ทลายแก๊งนายหน้าคนจีน หลอกคนไทยสมัครงาน 'คอลเซนเตอร์' เปิด รร.เทรนงาน ก่อนพาข้ามแดน

วานนี้ (29 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง สนธิกำลังเข้าตรวจค้นโรงแรมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก หลังสืบทราบพบว่ามีขบวนการนายหน้าชาวจีน พากลุ่มคนไทยหนึ่ง มาพักสถานที่ดังกล่าว เปิดห้องพัก 2 ห้อง  แต่ละคนมีการเตรียมกระเป๋าหรือถุงใส่เสื้อผ้า ยารักษาโรค ของใช้ส่วนตัว เตรียมลักลอบข้ามแดนริมแม่น้ำเมย อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์-พนันออนไลน์ ในประเทศเมียนมาร์

โดยเจ้าหน้าที่ได้บุกเข้าไปตรวจสอบภายในห้องพัก พบชาวจีน 2 คน และช่วยเหลือคนไทยอีก  7 คน  คนไทยกลุ่มนี้กำลังจะถูกทยอยส่งข้ามแดนไปประเทศเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่ แจ้งกลุ่มคนที่อยู่ในห้องว่า ได้ติดตามสืบสวนพฤติกรรมขบวนการนี้มานานแล้ว เจ้าหน้าที่พยายามสอบถามชายชาวไทยคนหนึ่งว่า “คนที่จะลักลอบเข้าแดนอีกส่วนหนึ่งที่เดินทางไปแล้วอยู่ที่ไหน” ชายคนดังกล่าวระบุว่า “น่าจะข้ามฝั่งเพื่อข้ามไปทำงานยังประเทศเมียนมาร์” แต่ไม่ตอบบอกว่าไปทำงานอะไร  

เจ้าหน้าที่สอบถามต่อว่าเป็นคนคอยประสานกลุ่มคนจีนและกลุ่มคนไทยหรือไม่ ชายคนนี้อ้างว่าตนเองเป็นเพียงล่ามคอยสื่อสารกับขบวนการนายหน้าชาวจีน ยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ แต่ไม่ทราบว่ามีการขอข้ามแดนอย่างถูกต้องหรือไม่ เจ้าหน้าที่พยายามขอข้อมูล แต่ชายคนดังกล่าวบอก “ขอโทรศัพท์หาเจ้านายก่อนได้มั้ย ผมไม่รู้จะพูดอะไร”

จากนั้นเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง ได้คัดแยกค้นกระเป๋าตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ และแยกตัวล่ามชาวไทยออกจากห้องมาสอบถามข้อมูลแจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้น นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้ให้ล่ามซึ่งเป็นคนไทยสอบถามนายหน้าชาวจีน เรียกกันว่า “บอส” ถามว่า “พาคนไทยมาที่นี่เพื่อจะพาไปทำงานถูกต้องมั้ย” นายหน้าชาวจีนบอกว่า “ยังไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแค่จะพาคนไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้น”

เจ้าหน้าที่แจ้งกับนายหน้าชาวจีน ว่าได้ทำการสืบสวน พบว่านายหน้าชาวจีนคนนี้มีพฤติการณ์กระทำความผิดเป็นตัวแทนนายจ้างในต่างประเทศ รับสมัครงานคนไทยไปทำงานในต่างประเทศผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานรวบรวมไว้ทั้งหมดแล้วและได้ติดตามสืบสวนเคสนี้มานานกว่า 1 เดือน โดยนายหน้าชาวจีน คนดังกล่าวพูดย้ำว่า “ตอนนี้ตนเองยังไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้าสิ่งที่จะทำมีปัญหาก็จะไม่ทำแล้ว”

