แม่ค้าโตเกียวสุดแซ่บงานเข้า! เจ้าหน้าที่ตักเตือนเรื่องการแต่งกาย ลูกค้าล้นหน้าร้าน หวั่นอันตราย

จากกรณีแม่ค้าสุดแซ่บแต่งชุดแหวกอกขายขนมโตเกียว ยอดขายสุดปัง นางสาวอรัญญา อภัยโส หรือ โอลีฟ อายุ 23 ปี แม่ค้าขายขนมโตเกียวเนยกรอบ ย่านถนนเจ็ดยอด-ช่างเคี่ยน ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ สร้างความฮือฮาใส่เสื้อแหวกอกทำขนมขาย กระแสตอบรับดีเกินคาด ลูกค้าแห่มาอุดหนุน

ล่าสุดที่ร้านขายขนมโตเกียวก็ยังคงมีลูกค้าเข้ามาสั่งออเดอร์ขนมอย่างต่อเนื่อง โดยการลงชื่อ เบอร์โทร เพื่อมารับของในวันพรุ่งนี้ นอกจากนี้ยังมีลูกค้าที่สั่งขนมตั้งแต่เมื่อวานก็ทะยอยมารับขนมตามสั่งอย่างต่อเนื่อง 

น้องโอลีฟ ในวันนี้ แต่งกายด้วยชุดเปิดอกสีแดง มีเสื้อกันเปื้อนทับไว้อีกชั้น ดูเรียบร้อยขึ้น และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ได้มีเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลช้างเผือกมาให้คำแนะนำและมาตักเตือนตนแล้วในเรื่องของชุดและการสวมหน้ากากอนามัย ตนก็พร้อมที่จะปรับปรุงแก้ไขตามที่เจ้าหน้าที่บอกและให้คำแนะนำ

ตอนนี้ก็ได้ใส่เสื้อกันเปื้อนและหน้ากากอนามัยก็ใส่ตลอด และก็มีเจ้าหน้าที่เทศกิจฯ ออกมาเตือนเรื่องลูกค้าล้นออกไปนอกถนน ทำให้รถติดและหวั่นจะเกิดอันตรายกับประชาชน ตนก็ได้เคลียร์ออเดอร์ลูกค้า ให้มารับและก็ให้กลับ เพื่อไม่ให้แออัด อยากให้ขนมและเสื้อผ้าที่ร้านตนขายดี และเร็ว ๆ นี้ อาจจะเห็นตนใส่ชุดไทยล้านนา ก็ขอให้อุดหนุนตนเหมือนเดิม

ผู้สื่อข่าวถามว่า แล้วเมื่อวานรับออเดอร์ลูกค้า ทำเสร็จถึงกี่โมง น้องโอลีฟ เผยว่า ถึงตีสาม ตั้งระเบียบการรับออเดอร์ใหม่ โดยจะรับออเดอร์วันละ 60 คน หรือประมาณ 350 กระปุกต่อวัน ถ้าลูกค้ามาหลังจากนี้ก็จะตัดให้เป็นวันต่อ ๆ ไปตามลำดับ เพราะไม่ไหวจริง ๆ 

“ส่วนเสื้อเปิดอก หลังจากที่มีข่าวออกไป ก็ขายหมดแล้ว ตอนนี้ได้ส่งคนบินไปซื้อเสื้อที่กรุงเทพล็อตใหญ่มาแล้ว ก็มาอุดหนุนกันได้” ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ โรงพัก สภ.ช้างเผือก เชียงใหม่ ได้มีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ห้องประชุม กต.ตร.ของโรงพัก โดยมี กต.ตร.เทศบาล วัฒนธรรม ตำรวจ เพื่อหารือกันในเรื่องของน้องโอลีฟ เพื่อให้เกิดความเหมาะสม

โดยในที่ประชุมก็ได้ส่งคนไปให้คำแนะนำน้อง ในเรื่องของการแต่งกาย เพราะเชียงใหม่เป็นเมืองแห่งวัฒนธรรม เขาขายความเป็นวัฒนธรรมประเพณีอันเก่าแก่สวยงาม รวมทั้งการแต่งกาย ก็ทำให้เหมาะสม รวมทั้งการสวมใส่หน้ากากอนามัย เวลาขายสินค้า และเรื่องการส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลจัดระเบียบในช่วงสถานการณ์โควิด

โดยในส่วนของตำรวจนั้น จะให้ทางเทศบาลดำเนินการไปก่อน ส่วนตำรวจจะไปให้คำแนะนำและอำนวยความสะดวกในรอบสอง โดยตำรวจสายตรวจบอกว่า ตำรวจไม่กล้าไปก่อน เพราะกลัวทัวร์ลง ให้เทศบาลไปให้คำแนะนำ ตักเตือนก่อน