สังคม

ไทม์ไลน์ชายแดนไทย-กัมพูชาปะทะเดือด! - ทอ.ส่ง F-16 โจมตีเป้าหมายทางทหาร

2 ชั่วโมงที่แล้ว

22 views

เริ่มด้วยสถานการณ์ชายแดน ล่าสุดตึงเครียด เรียกว่าเป็นการรบเต็มรูปแบบกันแล้ว ตั้งแต่เช้ามืดจนถึงเวลานี้ โดยกองทัพภาคที่ 2 รายงานว่ามีจุดปะทะตลอดแนวใน 5 พื้นที่ และพบทหารไทย เสียชีวิตแล้ว 1 นาย



นี่เป็น 5 พื้นที่จุดแนวปะทะแนวชายแดน ตามที่ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานสรุปภาพรวม ไว้ช่วงประมาณ 9 โมงที่ผ่านมา ตอนนี้กระจายใน 5 พื้นที่ คือ ช่องอานม้า เนิน 677 ห้วยตามาเรีย พื้นที่คณา และ ปราสาทตาเมือนธม



โดยกัมพูชา มีการยิงจรวด BM-21 เข้ามาโจมตี ขณะที่ฝ่ายไทยได้ส่งเครื่องบิน F-16 เสิร์ฟไข่ จุดฐานปฏิบัติการทหารของกัมพูชาเพื่อตอบโต้



ไล่เรียงเหตุการณ์ ชายแดนเริ่มตึงเครียดตั้งแต่ช่วงบ่ายเมื่อวาน 14.15 น. ฝ่ายกัมพูชา ได้เปิดฉากยิงด้วยกระสุนปืนเล็กใส่ชุดรักษาความปลอดภัย ขณะกำลังดำเนินการปรับปรุงสำรวจเส้นทางในเขตไทย ส่งผลให้ทหารไทยบาดเจ็บ 2 นาย คือ สิบเอกอนุชาติ เรือนคำ ถูกยิงบริเวณขา และ พลทหารพรชัย จำปากุม กระสุนถูกเสื้อเกราะบริเวณหน้าอก มีรอยพกช้ำ แน่นหน้าอก ซึ่งกองทัพภาคที่2 ตรวจสอบบาดแผลขั้นต้น คาดว่าอาจถูกยิงโดยปืนซุ่มยิง



เมื่อวานนี้มีการปะทะ กันตั้งแต่ 14.16 น.-14.50 น. เหตุการณ์ยุติ และยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด



ซึ่งสถานการณ์มีความไม่แน่นอน อาจขยายวงกว้างมากขึ้น ทางกองทัพภาคที่ 2 จึงมีคำสั่งอพยพด่วนประชาชน 4 จังหวัดชายแดนทันทีตั้งแต่เมื่อวานช่วงเย็น



โดยศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้อัพเดตข้อมูลเป็นระยะ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ พบว่ากัมพูชา มีการเตรียมพร้อมสู้รบขั้นสูงสุด มีการเคลื่อนย้ายจรวดหลายลำกล้องประชิดชายแดน รวมถึงยั่วยุตลอดทั้งคืน



จนกระทั่งเช้ามืด 05.05 น. กัมพูชายิงด้วยอาวุธปืนเล็กและอาวุธวิถีโค้ง ใส่ทหารไทย ในพื้นที่ช่องอานม้า ทำให้ฝ่ายไทย ยิงตอบโต้ตามกฎการปะทะ และตอนนี้ขยายวงกว้าง ไปใน 5 พื้นที่



ช่วง 07.00 น. ในพื้นที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี กองทัพบก ได้รับรายงานว่า กัมพูชา มีการใช้อาวุธปืนใหญ่และเครื่องยิงลูกระเบิด ใส่ฐานอนุพงศ์ เป็นเหตุให้ทหารไทย เสียชีวิต 1 นาย และได้รับบาดเจ็บ 4 นาย



ขณะที่ปฏิบัติการของกองทัพอากาศ เช้านี้ 07.10 น. ฝ่ายไทยเริ่มใช้ F-16 กระทำต่อเป้าหมายคือที่ตั้งยิงอาวุธ ของฝ่ายเขมร ทำให้ล่าสุด สามารถทำลายกระเช้าเขมร ที่เนิน 350 จุดสูงข่มของปราสาทตาควายได้สำเร็จ



พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกเปิดเผยว่า ฝ่ายไทยเริ่ม มีการใช้อากาศยาน กระทำต่อเป้าหมายคือที่ตั้งยิงอาวุธ สนับสนุนของฝ่าย กัมพูชา บริเวณพื้นที่ช่องอานม้า



เนื่องจากฝ่ายเขมรมีการใช้อาวุธปืนใหญ่ และเครื่องบินลูกระเบิด กระทำต่อ ฝ่ายไทย ที่บริเวณ ฐานอนุพงศ์เป็นเหตุให้มีกำลังพลเสียชีวิตจุดนั้น 1 นาย บาดเจ็บจำนวน 2 นาย



โดยกองทัพอากาศได้ใช้เครื่องบิน F-16 ในการสนับสนุนภาคพื้น โดยเป้าหมาย อยู่ที่ปืนใหญ่ฝั่งกัมพูชาที่ยิงเข้ามาฝั่งไทย ขณะนี้กำลังปฎิบัติภารกิจ



เป้าหมายการปล่อยอาวุธจากอากาศยาน 3 พื้นที่ เบื้องต้น

1. อานม้า

2. ปราสาทคนา

3. เสาวิทยุ พื้นที่ใกล้ปราสาท พระวิหาร



เพจกองทัพบก ทันกระแส ยังมีการโพสต์ภาพเครื่องบินขับไล่ พร้อมข้อความระบุว่า ไข่เช้า เสิร์ฟด่วน ไข่เน้นเต็มใบ มั่นใจคุณภาพ



นอกจากนี้ ยังมีปฏิบัติการที่ เนิน 350 เหนือประสาทตาควาย โดย เพจกองทัพบก ทันกระแส ระบุว่า ขณะนี้ เนิน 350 ปราสาทตาควาย กระเช้ากัมพูชา เรียบไม่เหลือแล้ว



ทางด้านพลอากาศโท จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า การปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการปฏิบัติการร่วมกับกองกำลังสุรนารี ในการตอบโต้การปฏิบัติการทางทหารของฝ่ายกัมพูชา ที่เป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อความมั่นคงของไทย รวมทั้งต่อความปลอดภัยของประชาชนที่อยู่อาศัยในบริเวณพื้นที่ชายแดน และกำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว



จากข้อมูลการตรวจสอบทางยุทธการพบว่า มีการเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์หนัก การจัดกำลังรบ และการเตรียมการสนับสนุนด้านการยิงของกัมพูชา ซึ่งอาจนำไปสู่การขยายวงของการปฏิบัติการทางทหารในลักษณะที่คุกคามเสถียรภาพในพื้นที่ชายแดนไทย



จึงนำไปสู่การใช้กำลังทางอากาศ เพื่อยับยั้งและลดศักยภาพทางทหารของกัมพูชาในระดับที่จำเป็นต่อการรักษาความมั่นคงของรัฐ และความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่



ทั้งนี้ กองทัพอากาศได้ปฏิบัติภารกิจอย่างรอบคอบ โดยกำหนดเป้าหมายเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานทางทหาร คลังอาวุธ ศูนย์บัญชาการ และเส้นทางสนับสนุนการรบที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรม ซึ่งถูกประเมินว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง พร้อมทั้งยังตรวจสอบผลการโจมตี เพื่อยืนยันว่าการปฏิบัติการเป็นไปตามหลักสากลของการป้องกันตนเอง



กองทัพอากาศยืนยันว่า จะปฏิบัติการทางอากาศบนพื้นฐานของความรับผิดชอบ และจะตอบสนองต่อภัยคุกคามที่มีผลกระทบต่อเอกราชอธิปไตย และความปลอดภัยของประชาชน ภายใต้เป้าหมายสูงสุด คือการรักษาเสถียรภาพในภูมิภาคและป้องกันไม่ให้สถานการณ์ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

แท็กที่เกี่ยวข้อง  ชายแดนไทยกัมพูชา ,ไทยกัมพูชา

คุณอาจสนใจ

Related News