เจ้าหน้าที่ฯ แจ้งต่อว่า สิ่งที่นายหน้าชาวจีนคนดังกล่าวกระทำอยู่นั้นผิดกฎหมายไทย เจ้าตัวอ้างว่า “ไม่รู้กฎหมายไทย” ทั้งนี้ชายชาวจีนพยายามจะโทรศัพท์หาเจ้านาย และจะให้ความร่วมมือกับทางการไทยอย่างเต็มที่ แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้โทร และอ้างว่าออฟฟิศเขาอยู่ในต่างประเทศถูกกฎหมาย และขอโทษอ้างว่า “ไม่ทราบว่าการหาคนไปทำงานจะผิดกฎหมาย”

เจ้าหน้าที่ ระบุว่า นายหน้าชาวจีนทำผิดกฎหมายแน่นอนและเขารู้ว่าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ไม่งั้นไม่อยู่หลบๆ ซ่อนๆ จากการตรวจค้นยังพบสมุดจนบันทึกเป็นภาษาไต้หวัน ซึ่งล่ามอ่านไม่ออกไม่รู้ว่าเขียนอะไร ใบสมัครงานของคนไทยรวมประมาณ 20 ราย ระบุประวัติข้อมูลส่วนตัว ที่อยู่ที่เช่าให้คนไทยพักและระบุชื่อคนเช่าด้วย แต่พบคนไทยอยู่ที่โรงแรมฯ ประมาณเกือบ 10 คน

นอกจากนี้และยังพบหนังสือเดินทาง เงินสดจำนวนหนึ่ง ใส่ไว้ในถุงผ้าสีแดง สำหรับพาคนไทยข้ามแดนไปใช้ชีวิตอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่ยึดเป็นของกลาง บันทึกไว้เป็นหลักฐานนำเข้าสำนวน ขณะที่ล่ามให้ข้อมูลว่า คนไทยที่สมัครไปทำงานบางส่วนยังไม่มานั้น มาเดินทางมาเป็นรอบ ๆ ให้มาเจอกันตามที่นัดหมาย และให้มาพักอยู่ที่โรงแรมในพื้นที่อำเภอแม่สอด ก่อนจะแอบลักลอบพาข้ามแดนไปยังประเทศเมียนมาร์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่ทำการตรวจค้น หญิงคนไทยซึ่งอยู่ในห้องพักของโรงแรมได้โทรคุยกับเพื่อนชาวไทยคนหนึ่งกำลังเตรียมข้ามแดนริมแม่น้ำเมย ฝั่งอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยเจ้าหน้าที่ได้คุยบอกอย่าข้ามและจะให้ความช่วยเหลือ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมนายหน้าชาวจีนไว้แล้ว พร้อมขอให้ออกมาแสดงตัว ยืนยันไม่ได้จับกุมแต่จะช่วยเหลือ หากหลงข้ามไปจะช่วยลำบาก

จากนั้นหญิงชาวไทยที่นั่งอยู่ในห้องพักของโรงแรม ได้โฟนคุยกับเพื่อนเพื่อยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้จับ มาช่วยเพื่อไม่ให้เราข้ามแดน พร้อมขอพิกัดเพื่อให้เจ้าหน้าที่ไปรับตัว โดยหญิงที่อยู่ปลายสายแจ้งกับปลัดอำเภอแม่สอดว่า ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน โดยอยู่ในบ้านหลังหนึ่งทั้งชายหญิงรวม 4 คน จากนั้นได้นัดเจอกันริมแม่น้ำเมย เธอบอกให้เจ้าหน้าที่รีบไป เพราะเขากำลังเรียกเรือมารับ ส่วนคนไทยอีกกลุ่มที่กำลังจะข้ามแดนไม่รู้อยู่ไหน เพราะแยกกันอยู่เป็นกลุ่ม ๆ  มีบางคนข้ามแดนไปแล้ว

