รวบครูพละหื่น ตีสนิทลูกศิษย์หลังแม่เด็กตาย ก่อนข่มขื่น-ถ่ายคลิปนาน 8 ปี ซ้ำพาทำแท้ง

พลตำรวจโทจิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เดินทางมาสอบปากคำ นายนิมิตร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ครูสอนวิชาพละศึกษาของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกำแพงเพชร ที่เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา หลังถูกจับกุมบริเวณใกล้เคียงกับสถานีขนส่ง จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อช่วงเช้าเมื่อวานนี้ 9 มี.ค. 65

สำหรับพฤติกรรมของครูพละรายนี้เริ่มต้น ตั้งแต่ช่วงปี 2557 ที่แม่ของผู้เสียหายเสียชีวิต และขณะนั้นผู้เสียหายอายุเพียง 14 ปี ผู้ต้องหาจึงมีการเข้าไปทำทีจะดูแล เลี้ยงดูและเริ่มมีการตีสนิท ก่อนจะให้ผู้เสียหายเรียกว่าพ่อ จนต่อมาเมื่อช่วงต้นปี 2558 จึงเริ่มมีพฤติกรรม ล่วงละเมิดทางเพศผู้เสียหาย ซึ่งในตอนแรกยังไม่มีการใช้กำลัง แต่เป็นการหลอกลวงว่า จะช่วยเหลือเลี้ยงดูในด้านต่างๆ ที่ผู้เสียหายต้องการ

จนต่อมาเมื่อผู้เสียหายโตขึ้น เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว มีการเดินทางมาหาป้าที่กรุงเทพ และตั้งใจว่าจะเข้ามาทำงานที่กรุงเทพ เมื่อผู้ต้องหาทราบ ก็เริ่มมีพฤติกรรมข่มขู่ และถ่ายคลิปขณะมีเพศสัมพันธ์เก็บไว้ พร้อมบอกผู้เสียหายว่า หากไม่ยอมอยู่ที่กำแพงเพชรต่อ จะนำคลิปที่ถ่ายไว้ไปเผยแพร่ให้ได้รับความอับอาย

และล่าสุด เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ผู้เสียหายพยายามจะตีตัวออกห่าง และจะย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพ ผู้ต้องหาจึงได้มีการข่มขู่และมีการใช้กำลัง ผู้เสียหายจึงหลบหนีมาอยู่กับป้า และเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ปคม. เมื่อช่วงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ภายหลังจากที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวได้มีการตรวจสอบ พบว่าในโทรศัพท์มือถือมีคลิปอนาจารของผู้เสียหาย อยู่ประมาณ 10 คลิป ส่วนในคอมพิวเตอร์มีคลิปอนาจารอื่น ซึ่งผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นคลิปที่มีคนอื่นส่งมาให้ ไม่ใช่เกิดจากการถ่ายของตนเอง เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบขยายผลเพิ่มเติมอีกครั้งว่า ผู้ต้องหาได้มีการก่อเหตุกับบุคคลอื่นอีกหรือไม่

จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้มีการข่มขืนผู้เสียหายจริง แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้มีการนำคลิปมาข่มขู่ผู้เสียหาย แต่เป็นการถ่ายคลิปเอาไว้ดูเพียงลำพัง ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ยังไม่พบว่ามีการนำคลิปอนาจารของผู้เสียหายออกไปเผยแพร่ให้กับผู้อื่นแต่อย่างใด

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ยังพบข้อมูลจากผู้เสียหายว่า ช่วงประมาณปลายปี 2562 ผู้เสียหายได้ถูกผู้ต้องหาข่มขืนจนเกิดการตั้งครรภ์ และผู้ต้องหาได้มีการพาไปทำแท้งที่คลินิกแห่งหนึ่ง ซึ่งทางตำรวจจะมีการตรวจสอบในประเด็นนี้เพิ่มเติมว่า มีการตั้งครรภ์จริงหรือไม่ รวมถึงคลินิกที่มีการทำแท้งเป็นคลินิกที่ถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ หากพบว่าเป็นคลินิกเถื่อน ก็จะดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

เบื้องต้น แจ้งข้อหาพรากผู้เยาว์เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากผู้ปกครอง เพื่อการอนาจาร,พรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากผู้ปกครองเพื่อการอนาจาร กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีซึ่งมิใช่ภรรยาของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โดยจะมีการคุมตัวเพื่อสอบปากคำ ก่อนจะทำหนังสือคัดค้านการประกันตัวท้ายคำร้องฝากขังที่จะมีการเดินทางนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังยังศาลอาญาในวันนี้ 10 มี.ค.

ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางยังฝากเตือนประชาชนอีกว่า เหตุการณ์ลักษณะแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในเฉพาะพื้นที่เปลี่ยวเพียงอย่างเดียว ซึ่งจากสถิติคดีย้อนหลัง พบว่าการข่มขืนเกิดขึ้นจากบุคคลใกล้ชิดเพราะมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด สามารถรู้และเข้าถึงตัวผู้เสียหายได้

จึงอยากขอเตือนประชาชนให้มีความระมัดระวัง คอยสังเกตความผิดปกติของบุคคลรอบข้าง และหากมีใครที่ตกเป็นเหยื่อถูกข่มขืน สามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์ได้ทุกสถานีตำรวจในพื้นที่ หรือจะเข้ามาแจ้งความที่ตำรวจ ปคม. ของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้เช่นกัน

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่โรงเรียนบ้านทรัพย์มะนาว ตำบลวังไทร อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ครูพละสอนอยู่ สอบถามเพื่อนครู เผยว่า เพิ่งทราบข่าวและรู้สึกตกใจมาก เนื่องจากลักษณะนิสัยโดยทั่วไปของครูพละคือ เป็นคนที่มุ่งมั่นตั้งใจในการสอน และเป็นที่รักของเด็กนักเรียน ที่ผ่านมาไม่เคยสังเกตเห็นพฤติกรรมในเชิงชู้สาวกับเด็กนักเรียนมาก่อน ประกอบกับครูพละอาศัยอยู่ภายในบ้านพักครูในโรงเรียน ส่วนตนเองเดินไปกลับ หลังเลิกเรียนจึงไม่ได้ทราบเรื่องราวเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียน

ด้านนางสาวนุชรินทร์ รอดน้อย ผู้อำนวยการโรงเรียน เปิดเผยว่า ได้ทราบข่าวที่เกิดขึ้นจากสื่อ ซึ่งเมื่อวานนี้ 9 มี.ค. ครูพละไม่ได้มาทำงาน และส่วนตัวยังไม่ได้มีการโทรศัพท์สอบถามกับเจ้าตัว เนื่องจากเพิ่งทราบเรื่องว่าครูพละท่านนี้โดนตำรวจจับ

ในฐานะผู้บังคับบัญชาเท่าที่เห็นพฤติกรรมของครูพละในเวลาทำงาน เป็นครูที่เอาใจใส่เด็กเป็นอย่างดี และเป็นที่รักของนักเรียนที่ชอบเล่นกีฬา โดยไม่ได้สังเกตพบความผิดปกติแต่อย่างใด ในส่วนของเรื่องส่วนตัว ทราบว่าครูพละเคยแต่งงานและหย่าไปแล้วก่อนหน้านี้หลายปี แต่เคยพบกับเด็กนักเรียนคนดังกล่าว ซึ่งตนก็ไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติแต่อย่างใด

ส่วนในเรื่องการกระทำความผิดที่เกิดขึ้น และมีการดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย ขณะนี้ยังไม่ได้รายงานให้ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งเป็นต้นสังกัดทราบ เนื่องจากเพิ่งทราบเรื่อง จำเป็นต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ซึ่งแนวทางหลังจากที่มีการรายงานเรื่องดังกล่าวไปยังต้นสังกัดแล้ว จะได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริง และจะได้มีการพิจารณาโทษทางวินัยต่อไป

จากการลงพื้นที่ พบนายบุญมา อายุ 71 ปี มีศักดิ์เป็นพี่ชายของตาของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า นางสาวเฟิร์น (นามสมมุติ) เป็นหลานสาวของตนเอง ที่ผ่านมาตั้งแต่สมัยที่หลานเรียนอยู่ ตนเองได้สังเกตเห็นความผิดปกติในพฤติกรรม และระแคะระคายพฤติกรรมของทั้งสองคนมาโดยตลอด เนื่องจากมีการมารับออกไปข้างนอกด้วยกันบ่อยๆ

