ย้อนไทม์ไลน์สอบเครียด "นายเสี่ยว" เปิดปากลักพาตัว "น้องจีน่า"

วันนี้ (8 ก.ย. 64) ที่สถานีตำรวจภูธรแม่แตง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ พลตำรวจโทประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วยพลตำรวจตรีวีรชน บุญทวี ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5, พลตำรวจตรีพิเชษฐ จีระนันตสิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และพันตำรวจเอกธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ร่วมกันสอบปากคำนายเสี่ยว หรือ นายอาผะ อายุ 44 ปี ชาวเมียนมา หลบหนีเข้าเมือง ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุลักพาตัวน้องจีน่า อายุ 1 ปี 11 เดือน ออกไปจากบ้านในหมู่บ้านห้วยฝักดาบ หมู่ที่ 19 ตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 5 ก.ย. 64 แล้วนำไปปล่อยทิ้งไว้ในป่าใกล้หมู่บ้าน

โดยเจ้าหน้าที่และชาวบ้านได้ระดมกำลังกันค้นหาจนพบตัวน้องจีน่าช่วงเที่ยงวันนี้ ในสภาพปลอดภัยดีแต่ร่างกายอ่อนเพลียมาก ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสอบสวนได้ทำการสอบปากคำนายอาผะ หรือนายอาเสี่ยว โดยมุ่งประเด็นเกี่ยวกับสาเหตุแรงจูงใจที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ และมีผู้ร่วมก่อเหตุด้วยหรือไม่อย่างไร เพื่อที่จะสรุปสำนวนแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

ล่าสุด นายอาผะหรือนายเสี่ยว ผู้ต้องสงสัยลักพาตัวน้องจีน่าซัดทอดหลายคน อ้างลูกติดเมียเป็นผู้บงการให้ลักพาตัวน้องจีน่า ล่าสุดลูกของเมียเข้าให้ปากคำ ตำรวจยืนยันกับนักข่าวว่า ไม่เกี่ยวและมีปมขัดแย้งกัน จนมีปากเสียงและชกต่อยกันก่อนที่จะไล่กลับขึ้นไปอยู่ในหมู่บ้านห้วยฝักดาบ จนมาเกิดเหตุ เผยนายอาผะมีพฤติกรรมรุนแรงชอบดื่มเหล้าเมาเพ้อ ไถเงินเมีย ขู่ฆ่าและทำร้าย ชอบเพ้อคนเดียวเรื่องผีสางและมีพฤติกรรมชอบเล่นกับเด็กผู้หญิงเป็นพิเศษ

ทางด้านจะบูสือ น้าชายของน้องจีน่า รู้จุดที่พบตัวเด็ก ได้เดินทางมาให้ปากคำกับตำรวจ ที่สภ.แม่แตง เปิดเผยว่า ที่รู้เพราะไปถามหมอผีมา ซึ่งหมอผีอยู่ที่อำเภอเชียงดาว หมอผีบอกให้ไปตามดูในบริเวณดังกล่าว จึงได้ขึ้นไปในบริเวณนั้นกัน 3 คน หมอผีไม่ได้ให้รายละเอียดที่ชัดเจน ตนเองได้เจอน้องจีน่า และได้รีบโทรไปแจ้งให้กับแม่น้อง ส่วนตัวเชื่อเรื่องผีอยูแล้วว่าเป็นไปตามที่หมอผีบอก ว่ามีคนลักตัวน้องจีน่าไปไว้ตรงจุดนั้น

ขณะที่นางสาวกานต์สินี จะตา ลูกสาวของเมียนายอาผะ (ผู้ต้องหา) ได้ถูกตำรวจเชิญตัวมาสอบปากคำ เนื่องจากถูกนายอาผะซัดทอดว่าเป็นผู้บงการให้นายอาผะลักพาตัวน้องจีน่าไป ซึ่งนางสาวกานต์สินี ซึ่งได้เดินทางมาพร้อมกับนายพิชิต แหล่งอ่อน สามี และลูกสาว ได้เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตำรวจได้พาตัวนายอาผะไปที่บ้านของตนเองและสามีที่อยู่ในพื้นที่บ้านสันปูเลย ต.แม่แตง

