สังคม
ลูกสาวร้อง แม่หอบเงินหนีไปกับชู้ ทิ้งหนี้ก้อนโต ยายติดเตียงให้พ่อเลี้ยงดูแล
24 มิ.ย. 2568
202 views
ลูกสาวร้อง แม่ทิ้งครอบครัว หอบเงิน หนีไปอยู่กับเพื่อนพ่อ ปล่อยพ่อเลี้ยงดูแลแม่ตัวเองป่วยชรานอนนอนติดเตียง
จากกรณีลูกสาวร้อง แม่ทิ้งครอบครัวหนีไปอยู่กับเพื่อนของพ่อเลี้ยง ทิ้งตนเป็นเสาหลักหาเลี้ยงครอบครัว ทิ้งแม่แท้ๆ (ยาย) ที่ป่วยติดเตียงให้พ่อเลี้ยงที่คบกันมา 20 ปี คอยดูแล หวังให้แม่คิดถึงใจน้องชายทั้งสองคน ลั่นเกลียดมือที่สาม ที่มาทำให้ครอบครัวต้องเป็นแบบนี้ ต่อให้มีเงินมากมายแค่ไหนก็หาความสุขไม่ได้
ต่อมาทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ได้พูดคุยกับ คุณพิมลพรรณ (สงวนนามสกุล) ลูกสาวคนโต อายุ 24 ปี เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า แม่ของตนมีลูกติด คือตนและน้องชายอีก 1 คน จากนั้นปี 2550 แม่ได้ไปพบรักกับพ่อเลี้ยงชื่อว่าศร (นามสมมุติ) และใช้ชีวิตร่วมกันมาจนมีลูกชายคนเล็กเพิ่มอีก 1 คน ปัจจุบันอายุ 14 ปี และตนยังมียายที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ และนอนติดเตียงอยู่ ซึ่งอาศัยอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งในจังหวัดน่าน ถึงพ่อศร จะเป็นเพียงพ่อเลี้ยงแต่ก็ดูแลตนและน้องๆ ซึ่งเป็นลูกติดแม่มาเป็นอย่างดีเปรียบเสมือนลูกในไส้ ไม่เคยขาดตกบกพร่อง
ต่อมาพอตนเองโตขึ้นอายุประมาณ 21 ปี เมื่อ 2564 แม่และพ่อเลี้ยงย้ายมาเปิดธุรกิจขายหมูทอดที่กรุงเทพฯ ซึ่งให้ตนคอยดูแลยายที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์และนอนติดเตียงอยู่ที่บ้านภายในจังหวัดน่าน จนทำให้แม่และพ่อเลี้ยงทำธุรกิจจนมีเงินทองมีเงินเก็บจำนวนมากพอที่จะเลี้ยงดูทางบ้านและทุกคนได้
ล่าสุด เดือนกุมภาพันธ์ 2568 พ่อศร รู้ว่าแม่ของตัวเองเสียชีวิตจึงต้องกลับไปที่จังหวัดอุบลราชธานีเพื่อทำพิธีฌาปนกิจแม่เป็นครั้งสุดท้าย
ซึ่งในเวลาเดียวกัน คุณยายของตน (แม่ของแม่) ประสบอุบัติเหตุล้มและมีอาการทรุดหนัก แม่จึงเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปดูแลยายที่ จังหวัดน่อน เพื่อมาดูแลคุณยายตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา
โดยให้ตนเองย้ายไปช่วยขายของกับพ่อศร ที่กรุงเทพฯแทน ซึ่งทุกครั้งที่พ่อจะกลับไปหาแม่ที่จังหวัดน่าน พ่อมักจะพบปะเพื่อนฝูงและตั้งวงดื่มเหล้ากับเพื่อนๆตามประสาคนรู้จักหนึ่งในนั้นมีเพื่อนที่ชื่อว่านายหำ ซึ่งนายหำมีครอบครัวอยู่แล้ว ซึ่งภรรยาของไอ้หำก็เป็นเพื่อนกับแม่ของตนเอง พอพ่อศรกลับมากรุงเทพฯมาค้าขายช่วยตนเอง ช่วงเดือนมีนาคม 2568 พ่อศร เริ่มระแคะระคาย ว่าแม่น่าจะคบหากับนายหำ รวมถึงน้องชายคนเล็กจะมักโทรมาบอกกับพ่อศร ว่าเดี๋ยวนี้แม่แต่งตัวสวยออกไปข้างนอกกับนายหำทุกวัน บางครั้งมานั่งดื่มสังสรรค์ที่หน้าบ้านกันสองต่อสอง เข้าบ้านตี 2 ถึงตี 3
พ่อศร จึงตัดสินใจนั่งดูกล้องวงจรปิด และติด GPS ไว้กับรถจักรยานยนต์ของแม่สุดท้ายสัญญาณจับว่าแม่ไปอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง แต่แม่ก็ไม่ยอมรับ รวมถึงพ่อได้คุยกับนายหำตรงๆ แต่ในหำก็ไม่ยอมรับเช่นกัน ต่อมาไม่นานช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา แม่ของตนขอเลิกกับพ่อศร และขอแบ่งทรัพย์สินคนละครึ่ง แต่พ่อศรไม่ยอม บอกว่าจะต้องแบ่งให้ลูกๆด้วย
ปรากฏว่า วันที่ 22/06/2568 เวลาประมาณ 23.00น. แม่แท้ๆของตนเองได้เก็บกระเป๋าและออกจากบ้านโดยใช้รถจักรยานยนต์ พ่อศรจึงรีบขับรถกลับไปที่จังหวัดน่านเพื่อที่จะไปพูดคุยกับแม่ แต่ก็ไม่ทัน พอพ่อกลับไปดูที่ตู้เซฟ ก็พบว่าแม่ได้เอาเงินเก็บของครอบครัวไปจำนวน 400,000 บาท และสร้อยคอทองคำอีก 4 บาท และทิ้งคุณยายที่ป่วยนอนติดเตียง และน้องชายคนเล็กไว้ที่บ้าน หนีตามนายหำไป
ซึ่งปัจจุบันตนเองก็ไม่รู้ว่าทำไมแม่ถึงตัดสินใจแบบนี้ ทิ้งพ่อเลี้ยง และลูกๆ รวมถึงแม่ของตัวเองพี่ป่วยติดเตียง ไปใช้ชีวิตหาความสุขให้กับตัวเอง ทิ้งคนที่หาเงินยากลำบากมาด้วยกัน ทำให้พ่อศรนั่งร้องไห้ทุกวัน และต้องคอยดูแลยายที่ป่วยติดเตียงอยู่ที่บ้าน เดินไม่ค่อยได้ และตนเองต้องทำงานค้าขายแทนพ่อศร และส่งเงินให้พ่อที่บ้านเพื่อช่วยใช้หนี้ของแม่ที่ไม่ยอมจ่ายหนี้สินที่ไปติดค้างเขาไว้ จำนวน 500,000 บาท
ตอนนี้ตนรู้สึกรังเกียจมือที่สาม หรือไม่หำเป็นอย่างมากที่ทำให้ครอบครัวของตนเองเป็นแบบนี้ ถ้าแม่ไม่ใจอ่อนคิดถึงพ่อบ้างคิดถึงยายบ้างและคิดของครอบครัวบ้าง ครอบครัวก็คงไม่เป็นแบบนี้
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/vl6BCsJqWkE
แท็กที่เกี่ยวข้อง