'สุชาติ' เผยเร่งแก้ พ.ร.บ.สงฆ์ ล้าหลัง จ่อเพิ่มโทษ 'พระเสพเมถุน' ทั้งจำ-ปรับ

สุชาติ โอด รับน้องรมต.ใหม่! “คดีสีกาพิฆาตสงฆ์“ ร้อนใจ เข้ากราบนมัสการเจ้าคณะหนใหญ่ตะวันออก และเจ้าคณะหนกลาง รับแนวทางสังคายนาวงการสงฆ์ ชี้ต้องร่วมมือกัน ทั้งตำรวจ-มหาเถรสมาคม-สำนักพุทธ ย้ำ สั่ง พศ. ดูกม.อาญา 206 เอาผิดสีกากอล์ฟ หันถาม พ.ศ. ทำไมไม่รู้ จี้ ให้พศ. ทำงานเชิงรุก



เนายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางไปที่วัดไตรมิตรวิทยาราม เพื่อเข้ากราบนมัสการสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก และพระมหารัชมงคงมุนี (ธงชัย ธมมธโช) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เพื่อรับแนวทางปฏิบัติในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ



นายสุชาติ เปิดเผยหลังเข้ากราบนมัสการ และรับแนวทางจากสมเด็จพระพุฒาจารย์นานกว่า 30 นาทีว่า วันนี้ตนมาขอคำแนะนำในเรื่องวิกฤตศรัทธาของพุทธศาสนา พร้อมบอกว่า เรื่องที่เกิดปัญหาอยู่ในขณะนี้ เป็นเรื่องที่มหาเถรสมาคมได้มีการประชุมตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งเป็นประชุมเร่งด่วนฉุกเฉิน เพื่อที่จะแก้ไขปัญหา และมอบหมายให้ตำรวจที่ไปดำเนินการจับกุม อย่างน้อยต้องรายงานไปที่เจ้าคณะหนหรือพระผู้ใหญ่ เพื่อดำเนินการเอาผิดกับพระที่ปฏิบัติมิชอบ



วันนี้ได้มาฝากท่านว่า ที่ตำรวจไปทำอาจจะไม่รู้ซึ้งเท่ากับสำนักพุทธฯ เพราะฉะนั้นอยากให้สำนักพุทธฯ บูรณาการกับตำรวจด้วย จะไปจับตรงไหน ขอข้อมูลมาให้สำนักพุทธด้วย และขอข้อมูลมาให้พระผู้ใหญ่ ที่เป็นผู้บังคับบัญชา โดยเฉพาะเจ้าคณะหนแต่ละหน เบื้องต้นท่านได้สั่งการไปที่ตำรวจแล้ว โดยสิ่งหนึ่งที่เราอยากให้บูรณาการกับสำนักพุทธด้วย เราต้องแก้ไขโดยมหาเถรสมาคม ร่วมกับสำนักพุทธฯ ในการจะออกกฎระเบียบ ประกาศกระทรวงต่างๆ



เมื่อสอบว่าทางสมเด็จได้มีการแจ้งไหมว่ามีการส่งหนังสือไปยังพระที่หายตัวไป นายสุชาติระบุว่า ก็เห็นสมเด็จท่านปรารภอยู่เหมือนกันว่า ก็พยายามจะตามมา เพราะท่านก็เป็นกังวลกับปัญหาตรงนี้ กับเรื่องที่ทำความเสื่อมเสียมาสู่ศาสนา ท่านก็เป็นกังวลมากและพยายามรีบดำเนินการให้แล้วเสร็จ



สำหรับ พรบ.ที่จะคุ้มครองที่มหาเถรสมาคมให้คณะสงฆ์ได้ปรับแก้แทนที่จะออกพรบ.ใหม่นั้น นายสุชาติระบุว่า เมื่อวานนี้เห็นมหาเถรสมาคมบอกแบบนั้น แต่ก็ต้องปรึกษากันใหม่ เพราะจะทำวิธีการใดที่จะแก้พรบ.สงฆ์ที่มีมาตั้งแต่พ.ศ.2505 หรือจะร่างพรบ.ขึ้นมาใหม่ ซึ่งหลักการมันอยู่ที่จะดำเนินการอย่างไรที่จะเอาผิดสีกาที่ไปเสพเมถุน กับพระที่ประพฤติปฏิบัติผิดแบบนี้ ซึ่งต้องไปดูว่าจะเอาผิดอย่างไรได้ ถือเป็นหลักการอย่างหนึ่ง แต่จะเป็นกฎหมายของสงฆ์หรือกฎหมายที่ร่างขึ้นมาใหม่อะไรก็แล้วแต่ “ขอให้มันเร็วก็แล้วกัน” เพราะเราต้องการความเร็วในการแก้ไข ไม่เช่นนั้นเหตุการณ์แบบนี้จะกระทบศรัทธาของประชาชน ตนมองว่าแบบนี้แย่ พอดีเกิดเรื่องนี้ขึ้น ก็จะเกิดเรื่องอื่นๆ ขึ้นมาอีกเรื่อยๆ แบบนี้ไม่ได้ พวกเราก็เป็นกังวลมาก



บางช่วงผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ทำไมจึงไม่ใช้มาตรา 206 ในการดำเนินการ ซึ่งเป็นมาตราที่ระบุไว้ว่าผู้ใดกระทำการต่อวัตถุ หรือสถานที่ที่เป็นการดูหมิ่นศาสนา มีโทษจำคุกถึงเจ็ดปี นายสุชาติ บอกว่า จะไปดู แต่ตอนนี้ตนเองให้นโยบายไปแล้วว่า สีกากอล์ฟต้องรีบมาดำเนินการทางกฎหมายก่อน



