สังคม
ครอบครัวเศร้า รู้ข่าว "พลฯ ภานุพัฒน์-จ.ส.อ.สำเริง" พลีชีพ แม้เสียใจแต่ภูมิใจที่ได้รับใช้ชาติ
3 ชั่วโมงที่แล้ว
28 views
ขณะที่การปะทะในพื้นที่ที่ปราสาทตาควาย จ.สุริเมื่อคืนนี้ จนเป็นเหตุให้ ทหารไทย พลีชีพ 2 นาย จนถึงขณะนี้ ฝ่ายเขมรยังคงพยายามพุ่งเป้าที่ปราสาทตาควายอย่างต่อเนื่อง แม้ฝ่ายไทย จะสามารถเข้าควบคุมพื้นที่บริเวณตัวปราสาทตาควายได้แล้วก็ตาม
โดยเมื่อคืนนี้ เวลา 21.55น. กองทัพภาคที่2 รายงาน สถานการณ์การปฏิบัติการทางทหาร ในพื้นที่ตาควาย และเนิน 350ว่า เกิดสถานการณ์การปะทะ กันอย่างต่อเนื่อง ฝ่ายไทยยังคงปฏิบัติภารกิจควบคุมพื้นที่ และสกัดกั้นการรุกคืบของฝ่ายตรงข้ามอย่างต่อเนื่อง
เหตุการณ์พื้นที่ตาควายเมื่อคืนที่ผ่านมา มีทหารไทย 2 นาย พลีชีพเพื่อปกป้องชาติ คือ
- จ.ส.อ. สำเริง คลังประโคน สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23
- พลทหาร ภานุพัฒน์ เสาร์สา สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23
ส่งผลให้ตัวเลขกำลังพลที่พลีชีพปกป้องชาติตอนนี้เพิ่มเป็น 19 นายแล้ว โดยทางกองทัพบกได้โพสต์ขอร่วมสดุดีทหารกล้าทั้ง 19 นาย ผู้ยืนหยัดจนวาระสุดท้ายที่สละชีวิตเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ประชาชน และแผ่นดินเกิด เกียรติศักดิ์นักรบ ไม่ได้วัดจากชัยชนะ แต่วัดจากการยืนหยัดปกป้องผืนแผ่นดินจนลมหายใจสุดท้าย ขอให้ดวงวิญญาณของวีรชน สู่สัมปรายภพอันสงบ ท่ามกลางความเคารพ เทิดทูน และสำนึกในเกียรติศักดิ์นักรบไทย
ทั้งนี้ ทางกองทัพภาคที่ 2 รายงานว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทหารไทยได้เข้าควบคุมพื้นที่บริเวณตัวปราสาทตาควาย และดำเนินการสถาปนาความมั่นคงในพื้นที่โดยรอบ มีการจัดวางมาตรการป้องกันพื้นที่ตามหลักยุทธวิธีเพื่อเสริมความมั่นคงและความปลอดภัยของกำลังพล เช่นเดียวกับ ที่ พื้นที่เนิน 225 ฝ่ายไทยยังคงตรึงกำลังเพื่อควบคุมเส้นทางยุทธศาสตร์สำคัญและป้องกันการเพิ่มเติมกำลังของฝ่ายตรงข้าม
แต่จากความพยายามของฝ่ายตรงข้ามในการรุกคืบเข้ามาในพื้นที่ ฝ่ายไทยจำเป็นต้องควบคุมสถานการณ์ โดยมีการยิงสนับสนุนเพื่อรักษาพื้นที่ป้องกันการเพิ่มเติมกำลังและอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายตรงข้าม
ซึ่งปราสาทตาควายเช้านี้มีการเผย คลิปชัดๆ ทหารไทยเข้ายึดคืนพื้นที่ปราสาทตาควายสำเร็จในระยะใกล้ชิด ทางเพจ Army Military Force บอกว่า ดูซิมัน (เขมร) ยังจะบอกว่า AI อีกมั้ย?
ขณะที่ครอบครัวของพลทหารภานุพัฒน์ หลังรู้ข่าวลูกชายพลีชีพที่เนิน 350 ถึงกับช็อกต้องส่งโรงพยาบาล
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับคุณแม่และครอบครัวของ พลทหารภานุพัฒน์ ที่โรงพยาบาลวังหิน หลังจากคุณแม่ทราบข่าวว่าลูกชายเสียชีวิตในสมรภูมิเนิน 350 ทำให้เกิดอาการช็อก ต้องส่งตัวเข้าโรงพยาบาลเป็นการด่วน ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว
นางพิชญ์สินี เสาร์สา อายุ 41 ปี แม่ของพลทหารภานุพัฒน์ เปิดผยว่า ตนมีลูกทั้งหมด 3 คน โดยพลทหารภานุพัฒน์ เป็นลูกชายคนโต สมัครเป็นทหารผ่านระบบออนไลน์ เมื่ออายุ 18 ปี ปกติลูกชายจะโทรศัพท์มาหาแม่เกือบทุกวัน แต่ครั้งนี้ขาดการติดต่อไปนานถึง 2 วัน
แม่บอกว่า ครั้งล่าสุดที่ได้คุยกัน ลูกบอกว่ากำลังขนระเบิดขึ้นแนวหน้า และหลังจากนี้จะมีการรบกันอย่างหนัก พร้อมพูดกับแม่เสมอว่า แม่ต้องเผื่อใจไว้ หากลูกเป็นอะไรไป แม่ต้องเข้มแข็งนะ ตนเองก็ให้กำลังใจลูกตลอด
