มติมหาเถรฯ ขีดเส้นตายพระพัวพัน 'สีกากอล์ฟ' เข้าชี้แจง หากไม่มาเจอปลดจากตำแหน่ง

มติมหาเถรสมาคม หรือมส.ให้เจ้าคณะปกครอง ทำหนังสือเรียกพระที่เกี่ยวข้องสีกากอล์ฟ 5 รูป มารายงานและชี้แจงข้อเท็จจริง ระบุชัด หากไม่มาให้ถอดถอนหรือปลดจากตำแหน่ง



เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ มหาเถระสมาคมเรียกประชุมด่วน วาระพิเศษนี้ มีสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการ มส. เพื่อวางแนวทาง กรณีพระภิกษุกระทำผิดและถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดพระธรรมวินัย กรณีสีกากลอฟ



หลังประชุมนานประมาณ ชั่วโมงครึ่ง นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และ นายชัชพล ไชยพร รักษาการ ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถระสมาคม ร่วมกันแถลงผลประชุม



นายอินทพร กล่าวว่า การประชุม มส.ได้ห่วงใยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในที่ประชุมสรุปมาตรการได้ 2 เรื่อง คือ มาตรการเร่งด่วน และ กำหนดแนวทางป้องกันในอนาคต



โดยมาตรการเร่งด่วนเฉพาะหน้า สำหรับพระสงฆ์ที่ปรากฏในสื่อ เกี่ยวข้องกับสีกากอล์ฟ พบว่า มี 11 รูป บางส่วนลาสิกขาไปแล้ว ถือว่าสิ้นสุดสถานภาพการเป็นพระสงฆ์ ในส่วนของพระธรรมวินัยไม่สามารถดำเนินการใดๆได้ แต่ถ้าใครมีส่วนเกี่ยวข้องกับเส้นเงิน หรือความผิดอาญา เป็นหน้าที่ตำรวจดำเนินการ ตามกฎหมายบ้านเมืองต่อไป



และในส่วนที่ 2 คือ ส่วนของพระที่ยังไม่สามารถยืนยันสถานะได้ ขณะนี้มี 5 รูป เพราะการจะยืนยันสถานะลาสิกขาได้นั้น จะต้องมีภาพที่ปรากฏ หรือมีหนังสือยืนยันเป็นรายลักษณ์อักษร ส่วนบางรูปที่ยังไม่สามารถยืนยันสถานะได้ กรรมการ มส. ได้มอบหมายให้เจ้าคณะหน ในพื้นที่ปกครอง ให้ทำหนังสือเรียกตัวพระ ทั้ง 5 รูป ที่มีรายชื่อมาชี้แจง ต่อเจ้าคณะผู้ปกครอง



หากไม่มาตามระยะเวลาที่กำหนด ถือว่าเป็นการละทิ้งปฎิบัติหน้าที่ ทำให้เกิดความเสียหายต่อพระสงฆ์อย่างร้ายแรง อาจจะถูกปลดหรือถูกถอดถอน ตามระเบียบของคณะปกครองสงฆ์ พร้อมมอบหมายให้สำนักพุทธฯไปประสานตำรวจ นำหลักฐานมาให้คณะสงฆ์ เพื่อยืนยันกระทำผิดตามพระวินัยต่อไป



โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่ลาสิกขาไปแล้ว คือ อดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ / อดีตพระครูปลัดสุรพล อิทธิเตโช อดีตเจ้าอาวาสวัดพรหมเกษร ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก /อดีตพระเทพวชิรธีราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย จ.สระบุรี / อดีตพระเทพวชิรธีรคุณ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ กรุงเทพฯ /อดีตพระมหาบุญเลิศ อินฺทปญฺโญ วัดใหม่ยายแป้น กรุงเทพฯ และอดีตพระครูสิริวิริยธาดา วัดโสธรวราราม จ.ฉะเชิงเทรา



2.ยังไม่ยืนยันสถานะ ติดต่อไม่ได้ คือ พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก /พระปริยัติธาดา วัดกัลยาณมิตร

ทราบว่า ไม่ได้อยู่ที่วัดแล้วทั้งสองรูป



โดย มส.มีมติให้เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ และเจ้าคณะใหญ่หนกลาง เรียกมาชี้แจงข้อเท็จจริง หากไม่มาจะถือว่ามีโทษ



3.กลุ่มที่ยังมีสถานะพระภิกษุ คือ พระเทพปวรเมธี วัดประยุรวงศาวาส และพระเทพวัชรสิทธิเมธี เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร



และ 4.ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสแล้ว คือ พระเทพพัชราภรณ์ วัดชูจิตธรรมาราม



ด้าน นายชัชพล กล่าวถึง มาตรการระยะกลางและระยะยาว ให้คณะสงฆ์ที่เป็นคณะผู้ปกครองให้สอดส่องดูแลพระสงฆ์ในสังกัดอย่างใกล้ชิด ให้ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย กฎหมาย กฎระเบียบอย่างใกล้ชิด หากพบการละเมิดให้ดำเนินการสืบสวน และรายงานต่อมหาเถรสมาคมโดยเร็ว



ทั้งนี้ให้สำนักพุทธ เป็นหน่วยงานหลัก ในการประสานงานติดตามข้อมูล และดำเนินการแก้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น หากงานเกินกำลังของสำนักพุทธและมส.ขอบิณฑบาตให้รัฐบาล เข้ามาช่วยดูแลและแก้ปัญหา ที่เกิดขึ้น



ส่วนรายละเอียด มติ มส. 6 ข้อ ในที่ประชุมวาระพิเศษ ถึงแนวทางจัดการ พระสงฆ์ ทำผิดวินัย "ครุกาบัติ" ( คือ อาบัติหนัก) ได้แก่



1.หากพระรูปใดต้องอาบัติปาราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสละสมณเพศตามกฎหมายโดยทันที



2. ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบ ดูแล และกำกับพฤติกรรมพระภิกษุในปกครองอย่างใกล้ชิด



3.กรณีพระภิกษุ ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดพระธรรมวินัยประเภทครุกาบัติ

-ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ตามลำดับชั้น ออกคำสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อน

-ให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ที่พบเห็นพยานหลักฐาน หรือพฤติการณ์ พระภิกษุกระทำความผิด ให้ร่วมมือกับเจ้าคณะพระสังมาธิการ พระวินยาธิการ และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

-หากยังไม่มีคำพิพากษา การลงโทษ พึงระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชน สาธารณชน



4.ให้เร่งปรับปรุงกลไกการทำงานเชิงบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง



5.กระบวนการทั้งปวงต้องจัดลำดับความสำคัญของการตรากฎหมาย กฎระเบียบ ออกคำสั่งหรือมีมติ

-หลักพระธรรมวินัย

-หลักความยุติธรรม

-หลักการปกครองคณะสงฆ์ตามพระธรรมวินัย

-หลักการบังคับใช้พระธรรมวินัย กฎหมาย กฎ ระเบียบ คำสั่ง และมติ อันเป็นส่วนปกครองคณะสงฆ์อย่างเข้มงวด



6.เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้ แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษ เพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาขึ้นอีกคณะ

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/yKmRTAVDPfI