อาม่าชนะ! คดีสาวแบงก์ยักยอกเงิน 13 ล้าน ปิดตำนาน “อยากได้ก็ไปฟ้องเอา”

จากกรณีที่ นางอรุณพร หวังสันติพร หรือ อาม่า อายุ 85 ปี เจ้าของบริษัท กรุงไทยออดิโอ ถูกพนักงานของธนาคารแห่งหนึ่ง ยักยอกเงินในบัญชีไปกว่า 13 ล้านบาท โดยการทำบัญชีปลอม โดยอาม่าเริ่มฝากเงินตั้งแต่ปี 2558 แต่เงินไม่เข้าบัญชีอาม่าแม้แต่บาทเดียว

จนกระทั่งในปี 2561 ทางธนาคารจับได้ว่าพนักงานคนดังกล่าวยักยอกเงินอาม่า และได้เรียกอาม่ามาไกล่ไกลี่ย โดยคืนเงินให้ 10 ล้านบาท ส่วนอีก 3 ล้าน 6 แสนบาท ให้ไปฟ้องดำเนินคดี ทำให้อาม่าไปฟ้องร้องต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ และ ล่าสุดศาลได้มีคำสั่งให้ธนาคาร คืนเงิน 3 ล้าน 6 แสนบาท พร้อมดอกเบี้ย ร้อยละ 7.5 ต่อปี ตั้งแต่วันที่เริ่มฟ้อง คือ วันที่ 7 กันยายนปีที่แล้ว โดยให้ธนาคารปฏิบัติภายใน 30 วันนั้น

เมื่อวานนี้ (19 พ.ค.) ทนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ พร้อมด้วย นายวิจิตร และนางวันวิสาข์ หวังสันติพร ลูกชายและลูกสะใภ้ของอาม่า ได้เปิดใจกับสื่อมวลชน หลังศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ตัดสินให้ธนาคารคืนเงินจำนวน 3.6 ล้านบาทคืน

โดยนางวันวิสาข์ ลูกสะใภ้อาม่า เล่าว่า หลังอาม่า ทราบคำพิพากษาก็รู้สึกดีใจที่จะได้เงินคืน โดยส่วนตัวก็เชื่อมั่นมาตลอดว่าศาลจะต้องตัดสินอย่างเป็นธรรม เพราะเงินจำนวนดังกล่าวเป็นของครอบครัว แต่รอเวลาว่าขั้นตอนต่างๆ จะแล้วเสร็จเมื่อไหร่เท่านั้น ที่ผ่านมาก็ไม่ได้รู้สึกกังวล เพราะเชื่อว่าเงินจำนวนดังกล่าวทางธนาคารจะต้องคืนให้ แต่เป็นห่วงเพียงสุขภาพของมารดาเท่านั้น เนื่องจากมีอายุมากแล้ว

และตอนที่เกิดเรื่องใหม่ๆ มารดาเองรู้สึกแย่ เพราะให้ความไว้วางใจพนักงานธนาคารคนดังกล่าวมาก เอ็นดูเหมือนเป็นญาติคนหนึ่ง แต่กลับต้องมาเจอเหตุการณ์เลวร้ายอย่างนี้ ส่วนความเชื่อมั่นที่มีต่อธนาคารนั้น ยอมรับว่าไม่เชื่อมั่นและที่ผ่านมาก็ไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหายแต่อย่างใด โดยใช้สิทธิ์ต่อสู้เรียกน้องเงินตัวเองเท่านั้น

ด้านนายวิจิตร ลูกชาย ระบุว่า ส่วนตัวไม่เชื่อมั่นธนาคารอยู่แล้ว เนื่องจากการทำธุรกรรมกับธนาคารเป็นเพียงการสร้างเครดิตให้กับตนเองในการทำธุรกิจเท่านั้น โดยที่ผ่านมาก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรกับธนาคาร เพราะเข้าใจมาแต่เด็กว่า การมีเงินก็ต้องนำไปฝากธนาคาร เพราะเก็บไว้เองก็ไม่ปลอดภัย ส่วนเงินที่ได้คืนมามีแนวคิดกับครอบครัวว่าจะนำบางส่วนไปทำบุญสะเคราะห์ให้กับเรื่องที่เกิดขึ้น

ขณะที่ทนายรัชพล กล่าวว่า หลังจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้ว ทางจำเลยจะต้องทำเงินมาชดใช้ให้กับโจทก์ตามคำสั่งศาลภายใน 30 วัน ถึงแม้ว่าฝ่ายจำเลยจะยื่นอุทธรณ์ก็ตาม หากในชั้นอุทธรณ์ฝ่ายจำเลยชนะฝ่ายโจทก์ก็จะนำเงินไปคืนตามคำสั่งศาลเท่านั้น แต่อย่างไรก็ดีตนขอกลับไปดูรายละเอียดคำพิพากษาของศาลชั้นต้นอีกครั้งและดูว่าฝ่ายจำเลยจะยื่นหรือไม่

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/nydlharTuSo