สังคม

สาวรับงานเอ็น โดนชายโฉด 7 คนรุมโทรม เครียดจนป่วยซึมเศร้า ตร.แจงคืบหน้าคดี

โดย thichaphat_d

11 เม.ย. 2565

348 views

วานนี้ (10 เม.ย. 65) จากกรณีผู้ใช้ Facebook สาวรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความ “เราโดนรุมโทรม 7 คนวนๆ มีคนในห้องนั้น 10 กว่าคน คนนึงขึ้นค่อมปากล็อคแขน เอาไอ้นั่นอุดปากจนเราแทบขาดอากาศ ที่เหลือจับแขนมีคนส่องไฟมีคนถ่าย VDO มีทั้งใหญ่ มีทั้งฝังมุก มีคนเมายาไม่เสร็จทำซ้ำๆ พอแล้วนะโลกใบนี้ พอแล้ว” โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์กันในโลกโซเชียล กว่า 1,000 แชร์ มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก


ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ติดต่อนางสาวพร (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี เจ้าของโพสต์ มีอาชีพเป็นพริตตี้ MC พิธีกร งานอีเว้นท์ ในพื้นที่ภาคอีสานได้เปิดใจถึงเรื่องราวที่โพสต์ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมา ในกลุ่มไลน์ของ staff รับจัดงาน Event มีการลงงานในกลุ่มต้องการสาวเอนเตอร์เทน ใส่ชุดบิกินี่ จำนวน 2 คน เพื่อไปเสิร์ฟเครื่องดื่มในงานวันเกิด ให้ค่าแรงจำนวน 3,500 บาท หักค่านายหน้า 300 บาท ตนจึงส่งโปรไฟล์ลงในกลุ่มเพื่อตอบรับงานและตกลง Confirm งานในวันที่ 20 มีนาคม


นางสาวพรเล่าว่า ที่นัดหมายเป็นร้านอาหาร มีการเตรียมงานวันเกิดเอาไว้แล้ว โดยภายในร้านมีคนจำนวนมากซึ่งตนเองรู้สึกตกใจเพราะเป็นงานใหญ่ แต่ก็ไม่คิดอะไรมาก เพราะภายในงานมีผู้หญิงอยู่หลายคน


ตนจึงได้เปลี่ยนชุดเป็นชุดบิกินี่ตามที่เจ้าของงานว่าจ้าง ระหว่างที่ทำการชงเหล้า พิธีกรภายในงานได้เรียกให้ตนขึ้นไปเต้นบนเวที แต่ตนได้ปฏิเสธให้เหตุผลว่าตนมารับแค่ชงเหล้า ไม่ได้รับงานโคโยตี้ คนที่มาร่วมงานจึงได้ส่งแก้วเหล้าให้ตน 1 แก้ว เป็นเหล้าเพียวในแก้วทรงสูง ดื่มหมดถึงจะลงได้  เมื่อตนดื่มหมดแก้ว ก็ลงจากเวทีไปชงเหล้า ต่อมารู้สึกมีอาการเวียนหัวยืนไม่ไหว มีผู้ชาย 2 คน มาพยุงให้ตนไปนอนพักในห้องข้างหลังเวที


เมื่อเข้าไป ตนเห็นมีผู้ชายนอนพักอยู่แล้ว 1 คน จากนั้นชายที่พยุงตนเข้ามานอนได้เดินเข้ามากับเพื่อนอีก 1 คน ก่อนจะปิดไฟ และทำการข่มขืน ทั้งทางปากและด้านล่างจนสำเร็จความใคร่ ตนได้พยายามขัดขืนแต่ไม่สามารถขัดขืนได้ต่อมา พิธีกรในงานประกาศตามหาตน หากไม่ออกไปก็จะไม่ได้ค่าจ้าง ชาย 2 คน จึงได้ปล่อยตัวออกมาข้างนอก


ในขณะนั้น ตนเองรู้สึกเมาอย่างหนักทำอะไรไม่ถูก ประกอบกับป่วยซึมเศร้าทำให้ตอนนั้นกลัว และทำอะไรไม่ถูก แต่ฝืนพยายามทำหน้าที่ต่อให้จบ แต่ก็ยังถูกให้ดื่มเหล้าอีก 1 แก้ว เป็นครั้งที่ 2 เมื่อตนเองขัดขืนไม่ได้จึงต้องดื่มเข้าไปอีก 1 แก้ว


