สังคม

เปิดคลิปนาที "มารี เบรินเนอร์" ถูกเรียก ไม่ยอมเป่าแอลฯ "ไฮโซบอส" เมากร่าง ล่าสุดพบตร. สารภาพเมาแล้วขับ

25 ส.ค. 2568

44 views

"มารี เบรินเนอร์" แอบหลบสื่อแอบมาพบพนักงานสอบสวนแต่เช้า สารภาพเมาแล้วขับจริง ก่อนคุมตัวส่งศาลแขวงพระนครเหนือ



เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นราวตีสาม 20 นาที ของวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา น.ส.มารี เบรินเนอร์ อายุ 33 ปี ขับรถปอร์เช่ สีเขียวเข้ามาที่ด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ บริเวณถ.ประดิษฐ์มนูธรรม ภายในรถมีนาย อัศม์กรณ์ นักธุรกิจนั่งหน้าคู่มา และเบาะหลังมีผู้หญิงอีก 2 คน พอตำรวจขอให้ลงจากรถเพื่อตรวจปริมาณแอลกอฮอร์ แต่น.ส.มารี ไม่ยอมลงจากรถ แล้วนาย อัศม์กรณ์ ลงมาโวยวายให้ตำรวจ ด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย ท้าชก และยังอ้างว่ารู้จักนายตำรวจระดับสูง รู้จัก "พี่แมน" จนลูกสาวของนาย อัศว์กรณ์ ต้องมาขอโทษตำรวจแทนพ่อ ขณะที่ตำรวจบอกว่า ถ้าจะโทรหาผู้ใหญ่ก็เอาโทรศัพท์มาโทรหาได้เลย



สักพักน.ส.มารี ยอมลงจากรถ แต่ไม่ยอมเป่าเครื่องวัดปริมาณแอลกอฮอร์ และอ้างแต่ว่าจะขอไปปัสสาวะอย่างเดียว แล้วนาย อัศม์กรณ์ พยายามเข้ามาขัดขวางเจ้าหน้าที่ แต่ด่าตำรวจด้วยคำหยาบอีก



จากนั้นตำรวจได้ถามย้ำมารีถึง 3 ครั้งว่าจะเป่าเพื่อวัดปริมาณแอลกอฮอร์ไหม เจ้าตัวก็ทำทีไม่สนใจ เล่นมือถือ และถามตำรวจกลับว่า "ทำไมจะเอาไปทำข่าวเหรอ" และหันหลังให้ตำรวจ



สุดท้ายตำรวจแจ้งว่า การไม่เป่าเพื่อตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอร์ถือว่าผิดความผิดฐาน "เมาแล้วขับ" ก่อนจะคุมตัวไปที่ สน.วังทองหลาง แต่นางสาว มารี ได้ใช้หลักทรัพย์เงินสด 2 หมื่นบาทขอประกันตัวออกไป และตำรวจได้นัดให้มารายงานตัวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เพื่อนำตัวส่งฟ้องศาลแขวงพระนครเหนือ



ขณะที่ นาย อัศม์กรณ์ ถูกจ่าสิบตำรวจ อุดมศักดิ์ พรหมชาติ ผู้บังคับหมู่งานจราจร สน.วังทองหลาง แจ้งความเอาผิด นาย อัศวกรณ์ ในข้อหาดูหมิ่น / ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน / และต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ เพราะตอนที่จะถูกจับเจ้าตัวยังขัดขืนไม่ยอมให้ใส่กุญแจมือด้วย



เมื่อช่วงเช้าวันนี้พันตำรวจเอก เจษฎา ยางนอก ผู้กำกับการ สน.วังทองหลาง เปิดเผยว่า ในคืนวันที่ 24 สิงหาคม หลังเรื่องวุ่นวายที่ด่านจบลง นางสาวมารี และนาย อัศม์กรณ์ แฟนหนุ่มเข้ามารับทราบข้อหาที่ สน.วังทองหลางแล้ว นางสาวมารี รับสารภาพว่าดื่มแอลกอฮอล์มาจริง และเช้าวันนี้ก็นัดส่งฟ้อง นางสาวมารี เพียงคนเดียว ในข้อหาเมาแล้วขับ



ขณะที่ฝ่ายชายก็รับสารภาพในข้อหา ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ แต่ยังไม่ส่งฟ้องต่ออัยการ เพราะต้องสอบปากคำผู้ก่อเหตุ และผู้เสียหาย รวมถึงรวบรวมพยานหลักฐาน เนื่องจากเป็นคดีอาญา



ส่วนที่ฝ่ายชายอ้างถึงนายตำรวจท่านหนึ่ง ที่ชื่อว่า พี่แมน ผู้กำกับบอกว่า เป็นอาการของคนเมา พูดกล่าวอ้างไปเรื่อย



ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2557 ระบุว่า หากผู้ขับขี่ไม่ยินยอมเป่าตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ เท่ากับ เมาแล้วขับ มีโทษจำคุกไม่เกิด 1 ปี ปรับตั้งแต่ 1 หมื่น - 2 หมื่นบาท



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/zby2FOt7sNM

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