จากนั้นเจ้าหน้าที่ฯ รีบเดินทางไปยังพิกัดบริเวณหลังตลาดริมเมย เพื่อช่วยชาวไทยที่ถูกหลอก ซึ่งข้ามฝั่งไทยไปแล้ว เธอพยายามถ่ายรูปสถานที่อยู่และแชร์โลเคชั่นให้กับเจ้าหน้าที่ ให้เจ้าหน้าที่เดินเลียบแม่น้ำไปผ่านป้อมทหารจะเจอหมู่บ้าน จะได้ยินเสียงเปิดเพลงดัง ตนเองออกจากบ้านไม่ได้เพราะเขาขังไว้ในบ้าน คล้องโซ่ประตูด้านนอกไว้

ขณะที่ผู้ชายชาวไทยอีกราย ที่ข้ามฝั่งเมียนมาร์ไปแล้ว แจ้งว่าบ้านหลังดังกล่าวอยู่ติดริมแม่น้ำเมย บ้านหลังที่อยู่มีสแลนปิดคลุมหน้าบ้านไว้ ข้างบ้านหลังคาสีน้ำเงินแดง มีเด็กเล่นหน้าบ้าน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้วางแผนประสานหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อหาแนวทางข้ามไปช่วยเหลือรับตัวคนไทยกลับมาฝั่งไทย เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่พรมแดนไทยกับเมียนมาร์ เป็นเขตพิพาท มีแม่น้ำเมยกั้น  จะข้ามไปโดยพลการไม่ได้ อีกทั้งจุดตรงนี้ขึงลวดหนามหีบเพลงกั้นพื้นที่ไว้

จากนั้นเจ้าหน้าที่ฝั่งเมียนมาร์ ก็ได้เข้าไปช่วยเหลือคนไทยที่ถูกขังอยู่บ้านในหมู่บ้านเกาะกลาง ซึ่งเป็นเขต No man land กลางแม่น้ำเมย ชายแดนไทย - เมียนมา  ก่อนจะช่วยข้ามกลับมาฝั่งไทยได้สำเร็จ หนึ่งในกลุ่ม ระบุว่า คนที่พาข้ามไปเป็นคนในพื้นที่ ตนเองไม่รู้จัก หลังจากที่ตนนั่งเครื่องมาลงสนามบินแม่สอด มีหญิงสูงวัย (ไม่แน่ใจเป็นคนไทยหรือไม่) ขับรถยนต์มารับ พามาลงใกล้กับตลาดริมเมย ก่อนที่คนในพื้นที่จะพาข้ามแดนไปฝั่งเมียนมาร์ ให้ไปอยู่ในบ้านหลังหนึ่งขังไว้ในบ้าน

ขบวนการนี้จะประกาศรับสมัครงานในโซเชียล มีค่าตอบแทนสูง 2 หมื่นบาท/เดือน ทำให้คนไทยสนใจหลงเชื่อสมัครงาน โดยไม่รู้เลยว่าเมื่อสมัครไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้านแล้ว จะกลับไทยได้อีกหรือไม่  เมื่อเขียนใบสมัครแล้ว นายหน้าชาวจีน ที่เรียกกันว่า “บอส” จะเลือกทั้งหมดเพื่อพาไปทำงาน  

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ติดตามมาตั้งแต่กรุงเทพฯ จนมาถึงสนามบินแม่สอดในเช้าวันที่ 28 มีนาคม 2565  และแยกย้ายนั่งรถแท็กซี่เข้าที่พักโรงแรมแห่งหนึ่งในอำเภอแม่สอด เพื่อเตรียมเดินทางข้ามแดนในวันที่ 29 มีนาคม 2565 ซึ่ง “บอส” บอกให้กลุ่มเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมก่อนเที่ยงของวันที่ 29 มีนาคม 2565 แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตรวจค้นจับกุมเสียก่อน

