บวงสรวง 'ทับหลังปราสาทหนองหงส์-เขาโล้น' กลับสู่ไทย จัดแสดงให้ชม 3 เดือน ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร

ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ได้มีการอัญเชิญทับหลัง 2 รายการ คือ ทับหลังพระยมทรงกระบือ ซึ่งเป็นทับหลังของปราสาทหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์ และ ทับหลังปราสาทเขาโล้น จังหวัดสระแก้ว มาทำพิธีบวงสรวงต้อนรับกลับประเทศไทย หลังจากสูญหายไปช่วงราว พ.ศ. 2509-2511 ก่อนไปปรากฎอยู่ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชีย ที่เมืองซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา

โดยทับหลังทั้ง 2 รายการถูกเคลื่อนออกมาจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มายังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ก่อนที่นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วยภัณฑารักษ์ และนักวิทยาศาสตร์ จะเปิดหีบห่อ และทำการตรวจสภาพ และบันทึกข้อมูลเบื้องต้น

อย่างไรก็ตาม ยังมีโบราณวัตถุอีกกว่า 30 รายการ ที่ทางคณะกรรมการติดตามทวงคืน ส่งรายการไปอเมริกา ตอนนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ และมีหลายที่ประสงค์เจรจาขอคืน โดยไม่ดำเนินคดี เพราะถ้าดำเนินคดี ก็จะมีการฟ้องร้องเกิดขึ้น และอาจจะเสียเวลามากกว่านี้

ทั้งนี้ ยืนยันว่าทับหลังทั้ง 2 รายการมีการตรวจสอบแล้วว่าเป็นของจริง โดยเจ้าหน้าที่โฮมแลนด์ ซีคิวริตี้ อินเวสติเกชั่น ได้ตรวจสอบ บันทึกภาพ และควบคุมการขนส่ง

ด้านนายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร ระบุว่า ที่ผ่านมา ทางคณะกรรมการทวงคืนสมบัติชาติ ได้ทำเบาะแส ข้อมูล และหลักฐาน ว่าเป็นโบราณวัตถุมีถิ่นกำเนิดในระเทศไทย ซึ่งกรณีของทับหลังทั้ง 2 รายการ ส่งข้อมูลไปอย่างเป็นทางการเมื่อปี 61 ผ่านทางการทูต โดยกระทรวงการต่างประเทศ ติดต่อประสานงานกับสำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ หรือ homeland Security investigation ขออสหรัฐอเมริกา

ความสำเร็จในวันนี้ เกิดจากความร่วมมือหลายส่วน ทั้งข้อกฎหมายของไทย และสหรัฐ การขับเคลื่อนของนักวิชาการ ผู้บันทึกเรื่องราว ภาพถ่าย และภาคประชาชนท้องถิ่น นำมาซึ่งความภูมิใจ ประชาชน ที่ได้ทับหลังทั้ง 2 ชิ้น

นอกจากนี้ ยังมีโบราณวัตถุอีก 32 รายการ ที่อยู่ระหว่างทำข้อมูลหลักฐาน และแจ้งไปยังหน่วยงานของสหรัฐแล้ว และอีกส่วนอยู่ระหว่างทำข้อมูล ค้นคว้า เกี่ยวกับโบราณวัตถุที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์อเมริกา ซึ่งกรณีของทับหลังทั้ง 2 รายการถือเป็นรูปแบบแนวทางการดำเนินการสำหรับโบราณวัตถุชิ้นอื่นๆ

ส่วนการที่ท้องถิ่นร้องขอให้อัญเชิญทับหลังทั้ง 2 กลับไปประดิษฐานท้องถิ่นนั้น ก็มีความเป็นไปได้ แต่ต้องมีเงื่อนไข โดยตามข้อกฎหมายโบราณวัตถุต้องเก็บรักษาในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เท่านั้น แต่ก็ให้อำนาจอธิบดีกรมศิลปากรให้สามารถนำโบราณวัตถุอยู่นอกพิพิธภัณฑ์ได้ โดยมีข้อตกลงพันธสัญญา

แต่ทั้งนี้ การที่โบราณวัตถุอยู่ที่อื่น ต้องพิจารณาในหลายประเด็น คือ ความพร้อม ปลอดภัยไม่สูญหาย ซึ่งได้มาตรฐานหรือไม่ ตลอดจนการดูแลความเสื่อมของโบราณวัตถุ ต้องมีความพร้อมในการดูแล

โดยหลังเสร็จสิ้นพิธีบวงสรวง จะมีการจัดแสดงเป็นเวลา 3 เดือนที่พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร เพื่อให้ประชาชนได้เข้าชม

ขณะที่ชาวบุรีรัมย์และชาวสระแก้ว เผยอยากให้นำทับหลังดังกล่าว มาตั้งไว้ที่เดิมที่ปราสาทหนองหงส์ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ และปราสาทเขาโล้น อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เข้ามาศึกษา และมีความรู้สึกหวงแหนทรัพย์สมบัติอันมีค่าของชาติ ทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่กำลังตกต่ำอยู่ในขณะนี้ได้ดีอีกด้วย

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/31_jQaowwiM