จนกระทั่งมาทราบเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ในช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา โดยหลานสาวซึ่งไปช่วยป้าขายของที่กรุงเทพ ได้กลับมาที่บ้าน ครูพละคนดังกล่าวทราบจึงได้มาหาหลานสาว และเกิดการทะเลาะกันขึ้น เนื่องจากหลานสาวได้พาแฟนที่กำลังคบหากันกลับมาบ้านด้วย

ทางด้านนางมณี อายุ 63 ปี ยายของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนเองไม่ได้ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาก่อน ทราบเพียงแต่ว่าครูพละมักโทรมาหาหลานสาว แล้วตามให้ออกไปซ้อมกีฬาเสมอๆ เวลาครูพละแวะมาที่บ้านเพื่อรับหลานสาวออกไปข้างนอกก็จะจอดรถอยู่นอกรั้ว ไม่ได้เข้ามาในบ้านแต่อย่างใด เมื่อถามหลานสาวก็ตอบมาเพียงว่าไปเล่นกีฬา

จนมาทราบเรื่องราวทั้งหมดในช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา เนื่องจากหลานสาวกลับมาเยี่ยมบ้านแล้วพาแฟนหนุ่มกลับมาบ้านด้วย ครูพละน่าจะเกิดอาการหึงหวง จึงได้มาอาละวาดที่บ้าน จนทางบ้านทราบเรื่องดังกล่าว ซึ่งตนเองก็รู้สึกตกใจและเสียใจมาก จนกระทั่งเมื่อวานนี้ ทราบข่าวว่าครูพละคนดังกล่าวถูกตำรวจจับตัวแล้ว คนคิดว่าคนที่ทำความผิดก็ต้องรับผิดไป ส่วนตัวยังไม่ได้คุยกับหลานสาวถึงในรายละเอียดการจับกุมดังกล่าว

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ต่อสายโทรศัพท์หายน้องเฟิร์น เล่าว่า ตลอดระยะเวลาที่เกิดเหตุการณ์ล่วงละเมิดขึ้น ตนเองโดนข่มขู่จากครูพละมาโดยตลอด โดยข่มขู่ว่าหากตนเองต้องการจะออกมาจากชีวิตของครูพละ หรือหากมีคนอื่น จะนำคลิปวิดีโอที่ถ่ายไว้ในขณะมีอะไรกันให้คนอื่นดู จะส่งให้ครอบครัวและแฟนใหม่ดู

ซึ่งครูพละเคยทำแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่งตอนสมัยที่ตนเองเรียนอยู่ ปวช. ทำให้ตนไม่กล้าขัดขืน จนกระทั้งครั้งล่าสุดในช่วงตรุษจีน ครูพละได้ส่งคลิปมาให้ตน พร้อมข่มขู่ว่าจะเอาคลิปนี้ให้ป้าและแฟนใหม่ของตนดู ที่ผ่านมาเคยพยายามจะออกมาจากชีวิตครูพละคนนี้หลายครั้ง เคยขอร้องให้ปล่อยตนเองให้มาใช้ชีวิตอย่างปกติ แต่ก็ถูกปฏิเสธ

โดยส่วนตัวก่อนหน้านี้รักและเคารพครูพละคนนี้ในฐานะพ่อ เนื่องจากเข้ามาดูแลตน ตอนที่แม่ของตนเสียชีวิต และให้ตนเองเรียกว่าพ่อ จนกระทั่งเกิดการล่วงละเมิดขึ้นกับตนเอง แต่ตนเองไม่กล้าบอกคนในครอบครัว ไม่กล้าบอกใคร และยังเด็กมาก จึงอับอาย

ส่วนแฟนหนุ่มที่กำลังคบหาอยู่เข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และให้โอกาสได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ และหลังจากครูพละโดนจับ ตนเองก็มีความสบายใจมากขึ้น และหมดความกังวลที่จะโดนปล่อยคลิปแบล็คเมล และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ในส่วนของคดีไม่ได้มีความกังวลใดๆ


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/5LGGyFNwVp0