ระหว่างที่มีการเก็บตัวหรือเทรนงานอยู่โรงแรมฯ “บอส” จะให้เงินใช้จ่ายจำนวนหนึ่งทุกวันเหมือนเป็นการเลี้ยงดูความเป็นอยู่ โดยให้เซ็นชื่อรับเงิน ทำให้คนไทยที่สมัครงานเข้ามาไว้วางใจ “บอส” ระหว่างเก็บตัวตรงกับวันเกิดใคร “บอส” ก็จะจัดงานวันเกิดให้ พาไปทานอาหารดี ๆ และพาไปเที่ยว บางคนที่ถูกหลอกข้ามแดนไปไม่รู้ตนเองต้องทำงานนานแค่ไหน จะกลับข้ามกลับมาได้อีกหรือไม่ รู้เพียงว่าจะไปทำงานยังประเทศในเพื่อนบ้าน หาเงินเลี้ยงครอบครัวไว้ใช้จ่าย

การจับกุมสืบเนื่องจาก ศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย ได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ประกาศรับสมัครงานเป็นแอดมินเพจ ให้เงินเดือนสูง และมีค่าคอมมิชชั่นตามผลงาน  เป็นการหลอกลวงคนหางาน ด้วยการเป็นธุระจัดหาคนเข้าสู่ขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์และพนันออนไลน์ หลอกลวงและสร้างความเดือดร้อนให้กับคนไทยทั้งประเทศในปัจจุบัน

หลังจากรับแจ้ง กรมการปกครอง ได้สืบสวนสอบสวนจนพบกลุ่มบุคคลซึ่งเป็นชาวจีน มีพฤติการณ์สมคบกับคนไทย เป็นนายหน้ารับสมัครคนหางานคนไทย ผ่านทางโซเชียล เพื่อส่งไปทำงานคอลเซ็นเตอร์และพนันออนไลน์ในประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้อพาร์ทเม้นท์ในย่านรัชดาเป็นสถานที่พักคอย ในการรวบรวมคนงานไทย เมื่อได้จำนวนคนงานไทยตามที่กำหนดแล้ว จะพาข้ามแดนส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้านทันที ด้วยวิธีการที่ผิดกฎหมาย หากคนงานไทยรายใดเดินทางข้ามแดนไปแล้วไม่สามารถทำงานได้หรือกลับก่อนกำหนด จะถูกบังคับให้เป็นหนี้จำนวนมาก

นอกจากนี้ พบว่ากลุ่มชาวต่างชาติดังกล่าว ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการจัดหางานในประเทศไทยแต่อย่างใด เมื่อทางเจ้าหน้าที่ สืบสวนแน่ชัดแล้วว่าจะมีการนำพาคนงานไทยออกเดินทางจาก กรุงเทพมหานคร ข้ามแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ในบริเวณพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก จึงร่วมกับพนักงานฝ่ายปกครอง อ.แม่สอด วางกำลังรอบพื้นที่เป้าหมายทันที

สำหรับชาวต่างชาติที่ถูกควบคุมตัว คือ นาย WANG, REN-SHENG  และนาย ZENG, BO-SHUN  ในความผิดฐาน “เป็นนายจ้างในต่างประเทศทำการรับสมัครลูกจ้างในประเทศไทยเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ โดยมิได้ติดต่อให้สำนักงานจัดหางานจัดหาให้” //และสามารถช่วยเหลือคนงานไทยได้ จำนวน  11 คน  โดยได้นำตัวคนงานไทยทั้งหมดไปสอบปากคำ ที่ว่าการอำเภอแม่สอด  ส่วนนายหน้าที่ถูกจับกุม ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด เพื่อดำเนินคดีและขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป

นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง เผยว่า เหยื่อเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้ ทำเป็นขบวนการ โดยคนจีนกลุ่มนี้เป็นนายทุนใหญ่ ระดับหุ้นส่วนบ่อนคาสิโน ในจังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ฝั่งเมียนมา มีนายหน้าชาวไทยคอยดูแลอย่างดีทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ได้นำตัวคนงานไทยทั้งหมด รวมถึงนายซุง หัวหน้า ไปสอบปากคำ ณ ที่ว่าการอำเภอแม่สอด  และจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน  สภ.แม่สอด เพื่อดำเนินคดี และขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/CrGaCVzl38k