สังคม

รวบ ‘หมอเถื่อน’ เสริมความงาม จบ ปวส. เรียนรู้จากแฟนที่เป็นหมอ พบ 8 ดาราตกเป็นเหยื่อ

โดย thichaphat_d

8 เม.ย. 2565

283 views

วานนี้ (7 เม.ย. 65) กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือสบส. สนธิกำลังตำรวจกองปราบ บุกรวบ ‘หมอเถื่อน’ แอบอ้างเป็นแพทย์เกียรตินิยม ลักลอบให้บริการเสริมความงามในคลินิกย่านศรีวรา สั่งฟันโทษทั้งตัวหมอ พร้อมสั่งปิดคลินิก 30 วันทันที

นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ตามที่กรม สบส.ได้รับการประสานจากกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ว่า

พบเบาะแสบุคคลแอบอ้างเป็นแพทย์ มาให้บริการเสริมความงาม เช่น การฉีดฟิลเลอร์ หรือโบท็อกซ์ ในคลินิกแห่งหนึ่งย่านศรีวรา แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นการสุ่มเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ถึงขั้นพิการ หรือเสียชีวิตได้

นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรม สบส. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นพบการโฆษณาถึงแพทย์ผู้ให้บริการ ชื่อ นพ.ธนากร (ขอสงวนนามสกุล) จึงตรวจสอบข้อมูลไปยังแพทยสภาว่า บุคคลดังกล่าวเป็นแพทย์ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่งได้รับข้อมูลกลับมาว่า ไม่มีรายชื่อของนพ.ธนากร แต่อย่างใด

สบส.จึงตั้งข้อสันนิษฐานในเบื้องต้นว่า บุคคลดังกล่าวนั้นเป็น ‘หมอเถื่อน’ พนักงานเจ้าหน้าที่ฯ จึงสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่ตรวจสอบคลินิกดังกล่าว พบนายธนากรฯ กำลังให้บริการรักษาประชาชนอยู่ภายในคลินิก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าควบคุมตัว และสอบถามข้อเท็จจริง

นายธนากร ให้การยอมรับว่า ไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม จบชั้น ปวส. แต่เนื่องจากมีนิสัยรักสวยรักงาม และได้แฟนเป็นแพทย์ผิวหนัง จึงเกิดการเรียนรู้ จากนั้นจึงทำงานเป็นเอเจนซี่จัดหาผู้ที่ต้องการเข้ารับบริการเสริมความงามไปตามคลีนิคต่างๆ

ก่อนจะเข้าไปทำงานในคลินิกในเวลาต่อมา และมีการไปลงเรียนคอร์สเสริมความงามหลากหลายคอร์ส มีการไปดูงานที่ต่างประเทศ สร้างโปรไฟล์ให้คนหลงเชื่อว่าเป็นแพทย์ ปลอมวุฒิการศึกษาแพทย์ที่จบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังในประเทศอังกฤษ พร้อมผลการเรียน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและไปสมัครทำงานที่คลินิกดังกล่าว

โดยจากประวัติการรักษาพบว่ามีการรักษาให้กับประชาชนไปแล้วหลายร้อยราย ในช่วง 1 ปี ในจำนวนนี้มีดาราชื่อดังซึ่งหากพูดชื่อไปทุกคนก็จะรู้จักอยู่ 8 คน โดยหลังการรักษาหากพบว่ามีผลข้างเคียง ก็จะให้หมอจริงที่อยู่ในคลินิกเป็นคนแก้ไข จึงยังไม่มีใครที่เกิดผลข้างเคียงรุนแรง

ทั้งนี้ถูกตั้งข้อหาเบื้องต้น 3 ข้อหา ได้แก่

1. นำเข้าข้อมูลที่บิดเบือน หรือปลอมสู่ระบบคอมพิวเตอร์ หรือนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยก่อให้เกิดความเสียหายกับประชาชน

2. ใช้คำว่าแพทย์ นายแพทย์ ประกอบกับชื่อนามสกุลของตน เพื่อก่อให้เกิดความเข้าใจผิดว่าตนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม

3. ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาต (หมอเถื่อน)

นอกจากนี้ ในส่วนของคลินิกที่รับหมอเถื่อนรายนี้มาให้บริการ กรม สบส. ก็ได้มีคำสั่งทางปกครองให้ปิดสถานพยาบาลเป็นการชั่วคราว 30 วัน เพื่อปรับปรุงมาตรฐาน ให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด พร้อมแจ้งข้อหาการกระทำผิดกฎหมายพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 กับแพทย์ผู้ดำเนินการประจำคลินิก ในฐานปล่อยปละละเลยให้บุคคลอื่นที่มิใช่แพทย์มาให้บริการในสถานพยาบาล

อีกทั้ง จะมีการขยายผลตรวจสอบถึงโฆษณาของคลินิกว่ามีการขออนุมัติ หรือมีเนื้อหาที่เป็นเท็จ หรือโอ้อวดเกินจริงหรือไม่ หากพบการกระทำผิดก็จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นพ.ภานุวัฒน์ กล่าวต่อว่า กรม สบส. ขอเน้นย้ำให้สถานพยาบาลเอกชนทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็น รพ.เอกชน หรือคลินิก ต้องเข้มงวดในการคัดกรองบุคลากรที่จะมาให้บริการ ในกรณีที่พบว่าสถานพยาบาลมีการให้บุคคลที่มิใช่ผู้ประกอบวิชาชีพมาให้บริการในสถานพยาบาล นอกจากจะมีบทลงโทษกับตัวผู้กระทำผิดแล้ว ผู้ดำเนินการสถานพยาบาลเองก็จะต้องถูกลงโทษตามกฎหมายด้วย

จะมาอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ เพราะบริการทุกประเภทของสถานพยาบาลนั้น ย่อมเกี่ยวพันกับสุขภาพ และชีวิตของผู้รับบริการ จึงต้องตระหนักถึงความสำคัญของคุณภาพ ซึ่งขณะที่มีรายงานจากกองบังคับการกองปราบปรามว่า มีดาราตกเป็นเหยื่อของ ‘หมอเถื่อน’ รายนี้มาแล้วเบื้องต้น 8 คน



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/qiojJyqSUXE

คุณอาจสนใจ

Related News