สังคม

เปิดใจสีกาแอบใต้บันไดกุฎิพระ เครียดจัดเชื่อถูกกลั่นแกล้ง ชุดชั้นในที่เห็นมีคนโยนมา

โดย thichaphat_d

11 ก.พ. 2565

17.2K views

สมุทรปราการ-กรณีนายจีระพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา มือปราบสัมภเวสี ได้พาสื่อมวลชนร่วมสังเกตการณ์กลางดึก และบุกจับอดีตพระครูปลัดประสาทพร มหาปุญโญ เจ้าอาวาสวัดบางหญ้าแพรก ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ หลังได้รับการร้องเรียนว่า พระรูปนี้มักพาสีกาเข้ามาในกุฎิ และอยู่ครั้งละนาน ๆ ทั้งยังมีพฤติกรรมดื่มสุรา


โดยพบหลักฐานผ้าคาดผมผู้หญิง ที่ทางเจ้าอาวาสอ้างว่าเป็นของตัวเอง ช่วยแก้อาการปวดหัว และยังพบชุดชั้นในผู้หญิงตกอยู่ใต้บันไดในกุฏิ ก่อนจะเจอสีกา นั่งหลบอยู่ใกล้ๆ ชุดชั้นใน

ล่าสุด จากการสอบถามชาวบ้าน ต่างให้ข้อมูลที่สอดคล้องกัน ทั้งจากอดีตเด็กวัด และชาวบ้านที่อาศัยอยู่โดยรอบ ก็เล่าว่า ที่ผ่านมา อดีตเจ้าอาวาสรูปนี้ เคยถูกเรื่องร้องเรียนบ่อยครั้ง ตั้งแต่เป็นพระลูกวัด จนขึ้นเจ้าอาวาส แต่เรื่องก็เงียบไป ทั้งการเก็บเงินค่าที่จอดรถกับชาวบ้าน รวมถึงพฤติกรรมการพูดจากที่ไม่เหมาะสม

ส่วนประเด็นเรื่องสีกา ก็ได้ยินมาบ่อย แต่ไม่สามารถจับได้คาหนังคาเขาเหมือนกับครั้งนี้ เมื่อถามว่า แล้วทำไมถึงได้ขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ก็มีชาวบ้านให้ข้อมูลว่า ตอนนั้นก็มีทั้งชาวบ้านบางส่วน และ พระลูกวัดบางรูปที่ไม่เห็นด้วย แต่ก็กลับยังได้รับการแต่งตั้ง จนมีเรื่องราวเกิดขึ้น

แต่ที่ทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่กลัว และไม่กล้าไปร้องเรียน ก็เพราะที่ผ่านมามักจะถูกข่มขู่ไล่ที่ เนื่องจากชาวบ้านกว่า 200 หลังคาเรือน อาศัยพื้นที่วัดอยู่อาศัย หากไปมีเรื่องก็อาจจะถูกไล่ที่ได้

ส่วนสีกาที่พบในกุฏิ จากการสอบถามชาวบ้านบางคน ให้ข้อมูลว่า หญิงรายนี้คือคนที่มาช่วยขายมะม่วงในวัด โดยคาดว่าเป็นคนที่นำมะม่วงจากสวนใน อ.บางพลี มาส่งให้กับวัด เพื่อขาย โดยเห็นหน้ามา 2-3 วันแล้ว แต่เท่าที่ทราบมาก่อนหน้านี้ ก็มีสีการายอื่น ซึ่งเป็นคนละคนกับรายนี้ เข้าออกกุฏิบ่อยครั้ง

ชาวบ้านอีกรายบอกว่า 8 ปี ที่่ผ่านมาที่อดีตเจ้าอาวาสเข้ามาดำรงตำแหน่ง เขาเป็นพระนักปฏิบัติทำงาน แต่พูดจาไม่สำรวม บางทีพูดหยาบคาย ได้ยินแต่ข่าวลือพูดต่อๆกัน เรื่องมีผู้หญิงมาในกุฎิ ข่าวลือดื่มเหล้า แต่ไม่มีใครจับได้คาหนังคาเขา

ตอนที่มีการลอกคลองข้างกุฎิเจ้าอาวาส พบขวดเหล้าเกลื่อนคลอง และมีชาวบ้านบางคนบอกว่าเคยเจอเหล้าเป็นลังในรถอดีตเจ้าอาวาสคนนี้ด้วย เมื่อเร็วๆนี้มีช่างทาสีคนหนึ่งเข้าไปทำงานในกุฎอดีตเจ้าอาวาสเล่าให้ฟังว่า 6 โมงเช้า เจอสีกา หัวกระเซอะกระเซิงอยู่ในกุฎิ

กระทั่งเห็นคาตาว่า สิ่งที่ลือๆกันมาเป็นจริง ความรู้สึก คือ เห็นเขาโดนรุม โดนด่า เห็นสภาพแล้ว ทั้งสมเพช ทั้งสงสาร พวกเราคลุกคลี ผูกพัน กับเขามานาน ไม่คิดเลยว่าที่พูดๆมา เป็นเรื่องจริง

ขณะที่พระลูกท่านหนึ่งซึ่งบวชที่วัดแห่งนี้มาแล้วถึง 18 พรรษา ออกมาให้ข้อมูลถึงความผิดและกฎวินัยสงฆ์ ซึ่งขณะบวชเข้ามาเป็นสมณเพศย่อมรู้กฎวินัยข้อห้าม 4 ข้ออยู่แล้วคือ

