เปิดคลิปเขมรใช้มวลชนกดดันไทยรื้อลวดหนาม อ้างล้ำแดน ด้าน ทบ.โต้ จุดล้อมรั้วเป็น "แผ่นดินไทย"

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ตอนนี้กัมพูชา ใช้มวลชน ทั้งผู้สูงอายุและเด็ก มากดดันทหารไทย ให้รื้อรั้วลวดหนาม โดยเฉพาะจุดผ่านแดนบ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว มีความพยายามปั่นกระแสว่าไทยล้ำแดนกัมพูชา ไปปิดทางเข้า-ออกหมู่บ้าน ซึ่งทางกองทัพบก ออกมาชี้แจงแล้วว่า ยืนยันจุดที่ล้อมรั้ว คือเขตประเทศไทย และเปิดหลักฐานย้อนหลัง ว่ากัมพูชา เป็นฝ่ายรุกล้ำอธิปไตยของไทย



นี่เป็นคลิปบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ฝั่งจังหวัดสระแก้ว เห็นถึงความตึงเครียดในพื้นที่ โดยข้อมูลจากเพจ Army Military Force ระบุว่าจุดผ่านแดนบ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว ทหารกัมพูชา ยังเกณฑ์ชาวบ้าน ทั้งเด็ก วัยรุ่น คนแก่ คนพิการ และพระสงฆ์ รวมตัวเข้ามายังพื้นที่ต่อเนื่อง รอบนี้ (หมายถึงเมื่อวานช่วงเย็น 17 ส.ค.) มีแกนนำถือไมค์ ตะโกน Don’t Thai to me! ประท้วงกดดัน และด่าทหารไทย ให้รื้อลวดหนามและยางรถยนต์ พยายามปั่นกระแส ว่าไทย รุกล้ำพื้นที่กัมพูชา ล้อมรั้วลวดหนามปิดทางเข้า-ออก หมู่บ้าน



ขณะที่ทหารไทย ได้ขึงสแกนสีดำ พร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิด และไฟสปอร์ตไลท์ หลังชาวกัมพูชาพยายามถ่ายคลิปเข้ามาฝั่งของทหารไทย



ทางเพจกองทัพบก ทันกระแส ออกมาโพสต์ชี้แจงข้อเท็จจริง ระบุว่า กัมพูชาตีเนียน ร้องเรียน ร้องไห้ ยืนยันพื้นที่ล้อมรั้ว คือเขตประเทศไทย



และแจงเป็นข้อๆ คำถามว่า ไทยไร้มนุษยธรรม ล้อมรั้วทำคนกัมพูชาไร้บ้าน จริงหรือไม่



ก็ได้โพสต์ภาพแผนที่ เปรียบเทียบระหว่างปี 2528 ที่ไม่เคยมีการตั้งหมู่บ้าน กับปัจจุบัน 2568 ยืนยันว่า "นี่แผ่นดินไทย ที่ผ่านมากัมพูชา อพยพมาอาศัยเป็นที่ลี้ภัย ช่วงเขมรแดง ตั้งแต่ปี 2522 เป็นต้นมา ไทยอนุโลมให้อยู่ แต่กลับมาตั้งรกรากฝั่งแน่น



ซึ่งข้อความของเพจกองทัพ ย้ำว่า ถึงเวลาเอาแผ่นดินไทยคืน"



นอกจากนี้ ยังได้ชี้แจง ถึงการล้อมรั้วไม่ตรงกับหมุดประเทศไทย ว่าการล้อมรั้ว ไม่ได้หมายถึงเส้นเขตแดน เป็นการล้อมรั้วตามข้อตกลงหยุดยิงหลังการปะทะ "อยู่ตรงไหนให้อยู่ตรงนั้น"



ซึ่งแนววางลวดหนาม เป็นเพียงแค่การสร้างความมั่นคงทางทหาร



ข้อมูลจากกองทัพล่าสุด ก็จะสอดคล้อง กับภาพที่แชร์กันก่อนหน้านี้ ปรากฎช่วงที่กัมพูชาพาทูตต่างประเทศ ไปลงพื้นที่จุดดังกล่าว และกล่าวหาว่าไทยรุกล้ำ ไปพบหลักหมุดกรุงสยาม ที่อยู่เหนือจากจุดที่ทหารไทยไปล้อมรั้ว ก็เป็นการยืนยันว่าจุดตรงนั้นเป็นพื้นที่ของไทย



ส่วนวันนี้ ที่ต้องติดตาม คือ กองบัญชาการกองทัพไทย จะนำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว จำนวน 8 ประเทศ ประกอบด้วย บรูไน มาเลเซีย ลาว อินโดนีเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม รวม 14 นาย นำโดย ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซีย ประจำกรุงเทพฯ ลงพื้นที่ 3 วัน 18-20 ส.ค. เพื่อไปรับทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของกัมพูชา



ซึ่งทุ่นระเบิด PMN-2 ที่กัมพูชายังคงปฏิเศธ ทางกองบัญชาการกองทัพไทยเปิดเผยข้อมูลล่าสุดออกมา โดยยืนยันว่า เอกสารรายงานต่ออนุสัญญาออตตาวา เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ระบุชัดเจนว่ากัมพูชา ยังคงครอบครองทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 และชนิดอื่น ๆ รวมกว่า 3,700 ลูก โดยอ้างว่าเก็บไว้เพื่อการฝึกตามมาตรา 3 ของอนุสัญญาฯ



แต่กลับลักลอบนำมาวางในเขตอธิปไตยของประเทศไทย ถือเป็นถือเป็นการละเมิดอนุสัญญาอย่างร้ายแรง และเอาผิดได้ตามกฎหมายระหว่างประเทศ

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/RBsE8vWka74