โดยนางสาวกานต์สินี กลายเป็นผู้ที่ถูกซัดทอดว่าเป็นผู้บงการ จึงได้เดินทางมาให้ปากคำกับตำรวจที่ สภ.แม่แตง โดยเปิดเผยกับทางสื่อมวลชนว่า ตนเองยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้บงการตามที่ถูกกล่าวหา และเปิดเผยว่า นายอาผะเองเป็นสามีใหม่ของแม่ตนเอง อยู่กินกันที่บ้านของแม่ในหมู่บ้านห้วยฝักดาบ

ก่อนหน้านี้เคยอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน แต่มีปากเสียงกันกับนางสาวกานต์สินี เนื่องจากนายอาผะเป็นผู้ที่มีพฤติกรรมฉุนเฉียว ชอบดื่มสุรา หลังจากเมาจะมีอารมณ์รุนแรง ชอบเพ้อเรื่องผีสางตามความเชื่อของตนเอง บางครั้งก็นั่งเพ้อคุยคนเดียว มีพฤติกรรมที่ชอบเล่นกับเด็กผู้หญิงเป็นพิเศษ และชอบเล่นกับลูกสาวของตนเองด้วย และยังชอบไถเงินแม่ของตนไปซื้อเหล้า เนื่องจากไม่มีอาชีพและรายได้เป็นหลักแหล่ง ที่สำคัญเคยขู่ฆ่าแม่เพื่อเอาเงินไปซื้อเหล้า

ล่าสุด เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา ก่อนเกิดเหตุ ตนเองได้ย้ายลงมาอยู่กับสามีที่บ้านสันปูเลย ตำบลแม่แตง จึงได้พาแม่มาอยู่ด้วย แต่นายอาผะขอมาอาศัยอยู่ด้วย และจากพฤติกรรมดังกล่าวก็ทำให้เกิดมีปากเสียงและชกต่อยกับนายพิชิต แหล่งอ่อน สามี เนื่องจากไม่พอใจเรื่องดื่มสุรา และเรื่องเพ้อเจ้ออยู่ตลอดเวลาและชอบเข้าใกล้ลูกสาวของตน จึงได้ไล่ออกจากบ้าน

นายอาผะก็ขอกลับขึ้นมาอยู่ที่บ้านห้วยฝักดาบ โดยพาเมียขึ้นมาอยู่ด้วย จนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ และที่มาให้ปากคำตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ลักพาตัวน้องจีน่า เพราะช่วงเกิดเหตุ นางสาวกานต์สินี ไปทำงานอยู่ในพื้นที่อื่น และเพิ่งกลับมาวันนี้

ขณะเดียวกัน นายบุญพิภพ ก๋องคำ ซึ่งเป็นอาสากู้ภัย ค้นหาน้องจีน่ามาตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน จนถึงวันนี้ ได้เดินทางมาให้ปากคำกับทางตำรวจว่า ในช่วงเวลาประมาณ 11 นาฬิกาของเมื่อวานนี้ (7 กันยายน) ตนเองได้ขึ้นไปสำรวจจุดที่พบน้องในวันนี้ โดยยืนยันว่าตนเองขึ้นไปถึงจุดที่เป็นกระท่อมที่พบน้อง แต่ไม่มีใครอยู่ ทั้งตะโกนเรียกก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงเชื่อว่าไม่มีใครอยู่จึงได้ลงมา

แต่ปรากฏกว่าในวันนี้ไปพบตัวน้องจีน่าในจุดดังกล่าว จึงตั้งข้อสังเกตุว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ที่น้องจีน่าจะมาอยู่ตรงจุดนั้นตลอดทั้งช่วง 3 วันที่ผ่านมา และส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะมีคนพาน้องไปไว้ตรงจุดนั้นหลังจากที่ตนเองขึ้นไปสำรวจ และไม่น่าเป็นไปได้ว่าเด็กจะอยู่ตรงนั้นข้ามคืนโดยไม่มีรอยยุงกัดหรือการขับถ่ายแต่อย่างใด