สังคม

หนุ่มอุดรฯ เผลอนอนพาดราง รถไฟทับคอขาดกระเด็น ดับสลด

โดย panisa_p

20 ม.ค. 2565

3.1K views

วันนี้ (20 ม.ค.65) 06.00 ร.ต.อ.กานดิศ แก้วน้ำใส รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทองว่า มีเหตุรถไฟขบวนรถด่วนพิเศษที่ 25 กทม.-หนองคาย ทับคนคอขาดเสียชีวิตอยู่บนรางรถไฟ บริเวณด้านหลังสนามเด็กเล่น สวนสาธารณะหนองสิม ชุมชนบ้านเดื่อ ต.หมากแข้ง ทน.อุดรธานี ซึ่งมีจุดลัดเดินข้ามทางรถไฟ ระหว่างชุมชนบ้านเดื่อและชุมชนหนองเหล็ก อยู่ห่างจากสถานีรถไฟอุดรธานี ไปจังหวัดหนองคายประมาณ 1 กิโลเมตร จึงออกไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน ที่เกิดเหตุพบศพชายอายุประมาณ 30-35 ปี หัวฟู รูปร่างเล็ก สูงประมาณ 160 ซม. สภาพศพท่อนบนคอขาดแขนขาดห่างจากลำตัวประมาณ 10 เมตร นอนหงายอยู่ข้างรางรถไฟ ส่วนลำตัวท่อนล่างนุ่งกางเกงยีนส์ขาสวมส่วน ไม่สวมเสื้อและรองเท้า ในรางรถไฟพบเสื้อแขนยาวขาดยับรุ่งริ่ง ข้างรางรถไฟอีกฝั่งพบกระเป๋าเป้สีดำ คาดว่าเป็นของผู้ตาย ตรวจค้นภายในพบเสื้อผ้าและบัตรประชารัฐ ระบุอายุ 23 ปี (นายเดชา บัวผัน) คาดว่าน่าจะไม่ใช่บัตรฯของผู้ตาย เนื่องจากตำหนิรูปพรรณใบหน้าและอายุ ไม่ใกล้เคียงกับผู้ตายแม้แต่น้อย






ในเบื้องต้นตำรวจสันนิฐานว่า ผู้ตายน่าจะเป็นคนเร่ร่อน คาดว่าน่าจะมีอาการเมา หรือนอนหลับในลักษณะคอพาดทางรถไฟ ทำให้รถไฟทับคอและแขนขาด จึงมอบศพให้อาสากู้ภัยมูลนิธิฯนำศพไปเก็บรักษาไว้ที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี เพื่อรอให้ญาติมาติดต่อรับศพไปบำเพ็ญกุสลตามประเพณี







นายสมพล สวยวิเศษ นายสถานีรถไฟอุดรธานี เปิดเผยว่า รถไฟที่ทับร่างผู้เสียชีวิต เป็นรถไฟขบวนรถด่วนพิเศษที่ 25 กรุงเทพ-หนองคาย ออกจาก กทม. เวลา 20.00 น. วันที่ 19 มกราคม 2565 มาถึงชานชราสถานีรถไฟอุดรธานี เวลา 05.39 น. วันที่ 20 มกราคม 2565 และออกจากสถานีรถไฟอุดรธานีมุ่งหน้าไปสถานีรถไฟหนองคาย เวลา 05.47 น. เคลื่อนขบวนไปได้ไม่ถึง 5 นาที ได้รับแจ้งจากพนักงานขับรถไฟว่า มีคนนอนพาดทางรถไฟบริเวณด้านหลังสวนสาธารณะหนองสิม ที่อยู่ห่างไปราว 1 กม. และรถไฟได้ทับร่างของผู้ตายเสียชีวิต ก่อนที่นักงานขับรถไฟจะเคลื่อนขบวนถอยหลังกลับมารายงานเหตุการณ์ที่สถานีรถไฟอุดรธานี ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ ก่อนเดินทางมุ่งหน้าไปสถานีรถไฟหนองคาย



ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 20 มกราคม 2565 ที่ สภ.เมืองอุดรธานี นางจำปา บัวผัน 41ปี พนักงานเสมียนปั๊มน้ำมีชื่อแห่งหนึ่งใน ต.สามพร้าว (ปั๊มพีที) อยู่บ้านเลขที่ 159 ม.2 บ้านสร้างแป้น ต.สร้างแป้น อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี เดินทางมาติดต่อขอรับศพ นายเดชา บัวผัน อายุ 23 ปี ยืนยันว่าเป็นศพลูกชายของตัวเองที่หายออกจากบ้าน เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา พร้อมกับกระเป๋าเป้และเสื้อผ้าที่พบในจุดเกิดเหตุ หลังทราบข่าวจากสื่อโซเชียลที่ โพสต์รูปภาพเหตการณ์



