หนุ่มพิการย้ายกลับบ้านเกิด ขอหย่าเมีย หลังถูกทำร้าย-บังคับขอทาน จนอยากคิดสั้น

ความคืบหน้ากรณีเมื่อคืนวันที่ 10 เมษายนที่ผานมา มีพลเมืองดีไปพบชายพิการถอดขาเทียม จะกระโดดสะพานพระราม 4 ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อจะฆ่าตัวตาย แต่พลเมืองดีช่วยไว้ได้ทัน โดยชายพิการคนดังกล่าว ชื่อ นายจักรพงศ์ อายุ 39 ปี พิการขาขวาและมือซ้าย

ซึ่งนายจักรพงศ์ ยอมรับว่า เคยพยายามก่อเหตุแบบนี้มาแล้ว แต่ครั้งแรกมีพลเมืองดีมาช่วยไว้ได้ จนมาคิดสั้นจะฆ่าตัวตายอีกเป็นรอบที่สอง เพราะถูกภรรยาวัย 58 ปี ทำร้ายและบังคับให้ไปร้องเพลงเปิดหมวกขอทาน โดยเวลาออกไปร้องเพลงเปิดหมวก ภรรยาจะไปคอยเฝ้าอยู่ห่างๆ คอยเก็บเงินที่มีคนใจบุญบริจาคให้

เมื่อกลับห้องพัก ภรรยาจะแบ่งเงินให้ครึ่งหนึ่ง เวลาภรรยาจะออกไปไหนข้างนอก ก็จะเอาขาเทียมของตนไปด้วย และขังตนไว้ไม่ให้หนีไปไหน ถ้าวันไหนได้เงินบริจาคไม่เยอะ ก็จะถูกภรรยาทุบตี และเคยพาชายอื่นมาทำร้ายตนด้วย ตนต้องทนใช้ชีวิตแบบนี้มานานถึง 3 ปี จนรับสภาพไม่ไหวอยากฆ่าตัวตาย

นายจักรพงศ์ขอร้องเจ้าหน้าที่กู้ภัย ว่าไม่อยากกลับไปอยู่กับภรรยาอีกแล้ว อยากกลับไปบ้านเกิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็พาไปส่ง เมื่อไปถึง ก็พบว่า ที่บ้านถูกตัดไฟ เพราะไม่ได้จ่ายค่าไฟมาหลายเดือน เนื่องจากที่บ้านมีฐานะยากจน ทันทีที่นายจักรพงศ์ได้พบพ่อที่นอนป่วยติดเตียง ก็รีบเข้าไปกราบพ่อทันที และบอกว่าอยากขอให้ภรรยาเซ็นใบหย่า เพราะอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ ดูแลพ่อที่ป่วย โดยจะร้องเพลงเปิดหมวก เพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัวที่มีพ่อกับพี่สาว

ทีมข่าวลงพื้นที่ย่านสะพานพระราม 4 พบกับชาวบ้านในละแวกดังกล่าว ต่างยืนยันว่า พบเห็นนายจักรพงศ์ มาตระเวนร้องเพลงแลกเงินอยู่ในละแวกนี้ และมักถูกภรรยาทำร้ายร่างกาย บางครั้งถูกจิกหัวและด่าทอต่อหน้าคนจำนวนมาก

ส่วนชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียงหอพักเดียวที่นายจักรพงศ์อาศัยอยู่กับภรรยา ก็บอกว่า เคยได้ยินเวลาทั้งสองคนมีปากเสียงกันหลายครั้ง แต่ยังไม่ถึงขั้นทุบตี และไม่ทราบเรื่องที่ภรรยาเอาชายอื่นเข้ามาทำร้ายสามี

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/yuH2nX19a2c