ลุงเขยข่มขืนหลานสาววัย 11 ขวบ นานค่อนปี คนในบ้านไม่กล้าปริปาก หวั่นถูกทำร้าย

วันที่ 15 ธ.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานที่บริเวณบ้านเลขที่ 103 ตำบลบ้านอิฐ อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง ซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียวปลูกอยู่ภายในสวน มีผู้อยู่อาศัยทั้งหมด จำนวน 10 คน หลังเกิดเหตุการณ์ลุงเขยวัย 42 ปี ลงมือข่มขืนหลานวัย 11 ปี นานกว่าค่อนปี ซึ่งคนภายในบ้านเห็นการกระทำหลายคน แต่ถูกข่มขู่ไม่กล้าปริปาก

ล่าสุดป้ามาเห็นกับตาขณะลงมือก่อเหตุแล้วแจ้งตำรวจเข้ารวบตัว โดยทางนางสาวนิตยา เล่าให้ฟังว่า เด็กหญิงวัย 11 ปี ที่ผู้เป็นพ่อติดคุก แม่ไปทำงานอยู่ที่ชลบุรี อาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ได้ถูกลุงเขย อายุ 42 ปี กระทำชำเราย่ำยีข่มขืนใจ ซึ่งมีคนภายในบ้านเห็นเหตุการณ์ตลอด แต่ไม่มีใครกล้าที่จะแจ้งความ เนื่องจากทุกคนถูกข่มขู่ทำร้ายจึงไม่กล้าเปิดปาก

จนกระทั่งเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 14 ธ.ค. ที่ผ่านมา ทางนางสาวกรกวรรณ ผู้เป็นป้า ได้เข้ามาเห็นขณะก่อเหตุ จึงใช้โทรศัพท์ และถุงโซ่ขว้างใส่ลุงเขย และทำการแจ้งตำรวจ ส่วนลุงเขย ผู้ก่อเหตุก็เดินออกจากบ้านไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวมายัง สภ.เมืองอ่างทอง เพื่อทำการสอบสวนขยายผลทำการสอบสวนขยายผล

ด้านผู้เสียหาย วัย 11 ปี เล่าให้ฟังว่า ตนเองได้ถูกลุงเขยข่มขืนมาตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา และกระทำเรื่อยมาแทบทุกวัน ในช่วงที่เขาเมาสุราก็จะมีอารมณ์ทางเพศกระทำชำเราข่มขืนตนเอง ทั้งที่มียายและเด็กเต็มบ้าน และข่มขู่ไม่ไห้พูดกับใคร ถ้าพูดจะฆ่าให้ตาย ตนเองเคยคิดหนีออกจากบ้าน แต่ก็โดนข่มขู่อีกจึงต้องอยู่อย่างทรมาน

ส่วนทางด้านผู้ต้องหาปฏิเสธว่าไม่ได้ลงมือข่มขืน เพียงแค่ตีหลานสาวเพื่อสั่งสอน จนตนเองเสียหลักล้มทับหลานสาว แต่พอดีป้าเข้ามาเจอจึงเข้าใจผิด ซึ่งตนเองยืนยันไม่ได้กระทำข่มขืนกระทำชำเราแต่อย่างไร

ทางด้าน ร.ต.อ.สุขสันต์ ปัสสาวะกัง รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอ่างทอง ได้ทำการสอบสวนผู้เสียหายและพยาน ก่อนแจ้งข้อกล่าวหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี และจะนัดสหวิชาชีพเข้ามาทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนผู้ต้องหาจะส่งตัวทำการฝากขังที่เรือนจำจังหวัดอ่างทอง หลังทำการสอบสวนเสร็จในวันที่ 16 ธ.ค. ต่อไป