ขยายผลจับยาบ้า2ล้านเม็ดเครือข่ายแก๊งอาข่ามูลค่า100ล้าน

ที่ศูนย์ปฏิบัติการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ (ศป.บส.ชน.) ที่ 3 บ้านผาตั้ง ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย พล.ท.บุญยืน อินกว่าง แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการ ศป.บส.ชน. แถลงข่าวการจับกุมคดียาเสพติดรายใหญ่ โดยเป็นคดีเมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมาเมื่อ ศป.สืบทราบว่าขบวนการค้ายาเสพติดจะขนยาผ่านทางชายแดนไทย-เมียนมา ทาง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย และจะลักลอบขนส่งไปยังชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน อ.เชียงแสน เพื่อลักลอบขนเข้าสู่ชั้นในของประเทศต่อไป ที่จึงได้วางกำลังสกัดกั้นตามจุดต่างๆ



ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน สีบรอนด์ ติดหมายเลขทะเบียน กท–2748 เชียงราย ขับไปยังพื้นที่ อ.เชียงแสน โดยมีรถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบรยน 1 กพ 5645 เชียงราย ขับนำทางเข้าไปยังรีสอร์ทแห่งหนึ่งพื้นที่หมู่บ้านเวียงใต้ หมู่ 3 ต.เวียง อ.เชียงแสน เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบพบคนขับรถจักรยานยนต์และซ้อนท้ายกันไปรวม 2 คนคือนายฐิติพงศ์ ดอกไม้ อายุ 34 ปี และนายสมบัติ กระสานติ์ธารา อายุ 36 ปี ชาว จ.เชียงราย ส่วนคนขับรถยนต์ชื่อว่านายสมชาติ ดวงระรื่น อายุ 36 ชาว จ.เชียงใหม่ จากนั้นได้ขอตรวจสอบภายในรถพบที่เบาะด้านหลังรถพบกระสอบฟางจำนวน 11 ใบ ภายในมียาบ้าใบละ 200,000 เม็ด รวมของกลางทั้งหมด 2,200,000 เม็ด จึงจับกุมตัวทั้งหมดเอาไว้



เบื้องตนสืบทราบว่าขบวนการค้ายาเสพติดรายนี้มีผู้สั่งการอยู่ในต่างประเทศและใช้กลุ่มขนลำเลียงหลายชุดหลายการขนมาจากชายแดนได้ให้ผู้ต้องหาที่ถูกับกุมซึ่งเป็นชุดที่ 2 ขนไปพักที่ อ.เชียงแสน เพื่อเตรียมส่งมอบให้กลุ่มลำเลียงที่ 3 ต่อไปแต่มาถูกเจ้าหน้าที่สกัดได้เสียก่อน



พล.ท.บุญยืน กล่าวว่าขบวนการค้ายาเสพติดรายนี้มีฐานการผลิตอยู่รัฐฉานตอนใต้ของประเทศเพื่อนบ้านและนำเข้ามาทาง อ.แม่ฟ้าหลวง และมีเครือข่ายชาวอาข่าเป็นคนขนโดยขนลำเลียงด้วยกลุ่มลำเลียงชุดที่ 1 และไปหาชุดที่ 2 ที่ อ.เชียงแสน ดังกล่าว โดยผู้ขนเป็นผู้ที่เคยต้องคดียาเสพติดจำนวน 2 คนและพึ่งพ้นโทษจำคุกออกมาก็กลับมาก่อเหตุอีก และหลังจากจับกุมเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลไปตรวจสอบเป้าหมาย 4 เป้าในเขต จ.เชียงราย และ จ.เขียงใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการขยายผลรวมถึงการขยายผลไปถึงกลุ่มลำเลียงชุดที่ 3 ที่คาดว่าจะขนของกลางไปส่งต่อยังพื้นที่ภาคกลางต่อไป สำหรับยาเสพติดชุดนี้มีมูลค่าซื้อขายที่ชายแดนประมาณ 20 ล้านบาท แต่เมื่อสามารถขนไปถึงภาคกลางจะมีมูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท