"โรม" จี้หน่วยงานสิทธิมนุษยชน ตรวจสอบ จนท.ใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีการสลายการชุมนุม ของเจ้าหน้าที่เมื่อวานนี้ จนมีผู้บาดเจ็บจำนวนมากและมีผู้ถูกจับกลุ่มจำนวน 14 คน ว่า การชุมนุมที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีการยืดเยื้อและมีการเตรียมพร้อมเรื่องของการป้องกันการระบาดของโควิด-19 และการชุมนมเน้นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์

แต่จากการที่ตนได้ลงพื้นที่สังเกตการณ์การชุมนุมตั้งแต่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จนมีการเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล พบว่า เจ้าหน้าที่มีการฉีดน้ำสกัดผู้ชุมนุมจากนั้น มีการยกระดับเป็นการใช้แก๊สน้ำตาจนถึงกระสุนยางซึ่งนอกจากผู้ชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บแล้วยังรวมไปถึงสื่อมวลชนที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฎิบัติการของเจ้าหน้าที่ แม้จะมีการสวมปลอกแขนแสดงสัญลักษณ์ชัดเจนก็ตาม

นายรังสิมันต์ ตั้งข้อสังเกตว่า แก๊สน้ำตาและกระสุนยางมีฤทธิ์รุนแรงมากกว่าทุกครั้ง จึงมองว่าสิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำต่อผู้ชุมนุมนั้นเกินกว่าเหตุ มีการยกระดับมาตรการที่รุนแรง ทั้งแก๊สน้ำตาและกระสุนยาง โดยที่ยังไม่มีเหตุความรุนแรงที่เป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ และใช้โดยไม่เลือกปฏิบัติต่อบุคคล จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บบริเวณดวงตาจากการถูกยิงด้วยกระสุน

ยังแสดงให้เห็นว่าตำรวจใช้อาวุธในการควบคุมผู้ชุมนุมผิดหลักการ ในการเล็งไปบริเวณส่วนหัวหรือใบหน้า ขณะที่การจับกุมและควบคุมตัวก็เป็นการจับกุมโดยไม่ชอบ จึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่ของรัฐ เข้ามาตรวจสอบการสลายการชุมนุมเจ้าหน้าที่ ที่มีการใช้ความรุนแรงซึ่งไม่ใช่เฉพาะการชุมนุมเมื่อวานนี้แต่ยังรวมถึงการชุมนุมย้อนหลังไปด้วย