ผู้ปกครองโร่พบครู หลังไม่ให้เด็กเข้าสอบ O-NET อ้างกลัวคะแนนตก

จากการณีเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2565 เพจเฟซบุ๊คหนึ่งได้โพสต์คลิปพร้อมข้อความว่า “เดินหนีทำไม อธิบายหน่อยคุณครู” โดยมีคลิปเหตุการณ์ขณะผู้ปกครองของเด็กนักเรียนของโรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลโนนตาล อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด ได้เข้าไปขอคำชี้แจงจากครูผู้สอน

ด้วยกรณีที่ผู้ปกครองเด็กอ้างว่า หลาน 2 คน ได้ไปบอกกับผู้ปกครองว่า คุณครูไม่ให้นักเรียนเข้าสอบ O-NET โดยเด็กอ้างว่า คุณครูบอกว่าเด็กเรียนไม่เก่ง ซึ่งหลานบอกกับผู้ปกครองว่าถูกเพื่อนล้อจนเด็กอาย จึงได้เล่าให้ผู้ปกครองฟัง

หลังจากนั้นทางผู้ปกครองจึงได้เดินทางเข้ามาพบคุณครูที่โรงเรียน เพื่อขอคำชี้แจงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่คุณครูก็ไม่ได้ชี้แจง ก่อนจะเดินออกไป ซึ่งทางผู้ปกครองที่ถ่ายคลิปเองก็บอกว่าจะไม่ให้เรื่องนี้จบง่าย ๆ จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด “เรื่องนี้ต้องถึงกระทรวง”

ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้เข้าไปพบกับผู้ปกครองผู้ถ่ายคลิปลงเพจเฟซบุ๊กดังกล่าว ที่บ้านพักในพื้นที่ตำบลโนนตาล อำเภอเมืองร้อยเอ็ด

จากการสอบถามผู้โพสต์คลิป ซึ่งเป็นน้าของเด็ก เล่าว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ที่ผ่านมา ตนมีหลาน 2 คน กำลังศึกษาอยู่โรงเรียนดังกล่าว โดยหลานมาบอกกับแม่ของเด็กว่า ทำไมหนูไม่ได้ไปสอบโอเน็ตกับเพื่อนในวันที่ 12 ก.พ. แม่ของเด็กจึงได้โทรไปถามคุณครูประจำชั้น ซึ่งคุณครูก็ตอบกลับมาว่า กลัวทำคะแนนเพื่อนตก

หลังจากนั้นก็ติดต่อคุณครูไม่ได้ จนถึงวันที่หลานทั้ง 2 จะต้องไปสอบ ตนจึงบอกกับหลานว่าให้แต่งชุดนักเรียน พรุ่งนี้ตนจะพาไปสอบ ซึ่งในช่วงเช้าของวันที่ 12 ก.พ. ตนก็พาหลานทั้งสองไปสอบ แต่เมื่อไปถึงโรงเรียนจึงได้ไปขอคำชี้แจงจากคุณครูประจำชั้น ว่าทำไมไม่ให้เด็กมาสอบ แต่ก็ไม่มีคำชี้แจ้งคุณครู บอกแต่เพียงว่าถ้าจะสอบต้องไปติดต่อสำนักงานเขตเอง หลังจากนั้นคุณครูก็เดินออกไป

ตนจึงเกิดความสงสัยว่า ทำไมในห้องเรียนมีเด็กแค่ 6 คน ทำไมถึงไม่ให้หลานของตน 2 คนเข้าสอบ คุณครูเอาเกณฑ์อะไรมาตัดสินว่าเด็กจะทำข้อสอบไม่ได้ หรือการวัดประเมินนี้จะมีผลต่อการอนุมัติงบประมาณของโรงเรียนหรือเปล่า ตนก็ได้แต่สงสัยเพราะคุณครูไม่ได้มีการชี้แจงด้วยเหตุและผลเลย