นางจำปา บัวผัน เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ผู้ตายเป็นลูกชายคนโตที่มีกับสามีเก่า ที่มีลูกชายหญิงด้วยกัน 2 คน ก่อนแยกทางกันกับสามีตอนผู้ตายอายุเพียง 3 ขวบ ลูกชายป่วยทางจิตหรือสติไม่ดีมาประมาณ 3 เดือน โดยปกติลูกชายจะอยู่บ้านตลอด แต่หลังจากมีอาการป่วยจิต จะชอบเดินไปนู่นไปนี่อยู่แบบนี้ บางทีเห็นเดินไปบ้านสามพร้าว ต.สามพร้าว แล้วก็เดินกลับบ้าน เพราะมีนิสัยชอบเดินเป็นชีวิตจิตใจ เอารองเท้าให้ก็ไม่สวมใส่ เอาอะไรให้ก็ไม่ยอมเอา จะเอาแต่เงิน บางครั้งซื้อข้าวให้กินก็กินอยู่เวลาหิว



เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ยังเห็นลูกชายเดินสะพายเป้อยู่สะพานบ้านสามพร้าว และไม่เห็นกลับมาบ้าน พยายามตามหาแต่ก็ไม่พบ เพราะทุกครั้งที่ลูกชายเดินหายออกจากบ้าน ลูกชายจะเดินกลับมาบ้านเองทุกครั้ง และจะหายไปครั้งละหลายวัน แม่ก็ออกตามหาทุกครั้ง ทุกครั้งที่ผ่านมาเมื่อแม่กลับมาบ้านก็พบนั่งอยู่บ้านแล้ว แต่ลูกชายจะชอบไปนั่งอยู่ในป่าบริเวณหลังบ้าน”



นางจำปา บัวผัน เปิดเผยต่อว่า ตอนเด็กลูกชายบวชเรียนอยู่วัดสุนทรประดิษ์ หรือวัดจีน จนจบชั้น ม.3 จากนั้นไปบวชเรียนต่อที่วัดมัชฌิมาวาส แต่ไม่จบ ม.6 แล้วก็มาเป็นนักมวยตะเวนชกในพื้นที่ จ.อุดรธานี ก่อนจะไปอยู่กรุงเทพฯ ทำงานเป็นช่างไฟฟ้า ก่อนกลับมาบ้านแล้วไปบวชเป็นพระที่วัดจีนอีกครั้ง แล้วก็สึกช่วงเดือนเมษายนปีที่ผ่านมา กลับมาอยู่บ้านกับแม่ และมีอาการอย่างที่เห็น ไม่มีใครบอกได้ไม่มีใครพูดได้ ใครจะเอาอะไรให้ก็เอา ใครเอาข้าวให้ก็ไม่กิน จะพาไปหาหมอรักษาอาการก็ไม่ยอมไป เมื่อเห็นข่าวทางโซเชียล ก็รู้เลยว่าเป็นลูกชาย เนื่องจากจำรูปร่างได้ จำกระเป๋าเป้ได้ คิดว่าลูกชายไม่ได้ตั้งใจให้รถไฟทับ คิดว่าคงจะเดินมาจนเหนื่อย แล้วหยุดนอนอยู่รางรถไฟจนหลับไม่รู้เรื่อง เพราะเมื่อเขาเหนื่อยมักจะนอนหลับอยู่ตรงที่เขาหยุดพักเลย



ตอนลูกชายหายออกจากบ้านครั้งล่าสุด มีความรู้สึกว่าอยากไปวัดทำบุญ ก่อนจะทราบข่าวถูกรถไฟทับคอขาดเสียชีวิต และขณะตนกำลังทำงานอยู่ปั๊มน้ำมัน เห็นลมหมุน หรือชาวอีสานเรียกว่าลมหัวกุด พัดหมุนเข้ามาในบริเวณปั๊มน้ำมัน และเมื่อคืนที่ผ่านมาฝันว่ามีผู้ชายมาชอบและมากอดรัด ก่อนผู้ชายที่มากอดจะกลายร่างเป็นลิง ซึ่งในความฝันตนคิดว่าผู้ชายคนที่มาชอบตนเป็นปอบ และชาวอีสานเชื่อว่าเป็นฝันที่ไม่ดี จึงตื่นขึ้นมาเล่าความฝันในห้องน้ำหลังปลดทุกข์ เพื่อแก้เคล็ด แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขได้ ก่อนมาทราบข่าวว่าลูกถูกรถไฟทับจนคอขาด หลังจากนั้น นางจำปา บัวผัน ผู้เป็นแม่ได้เดินทางไปที่แผนกนิติเวช หรือห้องดับจิต โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เพื่อติดต่อขอรับศพลูกชายไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี พร้อมกับเข้าไปดูศพลูกชาย และดูเสื้อผ้าของใช้ของลูกชายที่แม่เป็นคนซื้อให้ โดยเฉพาะกระเป๋าเป้ และกระเป๋าสะพายสีน้ำตาล ที่เพิ่งซื้อให้ได้ไม่นาน และไม่ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต

คุณอาจสนใจ

Related News