะพบว่า อัตราการเสียชีวิตเกิน 100 ราย ติดต่อกันมาหลายวัน


โดยในระยะหลังพบว่า ผู้ป่วยติดเตียงเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ นอกจากโรคประจำตัวร่วมแล้ว ยังคงพบว่าส่วนหนึ่งยังไม่ได้เข้ารับวัคซีน เลขจำนวนผู้เสียชีวิตร้อยละ 97 ยังคงเป็นผู้สูงอายุ และกลุ่มเสี่ยง 608 ขณะที่แนวโน้มผู้ป่วยปอดอักเสบและใส่ท่อช่วยหายใจพบว่า ยังคงเพิ่มขึ้น


และยังกล่าวถึงการฉีดวัคซีนโควิดในกลุ่มเสี่ยงผู้สูงอายุช่วงสงกรานต์ว่า เป้าหมายที่วางไว้ในการฉีดวัคซีนโควิดกลุ่มผู้สูงอายุช่วงสงกรานต์จำนวน 3 ล้านคน สามารถฉีดไปแล้ว 2 ล้านกว่าคน เหลืออีก 1 ล้านคน พยายามเร่งรัดให้ฉีดเพิ่มขึ้น โดยขอเชิญชวนญาติ ลูกหลานพาผู้สูงอายุฉีดวัคซีนป้องกันโควิด


อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ผู้สูงอายุไม่ค่อยอยากฉีดวัคซีน รวมถึงฉีดเข็มสาม เหตุผลแรกคือ ไปมาไม่สะดวก บางคนติดเตียง เราจึงให้เจ้าหน้าที่ไปฉีดเอง บางคนเดินทางลำบาก เนื่องจากบ้านอยู่ในตำบลเล็กๆ ต้องไปฉีดที่อำเภอ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องความกลัว อย่างข่าวคราวต่างๆ ออกมา ทำให้ฝังใจ และอีกประการคือ มีความลังเล รวมถึงสงสัยว่าฉีดไป 2 เข็มแล้ว ทำไมต้องฉีดเข็ม 3 อีก จึงต้องย้ำเตือนข้อเท็จจริงว่า การฉีดวัคซีนบูสเตอร์ 3 เข็มจะป้องกันความรุนแรง ลดเสียชีวิต โดยเฉพาะกลุ่ม 608 ผู้สูงอายุจะช่วยได้มาก


สิ่งหนึ่งที่ทางกระทรวงสาธารณสุขพยายามทำ และท่านอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการ สธ.ได้ให้แนวทางคือ การส่งวัคซีนไปใกล้บ้านประชาชนมากที่สุด ซึ่งล่าสุดเราได้ส่งวัคซีนโควิด ทั้งแอสตร้าเซนเนก้า และไฟเซอร์ ไปใกล้บ้านประชาชน คือ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ประชาชนที่อยู่อำเภอห่างไกล สามารถพาผู้สูงอายุฉีดวัคซีนใกล้บ้านได้ โดยตั้งเป้าให้ฉีดช่วงสงกรานต์ให้ได้อีก 1 ล้านโดส ที่เหลือ เพื่อให้ตามเป้าหมาย 3 ล้านโดส


โดยมีวัคซีนไฟเซอร์ 3 แบบ คือ

1. ไฟเซอร์ฝาสีส้ม สำหรับเด็กเล็ก

2. ไฟเซอร์ฝาสีม่วง เป็นสูตรเดิมที่ต้องผสมน้ำเกลือ

3. ไฟเซอร์ฝาสีเทา สูตรใหม่ที่ฉีดในประชาชนทั่วไป โดยไม่ต้องผสมน้ำเกลือเหมือนฝาสีม่วง โดยฝาสีเทา เป็นอันใหม่ที่ฝรั่งเศสบริจาคให้เรา และไฟเซอร์ผลิตขึ้นมาใหม่ ข้อดี คือ ไม่ต้องผสมน้ำเกลือ ทำให้สะดวกใช้งาน โดยเฉพาะในรพ.สต.ที่มีเจ้าหน้าที่จำกัด อีกทั้ง ยังเก็บได้นานขึ้น จากเดิมเมื่อออกจากอุณหภูมิติดลบ 70 ต้องอยู่ในตู้เย็น 2-8 องศาจะอยู่ได้แค่ 4 สัปดาห์ แต่ของใหม่อยู่ได้นานถึง 8-10 สัปดาห์ จึงเหมาะแก่ รพ.สต. และวัคซีนไฟเซอร์ปลอดภัยสูง


แต่ไม่ใช่ฉีดแล้วภูมิจะขึ้นทันทีก็ต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ กว่าร่างกายจะกระตุ้นภูมิคุ้มกันขึ้นมา ก็ต้องมีช่วงระยะห่างอีก สถานการณ์ตอนนี้ต้องเข้มมาตรการป้องกันอยู่ คนกลับบ้านไปพบพ่อแม่ ปู่ย่าตายายต้องระวังใส่หน้ากากให้มากที่สุด เมื่อไปทำกิจกรรมนอกบ้านที่ต้องถอดหน้ากาก เวลาเข้าบ้านเจอผู้สูงอายุต้องใส่หน้ากากให้บ่อยที่สุด จะช่วยลดการติดเชื้อได้


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/T7lj1Ov6Vxw


คุณอาจสนใจ

Related News