สังคม
ชายแดนยังตึงเครียด! ปะทะเดือดวันที่ 2 "กัมพูชา" เปิดฉากยิงตั้งแต่เช้ามืด เร่งอพยพชาวบ้านที่เหลือ
25 ก.ค. 2568
190 views
เข้าสู่วันที่ 2 กับสถานการณ์ความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา ล่าสุดยังมีเหตุปะทะในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดน โดยกองทัพบก รายงานว่า กัมพูชาเปิดฉากยิงตั้งแต่ช่วงเช้ามืด
ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงตึงเครียดต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 มีข้อมูลจากเพจในพื้นที่ และของกองทัพที่อัพเดตสถานการณ์
ไล่เรียงตั้งแต่เช้ามืด เพจกองทัพบก ทันกระแส ตึงเครียด 04.30 น. เสียงปืนดังแล้ว พบกัมพูชาเข้าประชิด
จากนั้นมีข้อมูลกู้ภัยอำเภอปราสาทแจ้งว่า 05.40 น.เสียงปืนใหญ่เริ่มดังขึ้นอีกครั้ง ขอให้พี่น้องทหารและประชาชนปลอดภัย
นอกจากนี้ เพจสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ ระบุว่า ที่อำเภอกาบเชิง จ.สุรินทร์ นายอำเภอรายงานว่า เสียงปืนใหญ่ดังขึ้น เริ่มปะทะกันอีกแล้ว
โดยเพจกองทัพภาคที่ 2 แจ้งข้อมูลช่วงเช้า ระบุว่า แจ้งเตือน ขณะนี้เกิดการปะทะในพื้นที่ตามแนวชายแดนหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้พื้นที่ตามแนวชายแดนก็มีคลิปความเคลื่อนไหวของทหารกัมพูชา ที่ ระดมยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ไปยังพื้นที่ช่องบก
นอกจากนี้ ยังมีคลิปทหารกัมพูชาในหลายจุด ทั้งฝั่งจังหวัดศรีสะเกษ และฝั่งจังหวัดสุรินทร์ ที่เห็นความตึงเครียดของชายแดนขณะนี้
โดย พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยสถานการณ์ภาพรวมช่วงเช้า ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ว่า เริ่มมีการปะทะตั้งแต่เวลาประมาณ 04.00 น.
โดยฝ่ายกัมพูชาได้ระดมยิงด้วยอาวุธหนัก ปืนใหญ่สนาม และ จรวด BM-21 เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่ช่องบกฯ และภูมะเขือ จ.อุบลราชธานี รวมถึงในพื้นที่ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์
นอกจากนี้ ช่วง 06.29 น.ทหารกัมพูชาใช้กำลังเข้ายึดเนิน 469 โดยใช้ปืนใหญ่และปืนค. ทางทิศใต้บริเวณช่องบก ระดมยิงใส่ฝ่ายไทย บริเวณเนิน 408 ซึ่งฝ่ายไทยได้ตอบโต้ด้วยการใช้อาวุธยิงสนับสนุนตามสถานการณ์ และแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ให้หลีกเลี่ยงการเข้าในพื้นที่การปะทะ
กองทัพภาคที่ 2 แจ้งเตือนประชาชน ให้ความร่วมมือออกจากพื้นที่อันตราย 2อำเภอ ในจังหวัดอุบลราชธานี คือ อำเภอน้ำขุ่น และอำเภอน้ำยืน และ 3 อำเภอในจังหวัดศรีสะเกษ คือ อำเภอภูสิงห์ อำเภอขุนหาญ อำเภอกันทรลักษ์
โดยระยะยิงอยู่ที่ 20-40 กิโลเมตร โดยเครื่องยิง BM-21 ยิงได้ 20 กิโลเมตร และ PHL-81,Type-90B ยิงได้ถึง 40 กิโลเมตร
ขณะที่สถานการณ์การปะทะพกันที่บริเวณปราสาทตาเมือน ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ในเช้าวันนี้ ซึ่งมีการเปิดฉากปะทะกันขึ้นตั้งแต่เช้า ตี 5 มีการยิงถล่มกันปืนใหญ่ตอบโต้กันไปมา เริ่มหนักหน่วงอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงเช้า ทำให้ลูกกระสุนของกัมพูชาตกเข้ามาในฝั่งไทยหลายลูกด้วยกัน
ซึ่งเป็นที่สังเกตว่า ในวิถีกระสุนของกัมพูชาในช่วงเช้านี้ตกลึกเข้ามาในเขตของประเทศไทยมากขึ้น ส่วนมากจะตกเข้าใกล้บริเวณหมู่บ้านของชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านที่ไม่ได้อพยพออกจากพื้นที่ เพราะอยู่ดูแลพื้นที่หรือดูแลบ้านเรือน ต้องวิ่งหลบเข้าหลุมหลบภัยตั้งแต่เช้า
จากการสอบถามทราบว่า มาหลบภัยตั้งแต่เช้า ข้าวก็ยังไม่ได้กิน ขณะที่ญาติพี่น้องต่างโทรมาสอบถามด้วยความเป็นห่วง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจนถึงขณะนี้ยังมีการะปะทะกันด้วยปืนใหญ่อย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่พบบ้านเรือนราษภรเสียหายหรือมีผู้บาดเจ็บ ส่วนใหญ่ลูกปืนใหญ่ฝั่งเขมรตกกระจายตามพื้นที่ทุ่งนา และสวนยางของชาวบ้าน ซึ่งมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์คลิปได้ยินเสียงปืนใหญ่ยิงปะทะกันตั้งแต่เช้ามืด
