'ประภัตร' ฮึ่ม อาจนำเข้าหมู ดัดหลังพวกกักตุน - มุกดาหารฝังกลบหมูเถื่อน ลอบนำเข้า

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ในการประชุม ครม. นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รายงานเกี่ยวกับสถานการณ์การเลี้ยงหมูในปัจจุบันว่า

จากการตรวจสอบผู้เลี้ยงหมู รายย่อย รายกลาง และรายใหญ่ พบว่ามีจำนวนผู้เลี้ยงเพิ่มขึ้น ลดลงเฉพาะรายย่อยเท่านั้น และปริมาณหมูหายไปเพียงแค่ 1 ล้านตัว คิดเป็น 11% ไม่ได้หายไป 5-6 ล้านตัว ตามที่มีการนำเสนอข่าว ทั้งนี้ได้ตรวจสอบสต๊อกไปแล้วกว่า 500 แห่ง ยังเหลืออีก 500 แห่ง ที่ต้องดำเนินการต่อไป

อีกทั้งจากการตรวจสต๊อกหมูในประเทศส่วนหนึ่ง พบสต๊อกอยู่ 14 ล้านกิโลกรัม จึงตั้งข้อสงสัยว่าทำไมไม่นำส่วนนี้ออกมาจำหน่ายให้หมด และอยากให้นำออกมาจำหน่ายก่อนช่วงเทศกาลตรุษจีน เพื่อไม่ให้ราคาหมูแพง แต่หากไม่นำออกมาจำหน่าย จะต้องสั่งนำเข้าหมูจากต่างประเทศเฉพาะกิจ เพื่อไม่ให้มีการกักตุน

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า หากพบคนที่อยู่เบื้องหลัง หรือมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งหมด อยากให้แก้ไขปัญหาทั้งระบบและยั่งยืน เช่นเดียวกับเรื่องสินค้าเกษตรอื่นๆ

เมื่อวันที่ 23 มกราคม 65 เวลา 16.30 น. เจ้าหน้าที่กักกันสัตว์มุกดาหาร นำซากหมูที่ตรวจยึดได้กว่า 24,000 กิโลกรัม ประมาณ 6 ล้านบาท นำมาฝังกลบ เพื่อป้องกันเชื้อโรคที่มากับซากหมู โดยซากหมูดังกล่าว ถูกจับได้ ที่ 3 แยกไฟแดงบ้านโคกสูง สะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 2 บริเวณถนน มุกดาหาร-ธาตุพนม ต. บางทรายใหญ่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร  

โดยเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์มุกดาหาร ทำการฝังกลบเนื้อซากหมู เนื่องจากพบว่าซากหมูเหล่านี้ ไม่มีเอกสารรับรองสุขศาสตร์ซากสัตว์ ซึ่งอาจมีความเสี่ยงเป็นพาหะนำโรคระบาด หากปล่อยให้นำไปจำหน่ายตามท้องตลาด

ทั้งนี้ การลักลอบนำซากสุกรผ่านด่านพรมแดนมุกดาหารเข้ามาในลักษณะดังกล่าว ถือเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติ โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 มาตรา 31 ลักลอบการนำเข้าซากสัตว์ผ่านราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตอธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย ซึ่งมีระวางโทษจําคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

จากการตรวจสอบกล่องกระดาษและถุงพลาสติก ที่หุ้มห่อซากสุกรที่ลักลอบนำเข้ามา และถูกตรวจอายัดไว้ดังกล่าว มีข้อความเป็นภาษารัสเซีย ที่ระบุว่ามีแหล่งผลิตเป็นบริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แช่แข็งอยู่ในสหพันธรัฐรัสเซีย มีบริษัทในสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามเป็นผู้นำเข้ามาขาย และต่อมาได้ถูกลักลอบนำเข้ามาในประเทศไทย

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/ceaVb4BEmOE