ความฝันของลูกชาย คืออยากเป็นทหารและเรียนต่อ จะได้สอบเข้าโรงเรียนนายสิบ มียศมีตำแหน่งที่สูงขึ้น และหวังอยากเป็นเสาหลักหาเงินส่งเสียน้องทั้ง 2 คนให้ได้เรียนหนังสือสูงๆ โดยตอนที่ลูกเรียนอยู่ชั้น ม.2 ถูกเพื่อนแกล้ง จนไม่กล้าไปเรียน แต่ได้ไปเรียน กศน. จนจบ ม.3 ตอนแรกเขาไม่รู้ว่าตัวเองอยากเป็นอะไร แม่เลยบอกให้สมัครทหารทางออนไลน์
ก่อนที่ลูกจะเสียชีวิตไม่ถึง 1 เดือน ลูกเคยฝันและมาเล่าให้แม่ฟังว่า ฝันเห็นผู้เฒ่าผู้แก่ในบ้านมาหา และให้กราบเท้า พร้อมบอกให้กลับบ้าน แต่ในความฝันลูกชายตอบกลับไปว่า จะกลับได้ยังไง ในเมื่อยังทำหน้าที่รับใช้ชาติอยู่ เขาบอกว่าจะเอาปราสาทตาควายของไทยคืนมา
ตอนนั้นแม่ก็คิดว่าเป็นฝันที่ไม่ดีแล้ว แต่ไม่กล้าบอกลูก ก็ได้แต่บอกลูกว่า ถ้าอยากกลับบ้านให้บอกแม่ได้เสมอ แต่ลูกชายบอกว่า ไม่ได้หรอกแม่ เขารักชาติไปแล้ว ถ้าเขาตายเขาก็ภูมิใจ ตอนนี้แม่ก็ภูมิใจในตัวเขา ที่เขาได้ทำหน้าที่อย่างที่เขาพูด
ส่วนน้องสาวของพลทหารภานุพัฒน์ อายุ 15 ปี บอกว่า รักพี่ชายคนนี้มาก เพราะพี่สมัครเป็นทหาร ทำงานหนัก เพื่อส่งเสียน้องๆ ได้เรียนหนังสือสูงๆ รู้สึกภูมิใจพี่ชายคนนี้ หากเป็นไปได้ตอนนี้ อยากได้พี่ชายกลับคืนมาอีกครั้ง
หนึ่งในทหารกล้าที่เสียชีวิตบนสมรภูมิเนิน 350 อีกคน คือ จ่าเริง ล่าสุดแม่รู้ข่าวร้องไห้เสียใจมาก แต่ก็ภูมิใจที่ลูกได้ทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดิน
เช้านี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ ต.ปังกู อ.ประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านของ จ.ส.อ.สำเริง คลังประโคน อายุ 38 ปี สังกัดกองทัพทหารราบที่ 3 กรมทหาราบที่ 23 (ร.23 พัน3) เมื่อคืนนี้ได้พลีชีพปกป้องอธิปไตย บนเนิน 350 บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ โดยเช้านี้พบว่าทางครอบครัวได้เตรียมสถานที่จัดงานศพ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า โดยเฉพาะแม่ที่ยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสียเสาหลักของครอบครัว
นางอุ่น อายุ 79 ปี แม่ของจ่าเริง เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ระหว่างเกิดการสู้รบ ลูกชายเป็นห่วงความปลอดภัยของแม่มาก จึงขอให้ไปพักอยู่ที่วัดก่อน และบอกว่าจะกลับมาหาแม่เร็วๆ นี้ แต่สถานการณ์การรบยืดเยื้อและทวีความรุนแรง จนกระทั่งรับข่าวร้ายว่าลูกชายได้จากไปแล้ว แม้หัวใจจะแตกสลายมาก แต่แม่ก็ภูมิใจที่ลูกชายได้ทำหน้าที่ปกป้องผืนแผ่นดินไทย แม้ในนาทีสุดท้ายของชีวิต
ด้านนางสาวชงโค อายุ 48 ปี พี่สาวของจ่าเริง กล่าวว่า น้องชายมีครอบครัว มีลูก 4 คน เขาสมัครเป็นทหารด้วยความสมัครใจ โดยตั้งใจอยากรับใช้ชาติในพื้นที่เสี่ยง และน้องภูมิใจมากที่ได้เข้าไปรบในครั้งนี้ และก่อนเสียชีวิตน้องได้โทรมาหาบอกว่า "ผมทำสำเร็จแล้ว ยึดปราสาทตาควายได้แล้ว เป้าหมายต่อไปคือเนิน 350 จะต้องทำให้ได้"
และน้องชายยังบอกอีกว่า สถานการณ์การรบจริงโหดร้ายกว่าในข่าวที่ออกสื่อ แต่ไม่กลัวจะทำให้ดีที่สุด ครั้งนี้ถือว่าน้องได้ทำหน้าที่สมบูรณ์ที่สุดแล้ว ตนอยากให้การสูญเสียครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย
ขณะที่เพื่อนๆ ในเฟซบุ๊กได้โพสต์สดุดีจ่าเริง อย่างเช่นเพจนี้ระบุว่า ไม่อยากเชื่อ ไม่อยากคิด ว่ารูปพี่ให้ผมโพสต์ เมื่อ 4 เดือนที่แล้ว แต่มาวันนี้ พี่จากผมไปแล้ว ใจพี่มันสุดยอดแล้วนักรบเนิน 350 พี่จะอยู่ในความทรงจำน้องตลอดไป อีกเพจบอกว่า น้องทำเต็มที่แล้ว หลับให้สบายนะครับทหารกล้า
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Yj-zXRtyMB8
แท็กที่เกี่ยวข้อง ทหารไทย ,ชายแดนไทยกัมพูชา ,ไทยกัมพูชา