และเมื่อช่วง 10 โมงครึ่งที่ผ่านมา มีรายงานว่ากระสุนปืนใหญ่ของเขมรเข้ามาตกในเขตพื้นที่อำเภอพนมดงรัก ซึ่งอยู่ห่างจากโรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติประมาณ 1 กิโลเมตร ยิงลงที่จุดเดิมจำนวน 4 ลูก ซึ่งฝ่ายไทยก็ได้ทำการตอบโต้ไปเป็นชุดๆ เสียงปืนใหญ่ยังดังอยู่ตลอดเวลาจนถึงขณะนี้
ส่วนสถานการณ์ชายแดนที่อุบลราชธานี ถูกทหารกัมพูชาเปิดฉากยิงตั้งแต่เช้ามืดเช่นกัน จนต้องประกาศเป็นพื้นที่เสี่ยง และเร่งอพยพชาวบ้านที่เหลือออกจากพื้นที่
เข้าสู่วันที่ 2 ของสถานการณ์การสู้รบระหว่างไทยและกัมพูชา บริเวณช่องบก และช่องอานม้า พื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พบว่า ทหารกัมพูชาเปิดฉากยิงระเบิดตั้งแต่ช่วงตี 4 กว่า ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ต้องวิ่งหนีลงหลุมหลบภัย ล่าสุด ทางจังหวัดได้ประกาศให้พื้นที่ตำบลโดมประดิษฐ์ ซึ่งอยู่ใกล้แนวชายแดน เป็นพื้นที่เสียงภัยสูงสุด พร้อมเร่งอพยพชาวบ้านที่เหลือออกจากพื้นที่ทั้งหมด
ขณะที่ชาวบ้านบางส่วน ได้อพยพไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยตั้งแต่เมื่อวานนี้ ต่างโล่งใจ แต่ก็ยังเป็นห่วงบ้าน และทรัพย์สินที่ทิ้งต้องทิ้งไว้ โดยนางทองลา อายุ 71 ปี ชาวบ้านอำเภอน้ำขุ่น เล่าว่า ช่วง 7 โมงเช้า ของเมื่อวานนี้ ขณะกำลังทำงานบ้านอยู่ ก็ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว ทำเอาหลังคาบ้านสั่นไปหมด ก็ตกใจมากเกิดมา เพราะเพิ่งเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ จึงรีบเก็บข้าวของออกจากบ้านกับสามี แล้วผู้ใหญ่บ้านจะประกาศให้ออกมาอยู่ที่หลุมหลบภัย ก่อนจะอพยพออกจากพื้นที่มาอยู่ที่ศูนย์พักพิง ตอนนี้อยากให้เหตุการณ์สงบลงโดยเร็ว ไม่อยากให้มีการสูญเสียใดๆเลย
ด้านนางสุวนิตย์ อายุ 65 ปี ชาวบ้านที่อพยพมาจาก อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงระเบิดดังติดต่อกันถึง 3 ครั้ง ก่อนจะมีข่าวว่า มีระเบิดลงที่เซเว่น ภายในปั้มน้ำมัน ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย จึงรีบชวนครอบครัวเดินทางมาอยู่บ้านพัก ที่อำเภอวารินชำราบ ซึ่งซื้อไว้ปล่อยเช่านานแล้ว โดยรีบออกมาเอาชีวิตรอดก่อน แต่ไม่ได้เอาทรัพย์สินอื่นใดออกมาด้วยเลย
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวไปที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ วันนี้พบเรื่องน่าประทับใจ หลังจากที่พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า วันนี้ ตัดสินใจขอ น้องน้ำหวาน แฟนสาว จดทะเบียนสมรสแบบสายฟ้าแลบ หลังผ่านเหตุการณ์เฉียดตาย โดยมีนายอุดมศักดิ์ นวลศิริ นายอำเภอวารินชำราบ เป็นนายทะเบียนออกมาจดทะเบียนสมรสให้กับทั้ง 2 คน ถึงเตียงผู้ป่วยใน พร้อมทั้งมี สิบเอกปฎิภัทร สีลาศักดิ์ หัวหน้าชุดที่ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิดจากเหตุการณ์เดียวกัน มาเป็นพยานรักจดทะเบียน
พลทหารณัฐวุฒิ เปิดเผยว่า ตนเองได้คบหาอยู่กินกับภรรยามาประมาณ 1 ปี ตอนนี้ภรรยาท้องลูกได้ 8 เดือนแล้ว ขณะที่เกิดเหตุตนเองบาดเจ็บรู้สึกกังวลเรื่องลูกมากแต่ตอนนี้อาการดีขึ้น กำลังใจดีก็ไม่กังวลอะไร อีกไม่นานภรรยาก็จะคลอดแล้ว ตนจึงอยากมีครอบครัวที่ถูกต้องสมบูรณ์ตามกฎหมาย เพราะอนาคตเราไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นอีก
ด้านน้องน้ำหวาน บอกว่า ตอนที่ทราบเรื่อง รู้สึกตกใจมาก แต่พอรู้ว่าปลอดภัยดีก็โล่งใจ ที่ผ่านมายังไม่มีแผนที่จะจดทะเบียนอะไร แต่พอเจอเหตุการณ์แบบนี้ ตนอยากทำให้ครอบครัวเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ อยากจะบอกว่ารักมาก ขอให้หายไวๆ จะได้กลับบ้านกัน
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Rfl1J3CY3EM
แท็กที่เกี่ยวข้อง ชายแดนไทยกัมพูชา ,ไทยกัมพูชา