จากนั้น นายสุชาติ ยังพูดต่อว่า สำนักพุทธยังไม่ได้ศึกษา ตนจะได้มอบหมายให้ไปศึกษาดูมาตรา 206 ดูว่าอะไรที่ดำเนินการได้รวดเร็ว ต้องเอาความผิดกับผู้กระทำความผิดให้ได้ แต่เท่าที่ทราบตอนนี้ยังไม่มีกฎหมายใดที่ไปเอาผิดเขาได้ อย่างกรณีสีกากอล์ฟ ก็คือล่อลวง หรือการพูดคุยทาง LINE ก็อาจจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ ซึ่งอยู่ระหว่างการดูอยู่



ก่อนที่ทางนายสุชาติ จะหันไปถามทางสำนักพุทธว่า “สำนักพุทธว่าไง ได้ศึกษาเรื่องนี้ไหม” สำนักพุทธบอกว่า เดี๋ยวต้องกลับไปศึกษาอีกที นายสุชาติเลยบอกว่า “นักข่าวเค้าลิสต์ประเด็นขึ้นมา ทำไมสำนักพุทธไม่ดำเนินการ แสดงว่าเค้าพยายามหาข้อกฎหมายอยู่”



นายสุชาติ ระบุต่อว่า กำชับไปหลายครั้งแล้วว่าเรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องเร่งด่วน ตนก็กังวล แล้วโดยเฉพาะตนเองพึ่งมารับไม่ถึงอาทิตย์ เค้าก็ต้อนรับน้องใหม่ได้ดีเหลือเกิน ตอนนี้ผมกังวลมาก จึงได้ออกมาเยี่ยม และขอคำแนะนำจากสมเด็จทั้งสองรูป



ส่วน พ.ร.บ.สงฆ์ ที่จะมีการแก้ไข โดยเฉพาะเรื่องเงินวัดนั้น นายสุชาติกล่าวว่า ต้นตอของปัญหา ต้นเหตุที่เกิดปัญหา กระบวนการหลอกพระ ก็มาจากการที่พระมีเงิน มีทรัพย์เยอะ และหลอกง่ายที่สุด เมื่อพระถูกแบล็คเมล์หน่อยก็ต้องโอนเงินให้ พฤติการณ์นี้ทำเป็นขบวนการ ซึ่งเราก็พยามที่จะทำ เพื่อแก้ปัญหาต้นเหตุ เมื่อพระมีทรัพย์มาก และมีการใช้จ่ายโดยไม่มีการควบคุม ก็ต้องแก้ด้วยการออกกฎกระทรวง ว่าทุกบาททุกสตางค์ของวัด ต้องเอาเข้าบัญชีธนาคารในท้องที่ เงินสดที่วัดจะถือได้ก็ต้องห้ามเกิน 100,000 บาท ไว้สำหรับค่าใช้จ่ายทั้งค่าน้ำค่าไฟ และทุกบัญชีนั้นก็ต้องฝากธนาคารทั้งหมด และทุกเดือน จะต้องทำบัญชีรายรับรายจ่าย และต้องสรุปรายงานบัญชีประจำปีด้วย ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการร่างแบบฟอร์มไว้หมดแล้ว โดยจะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป ซึ่งวัดทุกวัดจะต้องปฏิบัติตาม หากไม่ปฏิบัติก็ถือว่าเป็นการฝ่าฝืน



รวมทั้งจะให้สำนักพระพุทธศาสนา จะดำเนินการย้อนดูธุรกรรม สำหรับวัด ที่พบความผิดปกติ ซึ่งตนก็เคยให้นโยบายกับสำนักพุทธฯ ไว้ว่าต้องทำงานเชิงรุก ไม่ใช่ทำงานเชิงรับ ทุกวันนี้ทำงานเชิงรับให้ตำรวจไปจับเพียงอย่างเดียว หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ จะต้องไปสอดส่องดูพฤติกรรมของพระในทุกวัดทุกพื้นที่กับชาวบ้านและชุมชน ไม่ใช่รอให้ตำรวจทำคดีอย่างเดียว จะต้องไปปราบก่อนเหตุบานปลาย แต่ในขณะนี้แม้ยังไม่มีมีการตั้งชุดทำงานดังกล่าว ก็ขอให้พุทธศาสนาจังหวัดดำเนินการตรวจสอบ พฤติกรรมของพระในแต่ละวัดจากข่าวซุบซิบของชาวบ้าน ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ จะครอบคลุมไปถึงพฤติกรรมของพระสงฆ์ ที่มีการล่วงละเมิดทางเพศทั้งหญิงและชาย ซึ่งจะมีความผิดวินัยสงฆ์ และส่งดำเนินคดีอาญาด้วย



ทั้งนี้ หลังจากที่เข้าพบสมเด็จทั้งสองท่าน ท่านมีกังวลมาก ซึ่งวิกฤตศรัทธาของประชาชน เพราะว่าตัวบุคคลไปทำให้เสื่อมเสีย แต่พระมีทั้งหมดตั้ง 200,000 กว่ารูป



ที่จริงแล้วพระผู้ใหญ่ ไม่ควรประพฤติแบบนี้ด้วยซ้ำไป เพราะเป็นบุคคลที่ประชาชนให้ความเคารพนับถือบำเพ็ญศีลมานาน ถือศีลเหนือพวกเรา 227 ข้อ เมื่อบำเพ็ญบำนาญไม่น่าขาดสติถึงขนาดนี้ เลยปล่อยให้ผู้หญิงมาหลอกได้ สติอาจจะขาดไปชั่วขณะทำให้เกิดความหวั่นไหวขึ้น

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/EvBq7q7-o_0