ครบ 72 ชั่วโมง กัมพูชาหยุดยิง แต่ไม่หยุดบินโดรน ไทยขู่ทบทวนปล่อยตัว 18 เชลยศึก

สถานการณ์ชายแดน ไทย - กัมพูชา กำลังจะครบ 72 ชั่วโมงของการหยุดยิง ในเวลา 12.00น. หรือเที่ยงวันนี้แล้ว ตอนนี้ต้องจับตาว่าหลังผ่าน 72 ชั่วโมงไปแล้ว การหยุดยิงจะเดินหน้าต่อไปหรือไม่ เงื่อนไขสำคัญที่ตกลงกัน เมื่อครบ 72 ชั่วโมงฝ่ายไทยจะพิจารณา เรื่องของการปล่อยตัว 18 นายทหารกัมพูชา

โดยตลอด70 กว่าชั่วโมงที่ผ่านมา ยังมีรายงานความเคลื่อนไหวของฝ่ายกัมพูชาอย่างต่อเนื่องแต่ยังไม่มีเหตุปะทะกัน สถานการณ์โดยรวมเรียกได้ว่าเงียบสงบ (มีรายงานเพียงเสียงหมาหอนในพื้นที่ยามค่ำคืนเท่านั้น)

ซึ่งทางกองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานสถานการณ์ว่าภาพรวมยังไม่มีการปะทะด้วยอาวุธหนัก แต่ยังตรวจพบความเคลื่อนไหวทางทหารของฝ่ายกัมพูชาในหลายพื้นที่โดยเฉพาะการส่งกำลังบำรุงและการใช้โดรนเพื่อการตรวจการณ์

อย่างที่พื้นที่ช่องบกชายแดนจังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ตรวจพบรถบรรทุกของฝ่ายตรงข้ามราว 30 คัน คาดว่าเป็นการส่งกำลังบำรุงและอุปกรณ์เข้าสู่พื้นที่แนวหน้า ขณะที่พื้นที่ช่องอานม้าไม่พบความเคลื่อนไหวที่มีนัยสำคัญ

พื้นที่ชายแดนจังหวัดศรีสะเกษ อาทิ ช่องซำแต / โดนตวล / ภูผี และ พื้นที่ปราสาทพระวิหาร–ผามออีแดง–ห้วยตามาเรีย ตรวจพบรถบรรทุกเข้ามาในพื้นที่ด้วย

ขณะที่พื้นที่ภูมะเขือ ตรวจพบโดรนราว 10 ลำ บินสูงประมาณ 1,000 เมตรคาดว่าเป็นการตรวจการณ์แนววางกำลังของฝ่ายไทย ส่วนพื้นที่ช่องสะงำยังคงเงียบสงบ

ชายแดนจังหวัดสุรินทร์ พื้นที่ช่องจอม ช่องเปรอ และช่องระยี ไม่พบความเคลื่อนไหวที่สำคัญ

แต่พื้นที่ปราสาทคนา ตรวจพบทหารกัมพูชาออกลาดตระเวน คาดว่าเป็นการเฝ้าติดตามการปฏิบัติของฝ่ายไทย และพื้นที่ชายแดนจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ช่องสายตะกู ตรวจพบโดรนราว 50 ลำ คาดว่าเป็นการตรวจการณ์ทางทหารเช่นกัน

ทางกองทัพภาคที่2 ระบุว่า ฝ่ายกัมพูชาลดการใช้อาวุธยิงระยะไกล และหันมาใช้โดรนจำนวนมากเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ ขณะที่ฝ่ายไทยยังคงตรึงกำลังในที่ตั้ง ควบคุมพื้นที่ และรักษาเสถียรภาพของแนวป้องกันได้

ซึ่งเรื่องของการตรวจพบโดรน เมื่อวานนี้ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการยั่วยุและละเมิดมาตรการลดระดับความตึงเครียด อันเป็นการไม่สอดคล้องกับถ้อยแถลงร่วม GBC เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ที่ได้ตกลงร่วมกัน

พฤติกรรมดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีการกระทำในลักษณะยั่วยุ และมีท่าทีเป็นปรปักษ์ต่อฝ่ายไทย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและความปลอดภัยของกำลังพล รวมถึงประชาชนในพื้นที่แนวชายแดน กองทัพบกอาจมีความจำเป็นต้องพิจารณาทบทวนการดำเนินการเกี่ยวกับการปล่อยตัวกำลังพลฝ่ายกัมพูชาจำนวน 18 นาย ตามสถานการณ์และพฤติกรรมที่เกิดขึ้น

ทำให้จนถึงตอนนี้ ต้องจับตาว่าเมื่อครบ 72 ชั่วโมงทั้งสองฝ่าย จะมีท่าทีอย่างไร ไทยจะปล่อยตัวกำลังพลฝ่ายกัมพูชา 18นาย เลยหรือไม่ ขณะที่กัมพูชาเองก็ต้องแสดงความจริงใจอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ตกค้างตามแนวชายแดนจำนวนมากเพื่อให้ข้ามกลับมาอย่างปลอดภัยด้วย

ซึ่งในการเจรจา 3ฝ่ายระหว่างไทย- กัมพูชา โดยมีจีนเป็นตัวกลางเมื่อวานนี้ คุณสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าการพูดคุยเป็นไปด้วยดี ถ้าหยุดยิง 72 ชั่วโมงไม่มีปัญหาอะไร เราก็จะเริ่มขบวนการมอบทหารกัมพูชา 18 คนให้กับกัมพูชา ซึ่งจะดำเนินการโดยมีคณะกรรมการกาชาดสากล (ไอซีอาร์ซี) เป็นสักขีพยานด้วย เพื่อให้รับรองว่าระหว่างที่ทหารกัมพูชาอยู่ในการดูแลของฝ่ายไทยเขาได้รับการปฏิบัติอย่างดี

จากนั้นก็ขอให้กัมพูชาพิจารณาเรื่องการอำนวยความสะดวกถ้าเกิดมีคนไทยติดค้างที่ปอยเปต ก็ขอให้อำนวยความสะดวกให้คนไทยได้เดินทางกลับมาได้โดยปลอดภัย

และขั้นต่อไปก็คือการลดการเผชิญหน้า ลดกำลังทหาร ทั้งสองฝ่าย ลดอาวุธหนัก ถอนอาวุธหนัก การเก็บกู้ทุ่นระเบิด เและร่วมมือกันปราบปรามขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ ขบวนการสแกมทั้งหลาย แล้วนำมาสู่สุดท้ายคือการทำงานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ เจบีซี ในการพิจารณาเรื่องปักปันเขตแดนแต่ก็ต้องใช้เวลา

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/1hPBgn_0hMM