ตร. เตรียมออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการ "พิยดา" หลอกขายไอโฟน หนึ่งในบัญชีม้าเปิดใจ ถูกหลอกเปิดบัญชี

วันนี้ (30 ก.ย. 64) พล.ต.ต.กานตพงศ์ ชัยรุ่งเรือง ผบก.สอท.2 เปิดเผยความคืบหน้าคดีของนางสาวพิยดา ทองคำพันธ์ อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาหลอกขายโทรศัพท์มือถือทางออนไลน์ว่า จะต้องเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนทั้งหมด เพื่อพิสูจน์ทราบให้ได้ว่าการกระทำผิดครั้งนี้ มีผู้เกี่ยวข้องในกระบวนการ มีใครบ้าง ซึ่งอาจจะมีหรือไม่มี แต่ตำรวจไซเบอร์ จะดำเนินการจริงจังต่อเนื่อง

โดยในส่วนของครอบครัวแฟนพิยดา จะต้องเรียกมาสอบปากคำทั้งแฟน พ่อ และแม่ เพื่อพิสูจน์ทราบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดว่าไม่เกินสัปดาห์นี้ โดยตอนนี้ทางตำรวจ ตั้งข้อสันนิษฐาน 3 ประการ คือ 1.ฝ่ายพิยดาเป็นผู้กระทำ 2.ฝ่ายแฟนหนุ่มเป็นผู้กระทำ 3.รู้เห็นร่วมกระทำด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย โดยจะต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินของบุคคลที่ใกล้ชิดทั้งหมด

ส่วนความคืบหน้าในการตรวจสอบบัญชีม้า ที่พบว่ามีอยู่กว่า 100 บัญชี ซึ่งในการดำเนินคดีกับเจ้าของบัญชี ทางตำรวจต้องตรวจสอบดูรายละเอียด เพราะอาจจะมีในรูปแบบของการถูกยืมไปใช้ แต่ขณะนี้มีความชัดเจนแล้วว่ามีบัญชีม้าที่เกี่ยวข้องกับขบวนการของนางสาวพิยดาอย่างชัดเจน จำนวน 17 บัญชี เตรียมจะดำเนินการออกหมายจับต่อไป ส่วนคนที่เป็นแอดมิน ในการพูดคุยหลอกซื้อขายมือถือ ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยตำรวจไซเบอร์จะตรวจสอบทั้งระบบ ดำเนินการในทุกมิติ

โดยในสัปดาห์นี้ ตำรวจเตรียมออกหมายจับ ผู้ที่รับจ้างเปิดบัญชี ให้นางสาวพิยดา หรือ ที่เรียกว่า บัญชีม้า จำนวน 6 คน จากจำนวนผู้เสียหายที่มาแจ้งความ 17 คดี ส่วนผู้ที่รับจ้างเปิดบัญชีม้า ที่มีหลักฐานแล้วขณะนี้พบว่ามีจำนวนมากกว่า 100 คน ยืนยันไม่เพียงแต่ผู้ร่วมขบวนการเท่านั้นที่ตำรวจจะดำเนินการ เพราะตำรวจยังได้ประสาน ปปง. เพื่อยึดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วยเพื่อตัดวงจรการกระทำผิด

หนึ่งในบัญชีม้าของนางสาวพิยดา ทองคำพันธ์ ซึ่งเป็นนักศึกษาอายุ 20 ปี เปิดใจกับทีมข่าวว่า ตนถูก นางสาวพิยดาหลอกให้เปิดบัญชี  โดยตนได้ติดตามร้านขายโทรศัพท์มือถือ ที่ชื่อ โฟนทูดับบลิวโฟน ทางอินสตราแกรม และ เห็นว่าประกาศรับสมัครแอดมิน เพื่อคุยกับลูกค้า โดยจะได้ค่าคอมมิชชั่น 5 พัน ถึง 8 พันบาท

วันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา จึงตัดสินใติดต่อไปยังแอดมิน ร้านโฟนทูดับบลิวโฟน เพื่อสมัครงานเพราะต้องการหาเงิน และแอดมินตอบกลับมาว่า ให้ตนไปเปิดบัญชีธนาคาร ผ่านทางแอปพลิเคชัน และไปยืนยันตัวตนที่ร้านสะดวกซื้อ โดยหากทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ให้บันทึกหน้าจอส่งมาเป็นหลักฐาน และ ลบแอปพลิเคชันของธนาคารที่เปิดบัญชี ทางร้านจึงจะส่งบัตรตัวแทนและค่าคอมมิชชั่นให้ และดึงเข้ากลุ่มแอดมินของทางร้าน

ตนกับแฟนจึงไปเปิดบัญชี แต่ผ่านไป 2 วัน ทางร้านก็ไม่ติดต่อมา เงินค่าคอมมิชชั่นก็ไม่ได้ จากนั้น วันที่ 19 กรกฎาคม ตำรวจ ได้ติดต่อมา แจ้งว่ามีผู้เสียหายมาแจ้งความว่า ตนขายโทรศัพท์มือถือแล้วไม่ส่งให้ลูกค้า ตนจึงติดต่อไปที่ร้านโฟนทูดับบลิวโฟน แต่ก็ติดต่อไม่ได้ อีกทั้ง แอปพลิเคชันของธนาคารที่สมัครไว้ก็เข้าใช้งานไม่ได้ เพราะถูกเปลี่ยนรหัสผ่าน จึงรู้ตัวว่าถูกหลอก

จากนั้น วันที่ 23 กรกฏาคม แฟนของตนได้รับหมายเรียกพยาน จาก สภ.กันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ และวันที่ 27 กรกฎาคม ได้รับหมายเรียกผู้ต้องหา จาก สภ.เมืองชัยภูมิ โดยระบุว่า เป็นผู้ต้องหาฉ้อโกงคดีหลอกขายโทรศัพท์มือถือ จึงตัดสินใจ นัดผู้เสียหายทั้ง 2 คดีไกล่เกลี่ยและชี้แจงว่าว่าถูกหลอกให้เปิดบัญชี จนผู้เสียหายเข้าใจและยอมถอนแจ้งความ ซึ่งขณะนี้ตนอยู่ระหว่างรวบรวมผู้เสียหายที่ถูกนางสาวพิยดา หลอกให้สมัครงาน และเปิดบัญชี ไปแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ เพื่อดำเนินคดีกับนางสาวพิยดา