คุมเข้ม! เชียงใหม่เตรียมสั่งปิดร้านที่พบคลัสเตอร์ พร้อมงดใช้แอร์ในห้องอาหาร

นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 ของจังหวัดเชียงใหม่ และแนวทางการแก้ปัญหาเพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาด หลังเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมาพบจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นในวันที่ 5 มกราคม 378 ราย และเมื่อวานนี้ 298 ราย

ทั้งนี้พบว่าการระบาดในจังหวัดเชียงใหม่ ในระลอกนี้เหมือนกับพื้นที่อื่นๆ ของประเทศและโลก ซึ่งเป็นสายพันธุ์โอไมครอนกว่าครึ่งของจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด อย่างไรก็ตามยอดผู้ป่วยหนักไม่ได้เพิ่มมากขึ้นตามจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ เนื่องจากสายพันธุ์โอไมครอนจะสามารถแพร่กระจายและติดเชื้อได้เร็วแต่มีความรุนแรงไม่มาก

ขณะนี้ทางจังหวัดเชียงใหม่ได้เร่งดำเนินการควบคุมโรคอย่างใกล้ชิด และคาดว่าการระบาดในระลอกนี้จะใช้ระยะเวลาไม่นานประมาณ 2 สัปดาห์ โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ได้ออกมาตรการสอดรับนโยบายของรัฐบาล ขอความร่วมมือให้หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน Work Form Home เป็นระยะเวลา 14 วัน เพื่อลดความแออัด มีการตรวจ ATK แก่ข้าราชการทั้ง 25 อำเภอ พร้อมกันนี้ได้มีคำสั่งให้ทุกหน่วยงานงดกิจกรรมรวมกลุ่มจำนวนมาก และแจ้งให้หน่วยงานสาธารณสุขเตรียมพร้อมรองรับผู้ป่วยแล้ว

ทั้งนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ไปใช้บริการร้านจำหน่ายอาหารที่เปิดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่จึงเตรียมพิจารณาสั่งปิดร้านอาหารที่พบข้อมูลการแพร่ระบาด และไม่ปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting โดยจะสั่งปิด 7-14 วัน เพื่อทำความสะอาด ตรวจคัดกรองหาเชื้อในกลุ่มพนักงาน และเน้นย้ำร้านอาหารให้ปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting อย่างเคร่งครัด และให้เพิ่มความเข้มงวด เช่น งดใช้เครื่องปรับอากาศในห้องอาหารที่มีขนาดจำกัด, ตรวจ ATK พนักงานในร้านเป็นประจำทุก 3 วัน จากเดิม 7 วัน รวมถึงตรวจ ATK ผู้ที่เข้าใช้บริการด้วย นอกจากนี้จะได้มีการประกาศขยายเวลางดการเรียนการสอนแบบ On-Site ต่อไปอีก 1 สัปดาห์ เพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19