ผู้นำกลุ่มคริสตจักรทำพิธีไล่ผี ยันมีในคัมภีร์ คนกรีดร้อง-ดิ้น เพราะมีพลังงานไม่ดี แจงเงินบริจาคโปร่งใส

กรณี อดีตลูกศิษย์ แฉคริสตจักร อ้างไบเบิลสอนไล่ผีด้วยไฟ ระดมบริจาคไม่โปร่งใส เพื่อความเป็นธรรม เราได้พูดคุยกับ



ผู้นำของกลุ่มดังกล่าว ชี้แจงว่ากลุ่มของเราไม่ใช่ลัทธิ แต่เป็นคริสเตียน นิกายโปรเตสแตนต์ ยันพิธีกรรมไล่ผี มีในคัมภีร์ไบเบิล ไม่ได้บิดเบือนคำสอน



ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์เดินทางไปพบกับ ดร.คมเอก กวินอัครฐิติ ผู้นำของกลุ่มลัทธิ ชี้แจงว่า ตนเป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มนี้ขึ้นมา ซึ่งไม่ใช่ลัทธิ หรือความเชื่อนอกรีด แต่กลุ่มของตน คือ ผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์ นิกายโปรเตสแตนต์ โดยตั้งชื่อกลุ่มว่าคริสจักรน้ำองุ่นใหม่ ก่อตั้งมาได้ประมาณ 6-7 ปี ภายใต้การกำกับดูแลของสหกิจคริสเตียนแห่งประเทศไทย และมีการจดทะเบียนขออนุญาตอย่างถูกต้องภายใต้มูลนิธิด้วย



ส่วนภาพกิจกรรมไล่ผี ไล่วิญญาณ ที่เห็นยอมรับว่าเป็นกิจกรรมจริงที่คริสตจักรจัดขึ้น และเป็นไปตามหลักคำสอนในคัมภีร์ไบเบิล



ดร.คมเอก บอกว่าตนเป็นผู้ที่ศรัทธาในพระเจ้าของศาสนาคริสต์ ซึ่งตามคำสอนผู้ที่มีความเชื่อในพระเจ้าจะได้รับพร ได้รับพลังดีๆของพระเจ้า มาช่วยผู้คน ซึ่งที่เห็นว่าผู้คนมีอาการกรีดร้องผิดปกติเพราะมีพลังงานไม่ดีหรือพลังงานของวิญญาณ ตนก็ทำหน้าที่ช่วยเหลือขับไล่วิญญาณเหล่านี้ ให้กับผู้ที่มาเข้าร่วม เปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดๆลักษณะคล้ายกับการทำพิธีสักเสกเลขยันต์ และพิธีไล่ผีของศาสนาพุทธ ซึ่ง สำหรับศาสนาคริสต์หลายคนอาจจะรู้สึกแปลกตาเพราะส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีให้เห็น หรือบางคนมีอาการเจ็บป่วย มีโรคประจำตัวมาก็จะใช้วิธีการเดียวกันนี้ในการรักษา เรียกว่ารักษาด้วยความเชื่อ ซึ่งไม่ได้ห้ามให้ใครกินยา เพียงแต่แนะนำว่า ยาบางตัวกินมากไม่ดีก็ให้ลดลง พร้อมยืนยันว่า พิธีกรรมหรือวิธีการต่างๆถอดมาจากพระคัมภีร์ไม่ได้มีการบิดเบือนแต่อย่างใด



ส่วนเรื่องโรงเรียนที่ถูกกล่าวหา ดร.คมเอก บอกว่า โรงเรียนที่ตนสร้างขึ้นมีจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือเด็กที่อยู่นอกระบบการศึกษาให้มีโอกาสได้เรียนหนังสือ ซึ่งตนบอกกับผู้ปกครองทุกคนว่าเป็นหลักสูตร 3 ภาษาจากอเมริกาจริง โดยมีการจดทะเบียนขึ้นกับ กศน. ตนก็บอกไปแบบนี้กับผู้ปกครอง เพิ่งตรวจไม่ทราบว่าผู้ปกครองที่มาแจ้งเรื่องกับทางผู้สื่อข่าว มีจุดประสงค์หรือต้องการอะไร ซึ่งในโรงเรียนของตน มีเด็กหลายคนที่เรียนจบไปแล้วก็สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้หลายแห่ง



ดร.คมเอก บอกอีกว่า สำหรับเรื่องการเปิดรับบริจาคสร้างโบสถ์นั้น เมื่อ 2 ปีก่อนตนมีโครงการที่จะสร้างโบสถ์ เพื่อให้เป็นสถานที่สำหรับรวมตัวและทำพิธีกรรมของผู้ที่ศรัทธาจึงมีการเปิดรับบริจาค ซึ่งโครงการที่ตนตั้งใจไว้ มูลค่ากว่า 100-200 ล้านบาท เพราะผู้ที่ศรัทธามาทำกิจกรรมแต่ละครั้งไม่ต่ำกว่าหลักร้อยคน และมีการ จ่ายค่าออกแบบไปแล้วประมาณ 2 ล้านบาท แต่ติดปัญหาในเรื่องของทำเลที่ดิน ยังหาไม่ได้และราคาที่ดินในเมืองค่อนข้างสูง ทำให้ยังไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้



ดร.คมเอก บอกว่า ยินดีให้ตรวจสอบและมีการส่งบัญชีรายรับ รายจ่ายเป็นประจำภายใต้ชื่อมูลนิธิฯ

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/udZV1Fmw538