อึ้งทั้งวัด! ยายตายแล้วฟื้น เคาะโลงเรียกให้ช่วย แพทย์ตรวจร่างกาย ยันไม่พบภาวะหยุดหายใจ แค่น้ำตาลตก

แพทย์ยืนยัน ยาย 65 ปี ไม่ได้ตายแล้วฟื้น เพราะไม่พบสัญญาณการหยุดหายใจ หรือหัวใจหยุดเต้น แต่แค่น้ำตาลตก ทำญาติเข้าใจผิด



เมื่อวานนี้ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายไพรัช ไวยาวัจกร วัดราษฎร์ประคองธรรม ตำบลเสาธงหิน อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรีว่า มีครอบครัวนำร่างยายชลธิรศน์ อายุ 65 ปี ที่เสียชีวิต ใส่โลงศพขึ้นรถมาจากพิษณุโลก มาประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดใน "โครงการบ้านหลังสุดท้าย" แต่ก่อนจะนำร่างเข้าเมรุ ยายฟื้นคืนชีพขึ้นมา แล้วเคาะโลงเรียกให้ช่วย สร้างความตระหนกตกใจให้กับครอบครัว และเจ้าหน้าที่ของวัดเป็นอย่างมาก



นายมงคล อายุ 57 ปี น้องชาย เล่าว่า ช่วงเย็นของวันที่ 22 พฤศจิกายน พี่ สาวหมดสติในสวนมะพร้าวในท่านั่ง ครอบครัวตรวจดูพบว่า ตัวเย็น และไม่หายใจ จึงเชื่อว่าเสียชีวิตแล้ว จีงได้ไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน ให้ช่วยลงนามรับรองการเสียชีวิต โดยผู้ใหญ่บ้านไม่ได้มาตรวจร่างด้วยตนเอง



จากนั้นได้ปฏิบัติตามคำสั่งเสียของพี่สาว ที่เคยบริจาคร่างกายไว้กับโรงพยาบาลจุฬาฯ โดยนำร่างใส่โลงโดยไม่ฉีดฟอร์มาลีน คลุมผ้าใบ แล้วเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เป็นระยะทางกว่า 400 กิโลเมตร ทันที แต่เมื่อถึงโรงพยาบาลกลับไม่สามารถส่งมอบร่างได้ เพราะไม่มีใบบันทึกประจำวัน หรือหลักฐานรับรองการตายจากตำรวจ พร้อมทั้งสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์



ญาติ ๆ จึงพาไปแจ้งการเสียชีวิตที่ สน.ยานนาวา ตำรวจบอกว่า เหตุเกิดที่ไหนต้องแจ้งที่นั้น จึงได้ค้นข้อมูลในอินเทอร์เน็ต พบว่าที่วัดแห่งนี้มาโครงการฌาปนกิจฟรี จึงพาร่างพี่สาวมาที่นี่ แต่เมื่อมาถึงพี่สาวฟื้นขึ้นมานอนหายใจรวยริน ตนรู้สึกแปลกใจมาก ตื่นเต้น และดีใจมาก ที่พี่สาวยังมีชีวิตอยู่ เชื่อว่า น่าจะมีปาฏิหาริย์ และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในวัดราษฎร์ประคองธรรม ช่วยพี่สาวตนให้ฟื้นขึ้นมา



ด้านนายธรรมนูญ 27 ปี พนักงานรับศพวัดราษฎร์ประคองธรรม กล่าวว่า ตนเพิ่งไปรับศพและกลับมาถึงที่วัด มีคุณลุงวิ่งมาหา และบอกว่า นำศพมาเผา จังหวะที่กำลังจะเปิดผ้าใบ ได้ยินเสียงคนเคาะมาจากในโลง เมื่อเปิดมาดู กลับพบว่าคุณยายฟื้นขึ้นมา จึงรีบช่วยกันนำร่างออกคุณยายออกมาจากโลงและนำส่งโรงพยาบาลบางใหญ่ ซึ่งคุณยายรู้สึกตัวดี แต่อ่อนเพลียและไม่มีแรง ถาม-ตอบไม่ได้ ซึ่งเกิดมาตนไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย



นายไพรัช สุดธูป ไวยาวัจกรวัดราษฎร์ประคองธรรม กล่าวว่า ตอนเปิดฝาโลงพบว่า คุณยายยังมีลมหายใจ ยังพยักหน้าได้ มีอาการอ่อนเพลียจากการเดินทาง ทำให้เจ้าหน้าที่แตกตื่นและตกใจมาก ขณะที่ พระกิตติวชิรธาดา เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ประคองธรรม และเจ้าคณะอำเภอบางใหญ่ รีบเรียกรถพยาบาลมาช่วยเหลือคุณยาย และนำตัวส่งโรงพยาบาลบางใหญ่ เพื่อตรวจสุขภาพ พร้อมออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด ที่วัดทำศพมามากมาย แต่ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ยินดีกับญาติที่ไม่ต้องสูญเสียใครไป



ต่อมาทางโรงพยาบาลบางใหญ่ ได้ติดต่อนายมงคล ให้มารับพี่สาวกลับไปรักษาตัว พักฟื้นที่บ้านได้ เนื่องจากตรวจอย่างละเอียดแล้ว ไม่พบภาวะหยุดหายใจ หรือหัวใจหยุดเต้น มีเพียงภาวะน้ำตาลตกเท่านั้น นายมงคลจึงพาพี่สาวกลับมากราบขอบคุณเจ้าอาวาส ที่เมตตาให้ความช่วยเหลือ ซึ่งเจ้าอาวาสได้ขอร้องให้ยายชลธิรศน์ อยู่รักษาตัวให้หายดีก่อน แล้วค่อยพากลับบ้าน หลวงพ่อพร้อมช่วยเหลือค่ารักษา จากนั้นก็ให้รถกู้ภัยนำยายไปส่งโรงพยาบาลบางใหญ่อีกคั้ง



ล่าสุด นายมงคลได้เดินทางกลับพิษณุโลกไปดูแลแม่ที่ป่วยขาหักแล้ว ส่วนยายชลธิรศน์ จะมีน้องสาวที่อยู่ในพื้นที่นนทบุรี มาดูแลเฝ้าไข้ต่อ คาดว่าจะต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลอีก 3 วัน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/VIxhGbZlcAo