ซึ่งหลังจากนั้นในช่วงเย็น ผู้อำนวยการโรงเรียนก็ได้เดินทางมาอธิบายถึงเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นให้ตนได้ทราบ แต่ตนก็ยังอยากฟังคำชี้แจงจากคุณครูมากกว่า และฝากไปถึงคุณครูว่า ไม่อยากให้คุณครูตัดสินเด็กในลักษณะเช่นนี้ เด็กทุกคนมีความรู้ความสามารถแตกต่างกันออกไป ก็ควรจะให้โอกาสเด็ก ไม่ควรบูลลี่ว่าเด็กเรียนไม่เก่ง เพราะอาจจะกลายเป็นปมด้อยในใจเด็ก

ในส่วนของแม่ของเด็ก 1 ใน 2 คนที่ถูกไม่ให้เข้าสอบ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ลูกของตนถามว่า ทำไมไม่ได้ไปสอบโอเน็ตกับเพื่อน แม่ก็เลยข้องใจจึงได้โทรหาคุณครู คุณครูตอบกลับมาว่า ไม่สอบก็ได้ ก็ผ่าน แต่จริง ๆ แล้วยังไงเด็กก็ต้องไปสอบ เราก็ต้องถามครูว่าไปได้ไหม คุณครูก็บอกไม่ต้องไปสอบก็ได้ แม่ข้องใจก็เลยมาถามน้า (ผู้โพสต์คลิป) ว่ามันจริงหรือไม่ที่ว่าไม่ต้องสอบก็ได้

น้าตอบกลับมาว่า ไม่ได้ น้าได้สอบถามถามคุณครูที่รู้จักกันมาหลายคนก็ตอบว่า ไม่ได้ ต้องเข้าสอบ ตนก็สงสัยว่า ถ้าลูกของตนเข้าสอบโอเน็ตไม่ได้ ทำไมลูกและหลานของตนเป็นตัวแทนไปแข่งขันถึง จ.บุรีรัมย์ และ จ.ศรีสะเกษ ได้

ตนรู้สึกข้องใจเป็นอย่างมาก ถ้าหากวันที่ 12 ก.พ. ตนไม่ได้ติดตามลูกไปที่โรงเรียนก็คงไม่ได้เข้าสอบ โทรหาครู ครูก็ไม่รับ ส่วนคำพูดที่คุณครูพูดกับตนเรื่องที่ตนถามว่า ทำไมถึงไม่ให้ลูกตนเข้าสอบ คุณครูก็ตอบว่า เด็ก 2 คนนี้เรียนไม่เก่ง กลัวเขาทำไม่ได้ กลัวไปดึงคะแนนเพื่อนลงมา

ด้านนายอานนท์ คนขยัน ผู้อำนวยการโรงเรียน ได้เดินทางเข้ามาพูดคุยกับทางผู้ปกครองของเด็ก ทั้งกล่าวขออภัยและยกมือไหว้ พร้อมกับให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า การสอบโอเน็ตของนักเรียนทั้ง 2 คนนั้นไม่มีรายชื่อเข้าสอบ

แต่สามารถจะเข้าสอบได้ในลักษณะแบบวอล์กอิน เนื่องจากคะแนนโอเน็ตไม่ได้มีผลต่อการไปเรียนต่อหรือว่าคะแนนอะไรทั้งนั้น ไม่มีผลต่อการจัดระดับโรงเรียนใด ๆ เป็นการสอบวัดเฉย ๆ ว่า เด็กมีความรู้ไหมในระดับเทอมนี้

ในส่วนของโรงเรียนยังมีปัญหาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องการจัดการเรียนการสอนด้วย เบื้องต้นได้แก้ปัญหาด้วยการให้เด็กได้เข้าห้องสอบ และเด็กทั้งสองก็ได้ร่วมสอบกับเพื่อน ๆ เรียบร้อย ในส่วนของคุณครูก็คงจะเข้ามาขอโทษและชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับทางผู้ปกครองในโอกาสต่อไป