ไฟไหม้ห้องเก็บของ โรงแรมดังย่าน ถ.กิ่งแก้ว ชาวต่างชาติเข้ากักตัว วิ่งหนีตายวุ่น

เมื่อเวลา 21.00 น. วานนี้ (6 ต.ค.) ตำรวจ สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีกลุ่มควันจำนวนมากพวงพุ่งออกมาจากชั้นใต้ดินของโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ริมถนนกิ่งแก้ว ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

ที่เกิดเหตุเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ ซึ่งใช้เป็น State Quarantine ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไว้ กักตัว ก่อนเข้าประเทศ ที่บริเวณชั้นล่างซึ่งเป็นห้องสนุกเกอร์ ได้พบกลุ่มควันสีดำจำนวนมากพวยพุ่งออกจากจำนวนมาก ขณะที่ชาวต่างชาติและชาวไทยที่กักตัวอยู่ชั้นบนรวม 80 คน ต่างพากันวิ่งหนีตายลงจากชั้นบนลงมายืนรวมกันอยู่ที่ด้านข้างของโรงแรม

โดยมีเจ้าหน้าที่ต้องสวมใส่ชุดป้องกันการติดเชื้อ PPE เร่งฉีดน้ำฉีดสกัดต้นเพลิงเอาไว้ได้ใช้เวลากว่า 30 นาทีเพลิงจึงสงบ

พบว่าจุดที่เกิดเหตุเป็นมีโต๊ะสนุกตั้งเรียงรายอยู่หลายตัว แต่ไม่ได้เปิดใช้งานมานานเกือบ 2 ปี จากการที่รัฐบาลประกาศล็อกดาว ตรวจสอบพบว่าได้รับความเสียหายเล็กน้อย และที่ผนังด้านในซึ่งมีการติดตั้งปลั๊กไฟเอาไว้ พบว่าเกิดการช็อตจนตัวปลั๊กละลาย รวมทั้งสายไฟที่อยู่บริเวณใกล้เคียง เจ้าหน้าที่จึงกั้นสถานที่เกิดเหตุเอาไว้ รอการประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบ

นายณัฐวุฒิ อรุณานนท์ชัย ผู้จัดการโรงแรมดังกล่าว ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีควันไฟพวยพุ่งออกมาจากห้องเก็บของซึ่งเดิมเป็นโซนสนุกเกอร์ ที่ปิดใช้งานมานานเกือบ 2 ปีแล้ว จึงประสานไปทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงให้มาตรวจสอบเพื่อความปลอดภัย 

เบื้องต้นพบว่ามีสายไฟที่ต่อเข้ามาตัวปลั๊กเสียบน่าจะเกิดการช็อต ทำให้สายละลายและเกิดประกายไปลุกไหม้สายไปที่อยู่บริเวณใกล้เคียงจึงทำให้มีกลุ่มควันจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมเอาไว้ได้แล้ว

โดยที่ชั้นบนของโรงแรมมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มากักตัวรอเข้าประเทศอยู่ประมาณ 80 คน ซึ่งทั้งหมดก็ตกใจและพากันวิ่งลงมาด้านล่างเพื่อความปลอดภัย ซึ่งตอนนี้ปลอดภัยหมดแล้ว และเตรียมให้ผู้กักตัวทั้งหมดกลับขึ้นไปพักด้านบนเหมือนเดิม

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า สาเหตุการเกิดกลุ่มควันในครั้งนี้น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่ยังโชคดีที่เปลวไฟไม่ลุกลามเป็นวงกว้าง และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถเข้าสกัดจุดต้นเพลิงได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้ได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตามจะได้ประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการ เข้ามาตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/7u8B7MEQGeg