จากนั้น มีนายเก่งเข้ามาพยุงไปนอนในห้องเดิม และถูกข่มขืนอีกเป็นครั้งที่ 2 โดยครั้งนี้มีผู้ชายผลัดเปลี่ยนเข้ามาข่มขืนถ่ายวิดีโอ รวมแล้ว 7 คน จนถึงเวลา 4:22 น เพลงอยู่ในร้านปิดเงียบสนิท ทุกคนกลับออกไป เหลือเพียงนายเก่งคนเดียว ที่พยายามจะขอมีอะไรกับตนต่อ แต่ไม่สำเร็จเพราะนายเก่งอ้างว่าเพิ่งเสพยาทำให้สำเร็จยาก


หลังจากที่ตนออกมาได้จึงได้ติดต่อนางสาวบาส ที่เป็นผู้ประสานงานแจ้งว่าตนเองถูกรุมโทรมถึง 7 คน และยังไม่ได้ค่าจ้างตามที่ตกลงไว้ นางสาวบาสจึงได้ประสานงานติดต่อคนในร้านให้โอนค่าจ้างจำนวน 3,500 บาท มาให้ช่วงเช้าของวันที่ 21 มีนาคม ซึ่งในวันเดียวกันที่ตนตัดสินใจจะฆ่าตัวตายเพราะรับไม่ได้จากการที่ถูกกระทำดังกล่าว ก่อนตัดสินใจจะจบชีวิต ตนได้โพสต์ข้อความใน Facebook ส่วนตัวไว้ว่าถูกชาย 7 คน รุมโทรม ถ้าหากตนตายไปทุกคนจะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตน


นางสาวพรยังเล่าอีกว่า หลังจากที่โพสต์ข้อความดังกล่าวออกไป มีผู้หญิงโทรเข้ามาติดต่อขอให้ลบโพสต์ดังกล่าว และรับปากว่าจะติดตามบุคคลทั้ง 7 คน มาดำเนินการให้จากนั้นผ่านไปจนถึงวันที่ 30 มีนาคม ประจําเดือนของตนไม่มา จึงได้ไปซื้อชุดตรวจครรภ์มาตรวจพบว่าขึ้น 2 ขีด ด้วยความตกใจและกังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้นจึงได้เข้าแจ้งความในวันที่ 30 มีนาคม 2565


ตอนนี้ตนเองรู้สึกกังวลใจกับเรื่องของคดี อยากให้ทางมูลนิธิปวีณาเข้ามาช่วยดูเรื่องของคดี เพราะ เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะผู้ก่อเหตุมีจำนวนหลายคน และเวลาผ่านมานาน หลักฐานเริ่มที่จะหายไป


ด้านคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจชี้แจงว่า ได้รับคำร้องทุกข์ของนางสาวพรไว้แล้วตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา แต่ด้วยเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่มี่ความละเอียดอ่อน และน่าอับอาย จึงได้ประสานให้พนักงานสอบสวนหญิงเป็นผู้ที่ทำการสอบสวนดำเนินคดี ไม่มีการปัดหรือปฏิเสธไม่รับคดีแต่อย่างใด


ในส่วนความคืบหน้าคดี ทางพนักงานสอบสวนได้ส่งตัวนางสาวพร ไปตรวจร่างกายแล้ว ไม่พบการตั้งครรภ์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอผลการตรวจร่างกายจากแพทย์ พร้อมทั้งเรียกเจ้าของร้านที่ถูกอ้างว่าเป็นจุดเกิดเหตุเข้ามาให้การเรียบร้อยแล้ว ส่วนผู้ชาย 7 คนที่ถูกกล่าวอ้างว่ารุมข่มขืน นางสาวพร ตอนนี้พอทราบตัวแล้วว่าเป็นใคร อยู่ระหว่างการติดตามตัวเข้ามาให้การกับพนักงานสอบสวนในข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น


ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าจากการตรวจสอบใน Facebook ส่วนตัวของนางสาวพร พบว่ามีการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายจำนวนหลายโพสต์ ตั้งแต่หลังจากที่เกิดเหตุขึ้น ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่านางสาวพร มีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า จะต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และต้องทานยาคลายเครียดอย่างต่อเนื่อง


คืบหน้าล่าสุด พันตำรวจเอก มารุต เรืองจินตนา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี รักษาการ ผกก.สภ.เมืองอุบลราชธานี  ระบุว่า กรณีสาวเอ็น ถูกรุมโทรมนั้น ยังไม่ได้ดูสำนวน ซึ่งได้สั่งให้พนักงานสอบสวน สอบปากคำอย่างละเอียด ทั้งหญิงผู้เสียหาย และชาย 7 คน ที่อยู่ในงาน


จากข้อมูลการว่าจ้างมาเอ็นเตอร์เทนในงานเป็นการเต็มใจ แต่จะมีเหตุอะไรต่อจากนี้ ยังไม่เป็นที่สรุป พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างสอบปากคำ โดยฝ่ายหญิง ยืนยันเล่าเหตุการณ์ และรายละเอียดบุคคลที่ก่อเหตุได้อย่างละเอียด ชัดเจน และเรียงลำดับเหตุการณ์


ส่วนฝ่ายชายที่ถูกกล่าวหา ก็ให้การว่า มีหลักฐานยืนยันว่า ไม่ได้ก่อเหตุ ตามคำให้การของฝ่ายหญิง ซึ่งจะนำข้อมูลรายละเอียดมาให้ตำรวจ ยืนยันว่าข้อมูลที่ฝ่ายหญิงออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก ไม่เป็นความจริง


ทั้งนี้ตำรวจก็ยังไม่ปักใจเชื่อ รอตรวจสอบอย่างละเอียด และตรวจหลักฐานต่างๆ ให้รอบคอบ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย


ล่าสุดนายกฤตภัค โพธิ์ทา อายุ 38 ปี ผู้จัดการร้านที่เกิดเหตุเปิดเผยว่า ตนเองไม่ได้อยู่ร้านคืนที่เกิดเหตุ และร้านก็ไม่ได้เปิดให้บริการตั้งแต่มีโควิดปีที่แล้ว วันเกิดเหตุ ร้านได้รับการติดต่อจากพี่ชายที่รู้จักกัน ขอใช้สถานที่จัดงานวันเกิด ทางร้านได้แจ้งว่าสามารถให้ยืมสถานที่จัดงานวันเกิดได้ แต่ต้องหาอาหารเครื่องดื่มมาเอง เพราะที่ร้านไม่ได้เปิดให้บริการมานาน ไม่มีของตุนไว้ หลังจากนั้นก็ไม่ทราบว่ามีอะไรเกิดขึ้นจนมาเห็นโพสต์ดังกล่าว


นายกฤตภัค ยังเล่าอีกว่า ตนเองและหุ้นส่วนของร้านทุกคนไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น เพราะไม่อยู่ร้าน เจ้าของงานวันเกิดก็เดินทางกลับก่อนที่งานจะเลิก จึงไม่มีส่วนรู้เห็นเหตุการณ์ข้างต้น แต่เมื่อมีโพสต์ดังกล่าวในโซเชียล ตนได้พยายามสอบถามข้อเท็จจริงจากคนที่อยู่ภายในงาน


ทราบว่าคืนเกิดเหตุได้มีนางสาวพร มาชงเหล้าจริง และมีเพศสัมพันธ์กับคนที่มาร่วมงานจริง แต่ไม่ได้เป็นการข่มขืนรุมโทรม เป็นความชอบพอของทั้งสองฝ่ายมากกว่า ส่วนในการมีเพศสัมพันธ์คืนนั้นจะมีกี่คนตนไม่ทราบต้องสอบถามกันเอง ทราบเพียงว่าทั้งสองฝ่ายมีการนำหลักฐานทั้งภาพถ่ายและคลิปวีดีโอ เข้าให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว


ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะนี้ทางพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี ได้เข้าไปดูแลเรื่องสุขภาพจิตแล้ว และกำลังประสานงานกับทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนเรื่องของทางคดีให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/_uHZmJymqAE

คุณอาจสนใจ

Related News