1.เสพเมถุน

2.ลักทรัพย์

3.อวดอุตาริที่ไม่มีในตัว

และ 4.การฆ่ามนุษย์

ส่วนเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับทางอดีตเจข้าอาวาสนั้น ถือเป็นเรื่องที่หนักกว่า ปราชิก คือ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เสพเมถุน แต่การที่มีสีกาเข้าไปอยู่สองต่อสองในกุฎิหรือในที่กำบัง ตามวินัยแล้วถือเป็นเรื่องของโลกกะวัชชะ คือโลกติเตียน หรือชาวบ้านติเตียน ต้องยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นและลาสิขา พ้นจากสมณเพส การบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ต้องมีวินัย สำรวจกายวาใจ และประพฤติตนตามวินัยสงฆ์ ให้ชาวบ้านเลื่อมใสศรัทรา

ด้าน พ.ต.อ.จักรพงศ์ นุชผดุง ผกก.สภ.สำโรงใต้ ระบุว่า หลังจากเชิญตัวมาสอบปากคำกับทางนาย สมุทร ปราสาทพร อดีตเจ้าอาวาส ซึ่งในชั้นสอบสวนไม่พบความผิดทางคดีอาญา และยังไม่มีผู้เสียหายที่เป็นหญิงสีกาเข้ามาแจ้งความแต่อย่างใด จึงต้องปล่อยตัวไปเนื่องจากไม่พบความผิดซึ่งในชั้นสอบสวน

เบื้องต้นเจ้าตัวก็ไม่ได้ให้การรับสารภาพแต่อย่างใด แต่ก็จำนนด้วยหลักฐานตามที่ปรากฏตามสื่อ ขณะฝ่ายสีกาไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรต่อพนักงานสอบสวนหลังเกิดเหตุทำได้แค่นำตัวมาที่โรงพักเพื่อความปลอดภัยเท่านั้น

สำหรับ ตำแหน่งเจ้าอาวาส วานนี้ (10 ก.พ.) พระครูสุนทร สุตสาร วัดท้องคุ้ง เจ้าคณะตำบลบางหญ้าแพรก เดินทางมาที่วัด ทำพิธีแต่งตั้งรักษาการเจ้าอาวาส แทนเจ้าอาวาสรูปเก่า โดยคณะสงฆ์ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้แต่งตั้ง พระอาจารย์ บุญมี กิตติภโร เป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัด

ขณะที่นางต้อย (นามสมมติ) หญิงที่แอบอยู่ใต้บันไดในกุฎิพระ ซึ่งอยู่ในลักษณะ ขดตัวคุดคู้อยู่ใค้บันได มีจีวรคลุมคัวอำพราง และใกล้กันพบชุดชั้นใน สีฟ้าตกอยู่ข้างๆ

ล่าสุดได้เปิดใจกับทีมข่าวทางโทรศัพท์ ว่า ตอนนี้เครียดมาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เป็นไปตามที่สังคมเข้าใจ

ในวันเกิดเหตุ ตนนำเอกสารไปให้หลวงพ่อเซ็น แต่ระหว่างจะกลับ ก็ได้ยินเสียงโวยวาย และเกิดการบุกเข้ามา ตัวเองจึงไปแอบที่ใต้บันได และเอาจีวรคลุม เมื่อแอบตัวอยู่ตรงนั้นก็มีคนมาเจอตอนนั้นตกใจมากเพราะคนเจอะ และทุกคนมุ่งเป้ามาที่ตน จากนั้นไม่รู้ว่า ชุดชั้นในที่ตกอยู่ในนั้นเป็นของใคร และมาจากไหน แต่ไม่ใช่ของตนเอง

จากการสังเกตช่วงที่ชุลมุน ชุดชั้นในนี้เหมือนมีการโยนมาหรือเอามาวางไว้  ซึ่งไม่ใช่ของตนเองแน่นอน เพราะตอนที่ถูกนำตัวออกมาจากกุฎิชุดชั้นในก็ยังใส่อยู่ครบ และอีกอย่าง ตนอายุเยอะแล้วไม่ใส่เสื้อชั้นในแบบนี้

โดยส่วนตัวเชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการกลั่นแกล้งหลวงพ่อ เพราะในวัดนี้ มีคนไม่ชอบหลวงพ่อหลายคน และพยายามทำให้หลวงพ่อพ้นจากวัด

ส่วนตัวนี้เครียดมาก ตนมีตรอบครัวและลูก ทุกคนรู้ข่าวก็ตกใจ แต่ทุกคนรู้ว่าตนไม่ได้ทำไม่ดีในกุฎินั้น ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ หรือกระทำการไม่เหมาะสม แค่นำเอกสารไปให้หลวงพ่อ

เมื่อสอบถามถึงการนำเอกสารไปให้หลวงพ่อ ทำไมจึงไปในยามวิกาล ซึ่งเป็นเวลาที่พระเข้ากุฎิแล้ว นางสาวต้อยไม่ขอตอบคำถาม และบอกว่าตอนนี้เครียดจนอยากฆ่าตัวตาย อยากขอให้สังคมให้ความเป็นธรรมตนด้วย


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/lUyihdmucXk

คุณอาจสนใจ

Related News