หญิงวัย 52 ช้ำ มิจจี้หลอกให้รัก จดทะเบียนสมรส ก่อนชวนลงทุน สุดท้ายสูญหลายแสน ก่อนหนีหาย หย่าไม่ได้

หญิงวัย 52 สุดช้ำหอบหลักฐานร้องสื่อถูกมิจฉาชีพหลอกให้รัก ชวนจดทะเบียนสมรส ลงทุนธุรกิจ อ้างชื่อคนดังเพียบ เสียทั้งตัวเสียทั้งเงิน สุดท้ายกลายเป็นมิจฉาชีพที่มีหมายจับในคดีฉ้อโกงหลายคดี



ผู้เสียหายเป็นแม่ค้าขายส้มโอ วัย 52 ปี ชื่อคุณสุ (นามสมมุติ) ได้นำเอกสารการโอนเงิน หมายศาลหมายจับ และทะเบียนสมรส มาร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า เธอเจอกับผู้ชายคนหนึ่งในแอปหาคู่ชื่อนายปารมี อายุ 59 ปี ชาว จ.สุโขทัย แล้วคุยกันถูกคอก็เลยคุยกันมาทุกวันเป็นเวลาประมาณ 1 เดือน สุดท้ายผู้ชายคนนี้บอกรักเธอ แล้วก็จะมาสู่ขอ พี่น้องก็เลยรวมตัวกัน หาฤกษ์แต่งงานให้เสร็จสรรพ



แต่หลังแต่งงานอยู่กินกันฉันท์สามีภรรยา เขาก็เริ่มเข้ามายุ่งเรื่องเงินอ้างว่า ทำธุรกิจกับแม่ค้าออนไลน์คนดัง แต่ว่าแม่ค้าคนนี้ไม่ยอมเสียภาษีให้ จึงถูกอายัดบัญชี ขอยืมเงินก่อน 3 หมื่นบาท เพื่อไปปลดล็อกบัญชี 3 วันจะคืนให้ แต่รอมาเป็นปีก็ยังไม่ได้คืน เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร



ต่อมาอีกประมาณหนึ่งเดือน เขาก็มารับไปอยู่บ้านแม่ที่นครศรีธรรมราช โดยให้เธอเลี้ยงดูครอบครัวเขาทุกอย่าง เงินทองก็ยืมจากพี่น้องไปให้เขา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเอาไปทำอะไรด้วยความรักก็เลยไม่ได้ถาม



จนกระทั่งวันที่ 8 สิงหาคม ปี 67 เขาได้ขอเธอจดทะเบียนสมรส โดยอ้างว่าจะให้ไปกู้เงินมาลงทุนที่เกาะสมุย เพราะเครดิตดี โดยเอาเงินไปลงทุนทำสวนมะพร้าว ส่งให้บริษัทผลิตกระทิ แล้วก็ยังอ้างชื่อคนดังอีกหลายคน พออยู่ไปอยู่มาเธอกลายเป็นหนี้ถึง 3 แสนบาท ก็เลยเริ่มจะทวงถาม ว่าเงินที่ให้ไปไม่เห็นเอามาคืนบ้างเลย พอถามหลายครั้งก็กลายเป็นว่าทะเลาะกัน



ต่อมารู้ว่าเขาโกงน้ำผึ้ง มีผู้เสียหายหลายคน มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท แล้วก็ยังได้ข่าวว่าไปจีบพยาบาล ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งด้วย โดยไปเจอกันให้แอปหาคู่เหมือนกัน แล้วใช้มุกเดิมคือหยิบยืมเงินเหมือนเธอ เธอก็เลยเอะใจไปเปิดกระเป๋าที่เขาหวงนักหวงหนา ปรากฎว่าไปเจอหมายจับ 3 หมาย ที่ซ่อนไว้ในกระเป๋า ส่วนใหญ่เป็นคดีฉ้อโกง ยักยอกทรัพย์ ก็เลยรู้ความจริง แต่เธอก็ทำเฉยไว้ก่อน เพื่อจะรอให้เขาคืนเงิน เพราะเขาบอกว่า ถ้าขายบ้านได้ 4 แสนบาท จะคืนให้หมด แต่สุดท้ายก็ไม่ได้คืน แถมยังหายตัวเข้ากลีบเมฆไปแล้ว



หลังรู้ว่าถูกหลอกเธอเลยไปแจ้งความที่ สภ.บางคนที ตั้งแต่ปี 67 แต่คดีไม่คืบ ตำรวจแค่ปลอบให้ไปค้าขายอย่างเก่าเถอะ ทั้งนี้อยากจะหย่า แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้หย่า เพราะว่าต้องไปเปลี่ยนนามสกุลเป็นของสามีก่อน ถึงจะหย่าได้ เธอไม่รู้จะทำยังไง เพราะกลัวถูกดำเนินคดีเรื่องฉ้อโกงร่วมกับเขา ช้ำยังมีเรื่องโกงค่าเช่าบ้าน ค่าสินค้าด้วย จึงมาร้องสื่อให้ช่วยเหลือ อยากให้คนมาช่วยเรื่องหย่า และอยากให้ตำรวจจับตัวให้ได้โดยเร็ว และได้ไม่ไปหลอกใครอีก



ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้คุยโทรศัพท์กับผู้เสียหายอีกรายที่เป็นนางพยาบาล ชื่อคุณเอ (นามสมมุติ) อายุ 45 ปี เธอบอกว่า ถูกนายปารมีหลอก หลังรู้จักในแอพหาคู่เมื่อปลายปี 67 จากนั้นก็ได้พูดคุยทำความรู้จักกัน จนมาวันหนึ่งเขาได้ทักมาขอยืมเงิน 1,500 บาท อ้างว่ามีปัญหาเรื่องเงิน เงินไม่สามารถถอนออกจากบัญชีได้ ต้องเอาเงินไปจ่ายเจ้าหน้าที่ศุลกากรก่อนและจะคืนให้ตอนเย็น จึงโอนเงินให้ไปแต่สุดท้ายไม่คืนให้ตามกำหนด เลยทวงถามสุดท้ายทยอยคืนให้ และมารู้จากอดีตภรรยาเขาว่า เป็นมิจฉาชีพเลยไม่ได้ติดต่อกันอีก



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/9jvcfSpgCZU