สังคม
เกาะสมุยทัพเรือภาค 2 เผยเรือผีหายจากจอเรดาร์ คาดจมสู่ก้นทะเล
9 ม.ค. 2565
7.8K views
จากกรณีเรือผีปริศนา โผล่กลางอ่าวไทย เมื่อสองวันที่ผ่านมา ทางทัพเรือภาคที่ 2 พร้อม ศรชล. นำกำลังเข้าตรวจสอบในตัวเรือดังกล่าว เพื่อวางแผนทำการกู้ ล่าสุดแหล่งข่าวจาก ศรชล. ภาค 2 เผยเรือผีลำดังกล่าว ที่ทางทัพเรือภาค 2 และศรชล.ภาค 2 กู้เรือได้สำเร็จ อยู่ระหว่างการชักลากเข้าฝั่ง ได้อันตรธานหายไปจากจอเรด้าอีกครั้ง คาดจมสู่ก้นทะเล อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเรือดังกล่าว พร้อม ประกาศเป็นพื้นที่เรือจม เพื่อให้ชาวประมงระมัดระวังในการเดินเรือ
เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีทัพเรือภาค 2 ออกลาดตระเวน ตามหาเรือไร้สัญชาติกลางทะเล ลอยเข้ามาใกล้แท่นขุดเจาะน้ำมันกลางทะเล ทางทิศคะวันออกเฉียงใต้ของเกาะสมุยประมาณ 70 ไมล์ทะเล และตรวจสอบพบประมาณระยะทาง 100 ไมล์ทิศทาง 025 จากปากร่องน้ำทะเลสาบสงขลา เรือมีลักษณะคล้ายเรือสินค้า ความยาวประมาณ 80 เมตร ไม่มีสินค้าในระวาง ไม่มีหมายเลขเรือ หมายเลขท้ายเรือถูกลบและไม่มีการพักอาศัยของคนประจำเรือ ไม่มีสมอและโซ่สมอ
สภาพมีน้ำท่วมภายในตัวเรือ ในห้องเครื่องไฟฟ้าและเครื่องจักรใหญ่ ตัวเรืออยู่ในลักษณะเอียงประมาณ 35 องศา จากนั้นพลเรือโทสุนทร คำคล้าย ผู้บัญชาการทัพเรือภาค 2 สั่งให้เรือต.113 ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าทำการสูบน้ำออก เพื่อให้เรือทรงตัวอยู่ได้ ไม่จมลงสู่ใต้ทะเล ตามข่าวที่ได้นำเสนอมาก่อนหน้านี้
ล่าสุด ทาง พลเรือตรี สุรศักดิ์ ประทานวรปัญญา รอง ผอ.ศรชล.ภาค 2 ซึ่งได้รับมอบหมายจาก พลเรือโท สุนทร คำคล้าย ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 ศรชล. ภาค 2 ในการบูรณาหน่วยในโครงสร้างร่วม และส่วนที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรือเตรียมการรับเรือเข้าฝั่งและติดตามหาเจ้าของเรือปริศนา กล่าวว่า
จากการตรวจพบเรือปริศนา ไม่ปรากฏสัญชาติ และจากการตรวจสอบจากตัวอักษรไม่พบในสารบบ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ดำเนินการสูบน้ำออกจากห้องเครื่องและระวางที่มีน้ำเข้า 40 - 50 เปอร์เซ็นต์ของเรือ และทำความสะอาดเรือ โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา (8 ม.ค.) กองทัพเรือภาค 2 และ ศรชล. ภาค 2 ได้ชักลากจูงเรือจากพิกัดที่พบเรือ มุ่งหน้าปากน้ำตาปี อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี และเมื่อมาถึงบริเวณ พื้นที่ อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ห่างจากฝั่ง 28 ไมล์ทะเล ซึ่งมีระดับน้ำลึกประมาณ 28 เมตรโดยสภาวะคลื่นลมแรง ทำให้เรือลำดังกล่าวจมดิ่งลงไปใต้ท้องทะเลอีกครั้ง
โดยขณะนี้ได้จัดให้เรือหลวงตาปี และเรือจำนวนหนึ่งเฝ้าพิกัด และประสานกองทัพเรือ และเจ้าท่าจังหวัดนครศรีธรรมราช ประกาศเป็นพื้นที่เรือจม เพื่อให้ชาวประมงระมัดระวังในการเดินเรือ และขณะนี้เกิดคราบน้ำมันบริเวณดังกล่าวแม้จะไม่มีปริมาณมาก แต่เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ ซึ่งกำลังเร่งขจัดคราบน้ำมัน ภายในระยะ 2 - 3 วันนี้
เพราะจากทิศทางลมและคลื่นอาจจะพัดพาคราบน้ำมัน ไปทางเกาะมัดสุ่ม ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 30 ไมล์ทะเล จึงมีความจำเป็นต้องเร่งขจัดเพื่อไม่ให้กระทบต่อการท่องเที่ยว และสภาพแวดล้อมโดยเร็วที่สุด ในส่วนของการเก็บกู้ซากเรือจากท้องทะเลจะดำเนินการหรือไม่ อยู่ระหว่างการประเมินถึงสภาพความพร้อม ผลกระทบ และอื่น ๆ อีกครั้ง