สถานการณ์ชายแดนตึงเครียด! เขมรยั่วยุ เติมกำลังเข้าพื้นที่ตลอด ชาวบ้านหวั่นเหตุปะทะ เริ่มอพยพบางส่วน

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กลับมาตึงเครียด กัมพูชายังคงยั่วยุ และเติมกำลังเข้าพื้นที่ตลอด ขณะที่ชาวบ้านตามแนวชายแดนรอดูสถานการณ์ แต่มีบางส่วนไม่มั่นใจสถานการณ์เริ่มอพยพแล้ว



สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ความรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 ช่วงนี้มีกระแสความตึงเครียดอย่างหนัก โดยล่าสุดเพจกองทัพบก ทันกระแส รายงานว่า กัมพูชาไม่จริงใจ มีแนวโน้มจะผลักดันไปสู่สถานการณ์ความขัดแย้งรุนแรงยิ่งขึ้น ไทยยึดมั่นสันติวิธี แต่ก็พร้อมปฏิบัติการเพื่อปกป้องอธิปไตย



พร้อมสรุปสถานการณ์ตลอดวันที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างต่อเนื่อง ระบุว่า 24 กันยายน มีการเพิ่มอาวุธยิงสนับสนุนวิถีตรงโดยนำรถถัง 1 คัน เข้าที่ตั้งยิงบริเวณพื้นที่ตรงข้ามช่องตาเฒ่า (ห่างแนวเส้นปฏิบัติการฝ่ายไทย 300 เมตร)



20.50 น. ทหารไทยพื้นที่ช่องกร่าง ได้ยินเสียงปืน 1 นัด ระยะ 150 เมตร ติดแนวลวดหนามไทย , ตรวจพบแสงไทย 5 ดวง ในระยะ 100 เมตร บริเวณแนวลวดหนาม และได้ยินเสียงปืนเล็ก 3 นัด ยิงเข้ามาบริวเณที่ไทยวางกำลัง คาดว่ากัมพูชายั่วยุ และตรวจแนววางกำลัง



02.50 น. พื้นที่จุดตรวจสามแยก จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง 150 เมตร ติดแนวลวดหนามฝ่ายไทย คาดว่ากัมพูชาใช้ระเบิดขว้างยั่วยุ และตรวจสอบแนวการวางกำลัง ไทยไม่ได้โต้ตอบยึดหลักอดกลั่น สันติวิธี



ขณะที่เพจ Army Military Force ลงคลิปชาวบ้านเขมรยังคงอพยพบออกจากชายแดนตามคำสั่งของฝ่ายทหารกัมพูชา เวลา 3 ทุ่มเมื่อคืน ซึ่งภาพเหตุการณ์แบบนี้จะคล้ายๆ ก่อนการเปิดฉากปะทะกันรอบแรก 24 กรกฎาคม ที่เขมรมีการสั่งชาวบ้านให้อพยพออกนอกพื้นที่กันก่อน ขณะเดียวกันก็ปั่นข่าวให้ชาวเขมรมองว่าไทยเตรียมจะโจมตี



แต่ในความเป็นจริงแล้ว เป็นฝ่ายเขมรที่มีการเติมกำลังเข้าพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยมีคลิปจากฝั่งเขมรที่ถ่ายคลิปเอง แล้วเพจชุมชนคนสุรินทร์ นำมาเผยแพร่ ระบุว่า เขมรพร้อมแต่เช้า ข่มขวัญทหารเสียม



ส่วนในบ้านเรา ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณฝั่งเขาพระวิหาร อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ จุดผ่านเข้าเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เจ้าหน้าที่ทหารยังคงตรึงกำลังเข้มงวด ป้องกันบุคคลภายนอกและผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องขึ้นไปยัง ผามออีแดง โดยอนุญาตเฉพาะกำลังพลที่มีหน้าที่รับผิดชอบเท่านั้น ส่วนประชาชนทั่วไปและนักท่องเที่ยวถูกสั่งห้ามเข้าโดยเด็ดขาด



ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ หมู่บ้านภูมิซรอล ตำบลเสาธงชัย อยู่ไม่ไกลจากแนวชายแดน พบว่าบรรยากาศในหมู่บ้านเต็มไปด้วยความเงียบเหงา หลายครอบครัวยังไม่ยอมอพยพออกไป แต่ก็ไม่ประมาท ต่างพากันเก็บข้าวของใส่รถไว้แล้ว ซึ่งชาวบ้านบอกว่า การย้ายออกไปๆ มาๆ ซ้ำหลายครั้ง สร้างความลำบาก ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายและการใช้ชีวิตประจำวัน จึงจะรอสัญญาณจริงจากทางการ หรือถ้าได้ยินเสียงปืนใหญ่จะอพยพทันที



ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนก็เริ่มทยอยอพยพไปอยู่ตามบ้านญาติที่ไม่ใช่พื้นที่เสี่ยงแล้ว ซึ่งถ้าฟังเสียงชาวบ้านตอนนี้ ต่างไม่อยากให้เกิดการปะทะ เพราะถ้าเกิดขึ้นจริง คนในพื้นที่จะทำมาหากินไม่ได้ ทุกอย่างจะลำบาก หรือถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็อยากให้เด็ดขาดไปเลย



ส่วนพื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งในพื้นที่มีการรายงานว่าช่วง ตี2 ที่ผ่านมา มีการโยนระเบิด 1 ลูก บริเวณฐานข้างๆ ตรงปราสาทตาเมือนธม ทีมข่าวได้สอบถามผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ยืนยันว่าได้ยินเสียงระเบิดมาจากฝั่งเขมรจริง ทางหน่วยงานในพื้นที่ของไทยได้ประสานสอบถามไปยังเขมร ซึ่งอ้างว่า เป็นฝีมือของวัยรุ่นแอบเข้ามาโยนระเบิดลูกเกลี้ยง ซึ่งทหารเขมรเองไม่ได้สามารถควบคุมได้