น้ำทะลักท่วมวัดจุฬามณี โบถส์จมน้ำ พระประธานโบราณเสียหาย ยังประเมินค่าความเสียหายไม่ได้

จากเหตุการณ์เขื่อนคันดินกั้นน้ำวัดจุฬามณี ตำบลบ้านกุ่ม อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทานแรงน้ำขึ้นสูงของแม่น้ำเจ้าพระยาไม่ไหวได้พังทลายน้ำทะลักเข้าท่วมวัดจุฬามณีเมื่อเช้าตรู่ของวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา ครั้งแรกทางวัดจะพยายามกู้กลับคืนมาแต่ด้วยเชื่อนเจ้าพระยายังเร่งระบายน้ำขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทางวัดต้องยุติการกู้ไว้ก่อน แก้ไขปัญหาได้เพียงทำสะพานทางเดินเชื่อมต่อวัดกับถนนเพื่อให้พระและชาวบ้านเดินทางเข้าประกอบกิจทางศาสนาแทน

น้ำที่ไหลท่วมเข้ามาในวัด สูงมิดกำแพงแก้วของตัวพระอุโบสถ ระดับน้ำสูงกว่า 150 เซนติเมตร น้ำได้ท่วมเจดีย์ราย หอพระไตรปิฏก ประตูทั้งสี่ด้านลงรักปิดทอง พระพุทธรูปปางต่าง ๆ อุปกรณ์ระบบไฟฟ้าของวัดเสียหายทั้งหมด

ที่หนักสุดจะเป็นพระอาทิตติยะวงศ์ เนื้อปูนปั้น ศิลปะอยุธยาตอนปลาย มีอายุเก่าแก่กว่า 400 ปี เป็นพระคู่วัดกรมศิลปกรขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานสำคัญของวัด ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ยังพบภาพจิตกรรมฝาผนังของวัดก็ถูกความชื้นของน้ำทำลายได้รับความเสียหายไปด้วยเช่นเดียวกัน ส่วนมูลค่าความเสียหายยังประเมินไม่ได้

นายชูเกียรติ บุญมี นายกเทศมนตรีตำบลบางบาล เผยกระแสน้ำเจ้าพระยาปีนี้ยังน้อยกว่าปี 54 แต่ความเสียหายความรุนแรงมากกว่าปี 54 เพราะน้ำขึ้นเร็ว ชาวบ้านและตัวเขื่อนดินรับน้ำไม่ทัน จึงเกิดพังเสียหาย ทำให้เนื้อพระประธานในโบสถ์ที่เป็นเนื้อปูนปั้น เปื่อยยุ่ย เนื่องจากมีอายุเก่าแก่ ยากแก่การบูรณะ

ด้านพระครูปัญญาจุฬารักษ์ เจ้าอาวาสวัดจุฬามณี กล่าวถึงการบูรณะพระประธาน อยู่ในความรับผิดชอบของกรมศิลปากร เพราะได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานไว้ ความเสียหายอื่น ๆ ทางวัดต้องเข้าไปดูแลจัดการซึ่งยังประเมินค่าไม่ได้