เสียงจากชาวอีสานใต้ ต้องอยู่อย่างระแวง วอนหากปะทะรอบนี้ ขอทหารไทยจัดการให้จบ

เช้านี้บรรยากาศที่บ้านหนองหญ้าแก้ว กลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ชาวบ้านยังระแวง และติดตามข่าวสารจากผู้นำชุมชนอย่างใกล้ชิด

เช้านี้ ผู้สื่อข่าวไปที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว พบว่า สถานการณ์เงียบสงบ ชาวบ้านออกมาทำกิจวัตรประจำวันของตนเองตามปกติ แต่ก็ยังหวาดระแวง ยังต้องติดตามข่าวสารจากชุมชน และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด

ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ตกใจที่เมื่อวานผู้ใหญ่บ้านประกาศเสียงตามสายให้หลบเข้าบังเกอร์ ก็รีบวิ่งเข้าบังเกอร์ที่อยู่ใกล้ แล้วกลับออกมาช่วงดึก ๆ หลังสถานการณ์คลี่คลายแล้ว ตอนนี้ยอมรับว่ากังวล อยากให้เจ้าหน้าที่จะทำอะไรก็ทำให้เด็ดขาด จะได้ใช้ชีวิตกันอย่างปกติ

อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนที่ผ่านมา ในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว มีการจัดงานศพทำให้มีชาวบ้านมารวมตัวกัน พอได้ยินเสียงผู้ใหญ่บ้านประกาศเสียงตามสาย ก็พากันวิ่งเข้าบังเกอร์ กว่าจะได้กลับบ้านกันอีกครั้งก็เป็นช่วงดึก ทำให้เช้าวันนี้จะเห็นภาพเด็ก ๆ อยู่ในหมู่บ้าน เพราะนอนดึกจังไม่ได้ไปโรงเรียน

ขณะเดียวกันเมื่อช่วงเช้า พันตำรวจเอก จตุรภัทร สิงหัษฐิต รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ได้ปล่อยแถวตำรวจชุดกองร้อยควบคุมฝูงชน 200 นาย เตรียมพร้อมปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย ในพื้นที่แนวชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว-บ้านหนองจาน ตามแผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง

ขณะที่บรรยากาศที่อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ เช้านี้สถานการณ์ยังปกติ ชาวบ้านส่วนใหญ่เริ่มชิน และมีประสบการณ์จึงเตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน

ผู้สื่อข่าวไปที่โรงเรียนบ้านโคก ระเหย ซึ่งอยู่ในรัศมีพื้นที่สีแดง พบว่า ครูนักเรียนพากันมาทำความสะอาดหลุมหลบภัย เพื่อเตรียมความพร้อมหากมีเหตุปะทะเกิดขึ้นจริง ซึ่งครูที่โรงเรียน บอกว่า หลังมีเหตุปะทะเมื่อวันที่ 24 ถึง 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา โรงเรียนได้ซ้อมแผนเผชิญเหตุ เพื่อรองรับเรื่องภัยสงครามไว้แล้ว ทั้งการซ้อมหลบระเบิด ซ้อมเคลื่อนย้ายนักเรียนไปยังหลุมหลบภัย โดยซ้อมมาแล้ว 3 ครั้ง ซึ่งหลุมหลบภัยของโรงเรียน ยังมีพื้นที่พอให้ชาวบ้านมาหลบได้อีกด้วย

ขณะที่นางอำไพ อายุ 65 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ที่บ้านได้สร้างหลุมหลบภัยเป็นของตัวเอง หากมีเหตุเกิดขึ้นอีกครั้ง ก็จะไม่ขออพยพ เพราะเป็นห่วงบ้านเป็นห่วงสัตว์เลี้ยง ยอมรับว่า ตอนนี้มีความรู้สึกเฉยๆ เหตุการณ์ครั้งที่ผ่านมาถือว่าเป็นประสบการณ์อย่างดี ตอนนี้ได้เตรียมการไว้พร้อมแล้ว ตั้งแต่เร่งเกี่ยวข้าวเสร็จถึงแม้จะยังไม่สุกดีแต่ก็ต้องเกี่ยว และอยากจะให้ทหารไทยจัดการให้เด็ดขาดหากเกิดขึ้นอีก

ส่วนที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เช้านี้พบว่าชาวบ้านยังใช้ชีวิตตามปกติ โดยพากันเร่งเกี่ยวข้าว ตากข้าว แม้จะมีความหวั่นใจว่า สถานการณ์จะบานปลายจนมีการปะทะกันในเร็ว ๆ นี้ ท่ามกลางเสียงประกาศของผู้นำชุมชน ที่คอยเตือนชาวบ้านว่า อย่าตื่นตระหนก และให้เตรียมพร้อมตลอดเวลา

นายสมพาน อายุ 64 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ บอกว่า จากเหตุการณ์ที่สระแก้ว ก็อยากให้ยิงลามกันมาถึงบ้านเรา จะได้จบ ๆ เพราะมันคาราคาซังหลายเดือนแล้ว เขมรเชื่อใจไม่ได้ เจรจายังไงก็ไม่ได้เรื่องได้ผล อยากให้จบเร็ว ๆ ปะทะไปเลย แม้ยังมีนาอีกแห่งที่ยังไม่เกี่ยวข้าว แต่ก็อยากให้จัดการให้จบไปเลย ตนเตรียมพร้อมอพยพตลอดเวลา โดยเฉพาะการอพยพคนเฒ่าคนแก่ ส่วนพวกเราผู้ชายก็อยู่ ไปช่วยแนวหน้าก็ยังได้ มันเหลืออดแล้ว

ที่อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ สถานการณ์ก็ยังคงเงียบสงบ ทำให้โรงเรียนบ้านภูมิซรอลวิทยา ยังเปิดทำการเรียนการสอน และเด็ก ๆ ก็ยังมาเรียนหนังสือกันตามปกติ

นายทศพร คำปลิว ผอ.โรงเรียนบ้านภูมิซรอลวิทยา เผยว่า โรงเรียนของเราอยู่ในพื้นที่ใกล้แนวชายแดนก็จริง แต่เราไม่ตื่นตระหนก เพราะที่ผ่านมาได้มีการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ และการอพยพอยู่เสมอ เราทำงานร่วมกับทหาร อำเภอ และหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อให้มั่นใจว่า หากมีเหตุปะทะเกิดขึ้นจริง จะสามารถอพยพนักเรียนออกจากพื้นที่ได้อย่างปลอดภัย

ปัจจุบันสภาพจิตใจของคณะครูและนักเรียนยังคงดีอยู่ ทุกคนเข้าใจสถานการณ์และไม่ตื่นตระหนก หากไม่มีสัญญาณเตือนหรือเสียงปืนใหญ่ดังขึ้น โรงเรียนก็จะยังคงเปิดเรียนตามปกติ แต่ในขณะเดียวกันก็มีการเตรียมความพร้อมตลอดเวลา

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/D02bmqGV0X0