ระทึก! กระบะขนแรงงานเถื่อน 35 ชีวิต ซิ่งแหกด่านคว่ำเจ็บระนาว คนขับลั่น "ผมเป็นคนดี ช่วยคนมีงานทำ"

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม สภ.สวี ได้รับแจ้งจากสายข่าวในพื้นที่ว่ามีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผ่านเส้นทางอำเภอสวี ในพื้นที่ตำบลทุ่งระยะ จังหวัดชุมพร

โดยในเดือนมีนาคม 2565 ได้มีการลักลอบแล้วประมาณ 3 - 4 ครั้ง และสายข่าวแจ้งว่าช่วงคืนวันที่ 19 ต่อเนื่องเช้าวันที่ 20 มี.ค. จะมีการขนแรงงานต่างด้าวอีก

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า มีแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา เข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมาย มาพักอาศัยอยู่บริเวณแนวป่าบนเขา ในซอยกรุงเทพ พื้นที่หมู่ที่ 7 ตำบลทุ่งระยะ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร จึงได้สนธิกำลังทำการดักซุ่มบริเวณริมถนนในซอยดังกล่าว

ก่อนพบรถคันที่ใช้ขนแรงงานต่างด้าว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น เมื่อคนขับรถคันดังกล่าว เห็นเจ้าหน้าที่ จึงได้เร่งเครื่องหลบหนี ทำให้รถเสียการทรงตัวพลิกคว่ำ

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเข้าทำการตรวจสอบรถคันดังกล่าว เป็นรถกระบะบรรทุก ยี่ห้อ อีซูซู สีบรอนซ์เงิน พบผู้โดยสารอยู่ในกระบะ โดยมีผ้าใบทึบสีดำปิดคลุมกระบะไว้โดยรอบ มีบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมา รวม 35 คน ได้รับบาดเจ็บหลายราย จึงประสานกู้ภัยเขาทะลุ ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนควบคุมตัวทั้งหมดมายังที่ว่าการอำเภอสวี

ตรวจสอบเบื้องต้นไม่มีหนังสือเดินทาง พบคนขับชื่อ นายฤทธิ์ธีเดช หรือแม็ก คงสงค์ อายุ 45 ปี ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวและได้รับตัวบุคคลต่างด้าวโดยสารมากับรถคันของตนจริง

โดยจะนำบุคคลต่างด้าวไปส่งยังอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา อ้างว่าทำมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อ 2 วันก่อน โดยขับรถกระบะมารับแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา ชายหญิงจำนวนหลายราย ณ ที่จุดเดียวกัน นำพาชาวเมียนมาทั้งหมดนั่งรถกระบะไปส่งที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ได้รับค่าจ้างเที่ยวละ 10,000 บาท

แต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสวี ซึ่งเป็นชุดจับกุมตัวได้ในครั้งนี้ไม่ปักใจเชื่อคำให้การของนายฤทธิ์ธีเดช คนขับรถ ซึ่งเป็นชาว จ.ระนอง เนื่องจากมีหลักฐานจากการพุดคุยผ่านข้อความทางโทรศัพท์มือถือและหลักฐานอื่นๆ

ผู้ต้องหา ยังสารภาพอีกว่า เมื่อ 5 ปีก่อนเคยถูกจับคดีขนชาวโรฮีนจา และถูกคุมขังในเรือนจำมากว่า 2 ปี เมื่อออกมาได้ประกอบอาชีพสุจริตโดยรับจ้างเลี้ยงกุ้ง แต่ถูกตำรวจจับในคดีมีอาวุธปืนปลอมสิ่งเทียม(ปืนอัดลม)

ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก 16 เดือน ซึ่งประกันตัวออกมายื่นอุทธรณ์สู้คดี แต่ด้วยประสบปัญหาการเงินรถกำลังจะโดนยึด จึงกลับมาขนแรงงานเถื่อนอีกจนถูกจับดังกล่าว โดยผู้ต้องหาลั่นว่า “ผมคนดีนะพี่ ต่อไปนี้แล้วแต่เวรแต่กรรม” ผมช่วยให้แรงงานพวกนี้มีงานทำเท่านั้นเอง

โดยชาวเมียนมาทั้งหมด 35 คน และคนไทยผู้นำพา 1 คน ได้ถูกเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อำเภอสวี ให้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 (ATK) แต่ปรากฏไม่พบเชื้อแม้แต่รายเดียว

เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา นายฤทธิ์ธีเดช ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม และทำการควบคุมตัวผู้ต้องหา ส่ง พนักงานสอบสวน สภ.สวี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/MV5haDCuRTQ